ผมได้อ่านพระไตรปิฎกเล่มที่ 24 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 16 อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาท ข้อที่ 46 สักกสูตร มีใจความพอสรุปได้ว่า "พระพุทธเจ้าได้ตรัสถามอุบาสกชาวสักกะว่า ยังรักษาอุโบสถศีลอันประกอบด้วยองค์ 8 อยู่หรือเสมอหรือ?" พวกอุบาสกกราบทูลว่า "บางคราวรักษา บางคราวก็ไม่ได้รักษา" พระพุทธองค์ทรงตำหนิว่า "อุบาสกชาวสักกะทั้งหลาย ไม่เป็นลาภของท่านแล้ว ท่านเสื่อมจากความดีแล้ว ในเมื่อชีวิตมีภัยเพราะความโศกมีภัย เพราะความตายอยู่อย่างนี้ เหตุใดบางคราวก็รักษาอุโบสถ 8 บางคราวก็ไม่รักษา?" แล้วพระพุทธเจ้าก็ทรงสรุปตอนท้ายว่า "อุบาสกชาวสักกะทั้งหลาย ส่วนสาวกของเรา เป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยว ปฏิบัติตามที่เราพร่ำสอนอยู่ตลอด 100 ปี พึงเป็นผู้มีความสุขโดยส่วนเดียวตลอดร้อยปีก็มี หมื่นปีก็มี แสนปีก็มี สาวกของเรานั้น ที่เป็นสกทาคามีก็มี เป็นอนาคามีก็มี เป็นโสดาบันปฏิบัติไม่ผิดก็มี..." "เมื่อชีวิตมีภัยเพราะความโศก มีภัยเพราะความตายอยู่อย่างนี้ เหตุใดบางคราวจึงรักษาอุโบสถศีล อันประกอบด้วยองค์ 8 และบางคราวจึงไม่รักษาเล่า?" พวกอุบาสกชาวสักกะกราบทูลตอบว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เหล่านี้ จะรักษาอุโบสถศีล 8 เป็นประจำ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป"
ขอเรียนถามว่า ในสักกสูตรนี้หรือเปล่าที่ทำให้ปัจจุบัน มีผู้นิยมถืออุโบสถศีล 8 หรือที่เรียกว่าบวชชีพราหมณ์ หรือถือศีล 8 ทุกวันพระ โดยเรียกว่าไปปฏิบัติธรรม ถือศีล มีการสวดมนต์ทำวัตรเช้า - เย็น นั่งสมาธิบ้าง ตามแต่หัวหน้าที่เป็นผู้นำในการปฏิบัติจะดำเนินพิธีการต่างๆ ขอให้ท่านช่วยอธิบายให้แจ่มชัดยิ่งขึ้นว่า เพราะเหตุไรพระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสให้ถืออุโบสถศีล 8 ทุกวันแก่ชาวสักกะ
ขอขอบพระคุณครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การรักษาศีลอุโบสถ จุดประสงค์เพื่อขัดเกลากิเลสมากขึ้น แต่ต้องรู้จักอุปนิสัยของตน และจุดประสงค์ว่ารักษาเพื่ออะไร ถ้ารักษาเพื่อจะได้บุญมากหรือเพื่ออานิสงส์อื่น รวมทั้ง จะได้เกิดในภพที่ดี เป็นเทวดาเป็นต้น ตรงนี้ไม่ใช่จุดประสงค์ที่ถูกต้อง แต่ที่ถูกคือ เพื่อขัดเกลากิเลสของตนเองเพิ่มขึ้นจากศีล 5 และเป็นไปเพื่อการละและดับกิเลสส่วนเดียวเท่านั้นครับ ดังข้อความในพระไตรปิฎกเรื่อง จุดประสงค์ที่ถูกและผิดในการรักษาศีลอุโบสถครับ
ข้อความบางตอนจาก
ทุติยราชสูตร
[๔๗๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ท้าวสักกะจอมเทวดา เมื่อจะปลุกใจเหล่าเทวดาดาวดึงส์ จึงภาษิตคาถานี้ในเวลานั้นว่า
แม้ผู้ใดพึงเป็นเช่นดังข้าพเจ้า ผู้นั้นก็พึงถืออุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘ ในดิถีที่ ๑๔ ที่ ๑๕ และที่ ๘ แห่งปักษ์ และถืออุโบสถปาฏิหาริยปักษ์เถิด
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลคาถานั้นนั่น ท้าวสักกะจอมเทวดาขับไม่เข้าที ไม่เป็นการขับดีแล้ว กล่าวไม่เหมาะ ไม่เป็นสุภาษิต นั่นเพราะเหตุอะไร เพราะท้าวสักกะจอมเทวดายังไม่ปราศจากราคะ ...โทสะ ...โมหะ ส่วนภิกษุผู้เป็นพระอรหันต์สิ้นอาสวะแล้ว สำเร็จแล้ว ทำกิจที่ควรทำแล้ว ปลงภาระแล้ว เสร็จประโยชน์ตนแล้ว สิ้นเครื่องร้อยรัดไว้ในภพแล้ว หลุดพ้นด้วยความรู้ชอบแล้ว จึงควรกล่าวคาถานั่นว่า
แม้ผู้ใดพึงเป็นเช่นดังข้าพเจ้า ผู้นั้นก็พึงถืออุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘ ในดิถีที่ ๑๔ ที่ ๑๕ และที่ ๘ แห่งปักษ์ และถืออุโบสถปาฏิหาริยปักษ์เถิด
นั่นเพราะเหตุอะไร เพราะภิกษุนั้น ปราศจากราคะ โทสะ โมหะแล้ว
ดังนั้นยิ่งอยากได้บุญ ก็ยิ่งไม่ใช่บุญ เพราะ ความอยากเป็นบาป เป็นโลภะ หากไม่สะดวกในการรักษา ผู้มีปัญญาก็เจริญบุญประการอื่นๆ เพราะ บุญ คือ สภาพจิตที่ดี ไม่ใช่ มีแค่การรักษาอุโบสถ การให้ทาน การฟังธรรม โดยเฉพาะ บุญ คือ ปัญญา ประเสริฐสุด อันเกิดจากการฟัง ศึกษาพระธรรมที่ถูกต้อง ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ทั้งหมดต้องมีจุดประสงค์ที่ถูกต้องจริงๆ แม้แต่ในเรื่องของการรักษาศีล ๘ เพื่อประโยชน์แก่การขัดเกลากิเลสของตนเอง ไม่ใช่เห็นว่า ศีล ๘ มากกว่าศีล ๕ ก็รักษา โดยที่ไม่มีความเข้าใจอะไร ไม่ได้มุ่งที่จะขัดเกลากิเลสเลย อย่างนี้ย่อมไม่ถูกต้อง ทั้งหมดเป็นเรื่องของการขัดเกลา และจะต้องศึกษาพระธรรมให้เข้าใจด้วย ไม่ใช่เพียงการรักษา นับข้อ หรืออยากได้บุญ เพราะเหตุว่า บุญ ไม่ใช่เรื่องอยาก ไม่ใช่เรื่อง ได้ แต่เป็นธรรมฝ่ายดีที่เกิดขึ้นชำระจิตให้สะอาดจากอกุศล ขณะที่อยาก ไม่ใช่บุญ เนื่องจากเป็นอกุศล ถ้าไม่สามารถรักษาศีล ๘ ได้ ก็พึงเป็นผู้รักษาศีล ๕ พร้อมทั้งมีการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาตามที่คฤหัสถ์จะพึงกระทำได้ อย่างนี้ ก็เป็นสิ่งที่ดีแล้ว ดีกว่าไปกระทำอะไรด้วยความไม่รู้ ด้วยความอยาก ด้วยความเข้าใจผิด ครับ.
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ผมเข้าใจแล้วครับ แต่ผมยังไม่สามารถอธิบายให้แก่ผู้ที่มาถือศีลทุกวันพระให้เข้าใจแจ่มแจ้ง เพราะผมได้เคยไปสนทนากับผู้ที่ถือศีล 8 เป็นประจำ พวกเขาทั้งหลายก็ยังยึดมั่นอยู่ว่า ถือศีล 8 จะทำให้ชีวิตดีขึ้น ผมขอขอบพระคุณในคำอธิบายครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ ขอเชิญอ่านกระทู้ด้านล่างเพิ่มเติมค่ะ
จำเป็นไหมที่ควรจะรักษาอุโบสถ เพื่อขัดเกลากิเลส
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ