ก็ในการบรรลุปฏิสัมภิทา ไม่มีการบำเพ็ญเพียรใน
กรรมฐานภาวนาโดยเฉพาะอีก, ส่วนพระเสกขบุคคล มีผละและวิโมกขะของพระเสกขะเป็นที่สุด การบรรลุปฏิสัมภิทา ก็ย่อมมีได้.
อธิบายว่า ปฏิสัมภิทาทั้งหลาย ย่อมสำเร็จแก่บรรดาพระอริยะบุคคลด้วยอริยผลทั้งหลายนั่นแล
ดุจทสพลญาณสำเร็จแก่พระตถาคตทั้งหลายฉะนั้น.
อันธรรมดาว่าการเรียนพระพุทธพจน์แม้มากมาย
แล้วบรรลุปฏิสัมภิทา ย่อมไม่มีแก่ปุถุชน, แต่พระอริยสาวกที่จะชื่อว่าไม่บรรลุปฏิสัมภิทานั้นย่อมไม่มีเลย.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑ - มมร. เล่ม 68 หน้าที่ 20
ไม่ทราบว่าวิทยากรมีความเห็นว่าอย่างไรครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ปฏิสัมภิทา คือ ความรู้แตกฉานในธรรม ๔ อย่าง ได้แก่ ในเหตุ ๑ ในผล ๑ ในภาษา ๑ ในปฏิภาณ ๑ ซึ่งปุถุชน ไม่มีปฏิสัมภิทา แต่ พระอริยบุคคลเท่านั้นที่มีปฏิสัมภิทา
พระอริยบุคคลทุกขั้น มีปฏิสัมภิทาญาณ แม้พระโสดาบันก็มีครับ รวมทั้งพระอรหันต์สุกขวิปัสสก แต่ไม่บริบูรณ์ เท่ากับพระอรหันต์ ที่เป็นมหาสาวก สำหรับพระมหาสาวกทุกท่านมีปฏิสัมภิทาต่างกันได้ คือ มีปัญญาแตกฉานตามการสะสม เช่น ท่านพระสารีบุตรย่อมแตกฉานมากกว่ามหาสาวกท่านอื่นๆ ครับ ดังนั้น พระอริยบุคคลทุกขั้นมีปัญญาแตกฉานที่เป็นปฏิสัมภิทา แต่แตกต่างกันไป มีมาก มีน้อย ผู้ที่มีมาก ก็เรียกได้ว่า เป็นผู้มีปฏิสัมภิทา 4 นั่นเอง ครับ ซึ่งพระอรหันต์ ที่เป็นสุกขวิปัสสก ดับกิเลสอย่างเดียว แต่ไม่ได้มีฤทธิ์ แต่ท่านก็ต้องอบรมวิปัสสนา จนถึงขนาดดับกิเลสได้ ดังนั้นท่านก็ต้องมีปัญญา แตกฉานบ้าง ในธรรม ในอรรถ บ้างครับ และ แม้พระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี ท่านก็ต้อง ประจักษ์ความจริงของ สภาพธรรม ดับกิเลสได้บางส่วน และประจักษ์พระนิพพานด้วย เพราะฉะนั้น ท่านก็มี ปฏิสัมภิทา ความแตกฉาน ในด้านต่างๆ ตามสมควร ดังเช่น พระอานนท์ เมื่อยังเป็นพระโสดาบัน ท่านก็เป็นผู้เลิศ ใน 5 สถาน และ มีความแตกฉาน ในพระธรรมมาก ก็เป็น ผู้มีปฏิสัมภิทา เช่นกัน แต่ตามสมควรกับกับความเป็นพระโสดาบัน ครับ ดังข้อความในพระไตรปิฎก
[เล่มที่ 68] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑ - หน้าที่ 20
อันธรรมดาว่า การเรียนพระพุทธพจน์แม้มากมาย แล้วบรรลุปฏิสัมภิทา ย่อมไม่มีแก่ ปุถุชน, แต่พระอริยสาวกที่จะได้ชื่อว่าไม่บรรลุปฏิสัมภิทานั้น ย่อมไม่มีเลย.
---------------------------------------------------------
เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ ครับ
ในยุคปัจจุบันยังมีผู้ที่ได้ปฏิสัมภิทาหรือไม่
ทางคืออุบายเป็นเครื่องบรรลุปฏิสัมภิทา [ปฎิสัมภิทามรรค]
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระอริยบุคคลทุกระดับขั้น ตั้งแต่พระโสดาบันจนถึงพระอรหันต์ ย่อมเป็นผู้ได้ปฏิสัมภิทา ๔ คือ แตกฉาน ในเหตุ ๑ ในผล ๑ ในนิรุตติ ๑ และ ในปฏิภาณ ๑ ซึ่งมีระดับที่แตกต่างกันตามปัญญา ส่วนปุถุชน แม้จะมีการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาสะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ยังไม่มีปฏิสัมภิทา เพราะปัญญายังไม่ถึงความเจริญคมกล้า ที่จะประจักษ์แจ้งพระนิพพาน และดับกิเลสได้ ตามลำดับขั้น และยังไม่สามารถดับความเห็นผิด ความลังเลสงสัย ในสภาพธรรม เป็นต้น ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
สาธุค่ะ
อนุโมทนาสาธุครับ
อนุโมทนาสาธุครับ
กราบอนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ