ผมถามนะครับ จิตก่อนสิ้นลมหายใจ เป็นอย่างไร ทรมานไหม ผมเป็นคนคิดมาก มีห่วงอยู่มาก ผมเคยคิดทุกครั้งนะครับ ก่อนนอน เวลาเราสิ้นลมหายใจสุดท้าย จะทรมานไหม แล้วเป็นอย่างไร จะไปทางไหน มีคนบอกผมหลายคนว่า จิตก่อนตาย เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และเวลาสิ้นแล้ว เหมือนเราอยู่คนเดียวท่ามกลางความมืด จริงไหมครับ
เรื่องความเป็นไปในขณะใกล้ตายแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นผู้ที่สิ้นอาสวะกิเลสแล้วไม่มีปัญหา เพราะท่านไม่เกิดอีก สำหรับผู้ที่มีศีล และทำบุญไว้ในชาตินี้มาก บางท่านมีราชรถจากสวรรค์มารับ คือสิ้นลมอย่างไม่ทรมาน ไม่กลัวอะไรเลย แต่ผู้ที่ทำแต่บาปไว้มาก ในเวลาใกล้ตายจะกลัว และทรมานมากเหมือนนายจุนทสูกริก ในธรรมบท
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๑ หน้าที่ 170
๑๐. เรื่องนายจุนทสูกริก
ข้อความเบื้องต้น
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเวฬุวัน ทรงปรารภบุรุษชื่อ จุนทสูกริก ตรัสพรธรรมเทศนานี้ว่า "อิธ โสจติ เปจฺจ โสจติ" เป็นต้น.
นายจุนทะเลี้ยงชีพด้วยการเลี้ยงสุกรขาย ได้ยินว่า นายจุนทสูกริกนั้น ฆ่าสุกรทั้งหลายกินบ้าง ขายบ้าง เลี้ยงชีวิตอยู่สิ้น ๕๕ ปี. ในเวลาข้าวแพง เขาเอาเกวียนบรรทุกข้าวเปลือก ไปสู่ชนบทแลกลูกสุกรบ้าน ด้วยข้าวเปลือกประมาณ ๑ ทะนาน หรือ ๒ ทะนาน บรรทุกเต็มเกวียนแล้วกลับมา ล้อมที่แห่งหนึ่งดุจคอกข้างหลังที่อยู่แล้วปลูกผักในที่นั้นนั่นแล เพื่อลูกสุกรเหล่านั้น เมื่อลูกสุกรเหล่านั้น กินกอผักต่างๆ บ้าง สรีรวลัญชะ (คูถ) บ้าง ก็เติบโตขึ้น (เขา) มีความประสงค์จะฆ่าตัวใดๆ ก็มัดตัวนั้นๆ ให้แน่น ณ ที่ฆ่าแล้ว ทุบด้วยค้อน ๔ เหลี่ยม เพื่อให้เนื้อสุกรพองหนาขึ้น รู้ว่าเนื้อหนาขึ้นแล้ว ก็ง้างปากสอดไม้เข้าไปในระหว่างฟัน กรอกน้ำร้อนที่เดือดพล่าน เข้าไปในปากด้วยทะนานโลหะ. น้ำร้อนนั้น เข้าไปพล่านในท้อง ขับกรีสออกมาโดยส่วนเบื้องต่ำ (ทวารหนัก) กรีสน้อยหนึ่งยังมีอยู่เพียงใด ย่อมออกเป็นน้ำขุ่นเพียงนั้น เมื่อท้องสะอาดแล้ว
ฯลฯ
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๑ หน้าที่ 172
นายจุนทะเสวยผลกรรมทันตาเห็น
เมื่อความเร่าร้อนนั้น ปรากฏแก่นายจุนทสูกริกนั้นแล้ว อาการอันเหมาะสมด้วยกรรมก็เกิดขึ้น. เขาร้องเสียงเหมือนหมู คลานไปในท่ามกลางเรือนนั่นเอง ไปสู่ที่ในทิศตะวันออกบ้าง สู่ที่ในทิศตะวันตกบ้าง ลำดับนั้น พวกคนในเรือนของเขา จับเขาไว้ให้มั่นแล้วปิดปาก
ธรรมดาผลแห่งกรรม อันใครๆ ไม่สามารถจะห้ามได้. เขาเที่ยวร้องไป ข้างโน้นบ้าง ข้างนี้บ้าง คนใน ๗ หลังคาเรือนโดยรอบ ย่อมไม่ได้หลับนอน
อนึ่ง คนในเรือนทั้งหมด เมื่อไม่สามารถจะห้ามการออกไปภายนอกของเขาผู้ถูกมรณภัยคุกคามแล้วได้ จึงปิดประตูเรือนล้อมรักษาอยู่ภายนอกเรือน โดยประการที่เขาอยู่ภายใน ไม่สามารถจะเที่ยวไปข้างนอกได้
เสวยผลกรรมในสัมปรายภพ
แม้นายจุนทสูกริก เที่ยวร้องไปข้างโน้นบ้าง ข้างนี้บ้าง ภายในเรือนนั่นเอง ด้วยความเร่าร้อนในนรก เขาเที่ยวไปอย่างนั้นตลอด ๗ วัน ในวันที่ ๘ ทำกาละแล้ว ไปเกิดในอเวจีมหานรก
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ