ข้อความบางตอนจากการบรรยายธรรมโดยท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ข้อความต่อไป พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัส เรื่องอาการต่างๆ ของโลภะ ซึ่งเป็นเครื่องฉาบทาโลก ซึ่งได้เคยกล่าวถึงแล้ว เป็นข้อความที่ยาว เช่นข้อความที่ว่า ตัณหาเรียกว่า "ชัปปา" ความกำหนัด ความกำหนัดนัก ความยินดี ความพลอยยินดีเป็นต้น ความอยาก ความพัวพัน ความข้อง ความจม ความหวั่นไหว ความลวงธรรมชาติอันให้สัตว์เกิด ธรรมชาติอันยังให้สัตว์เกิดกับทุกข์ (ความเป็นผู้หลับ) ธรรมชาติอันเย็บไว้ ธรรมชาติเพียงดังข่าย ธรรมชาติอันไหลไป ธรรมชาติอันซ่านไปในอารมณ์ต่างๆ ความเป็นผู้หลับ ความกว้างขวาง ธรรมชาติอันให้อายุเสื่อม ความเป็นเพื่อน ความตั้งใจไว้ ธรรมชาติอันนำไปสู่ภพ
แต่ละลักษณะ แต่ละอาการนี้ ก็เป็นสภาพของโลภะ ซึ่งอาจจะไม่รู้สึกตัวเลยค่ะ เพราะว่า โลภะ อยู่ด้วยเป็นประจำ ถ้าโลภะอยู่ด้วยเป็นประจำ จะรู้ไหมคะ ว่าขณะนั้นเป็นโลภะ เช่น ในขณะที่ธรรมชาติ ที่ความเป็นเพื่อน มีเพื่อนอยู่แล้วทุกคน นะคะ ยังอยากได้เพื่อนอีกไหมคะ โลภะ เป็นเพื่อนสนิทยิ่งกว่าใคร อยู่ด้วยกันทุกค่ำเช้าตั้งแต่เกิด และ ทุกภพทุกชาติตลอดไป มีเพื่อนอยู่แล้ว ยังปรารถนาเพื่อนอื่่นอีกก็แสดงให้เห็นว่า ต้องการเพิ่มโลภะอีก ไม่มีการที่จะเห็นว่า เพียงโลภะที่มีอยู่เป็นประจำก็น่าจะพอแล้ว ยังต้องการเพื่อนของโลภะ หรือว่าเพิ่มเพื่อนให้กับโลภะอีกมีข้อสงสัยอะไรไหมคะในเรื่องนี้
ท่านอาจารย์ ทางมโนทวารวิถี ซึ่งเกิดสลับกับทางปัญจทวารวิถี เพราะว่าทางตาในขณะนี้ก็ยังมีเห็น มีรูปารมณ์ แต่เมื่อไม่พิจารณา ก็ยึดถือ ทางมโนทวาร ว่ารูปารมณ์ที่ปรากฏนั้น เป็น สัตว์ บุคคล ต่างๆ ที่แท้แล้ว ก็เป็นเพียงสี่งที่ ปรากฏทางตาเท่านั้นเอง
เพราะฉะนั้น ความคิดนึกในวันหนึ่งๆ นี่มากมายมหาศาล เพราะว่าพอเห็นแล้วก็เป็นเรื่องราว เป็นสัตว์ บุคคลต่างๆ พอได้ยินก็เป็นเรื่องราว สัตว์ บุคคลต่างๆ พอได้กลิ่นก็เป็นเรื่องราว สัตว์ บุคคลต่างๆ พอได้ลี้มรสก็เป็นเรื่องราว สัตว์ บุคคลต่างๆ
กระทบสัมผัสเป็นเรื่องราว วัตถุสิ่งต่างๆ ก็แสดงว่าโลกของเรื่องราวหรือความคิดนึกนี้มาก จนกระทั่งปิดบังลักษณะของปรมัตถธรรมที่ปรากฏชั่วขณะที่เล็กน้อย สั้นมาก เพราะว่าตามความเป็นจริงแล้ว ทางตา ต้องกำลังเกิดดับในขณะนี้ เช่นเดียวกับ ทางหู....ทางกาย ทางใจ แต่ศีรษะนี้ใหญ่มากใช่ไหมคะ อวิชชานี่แหละค่ะ วิธีที่จะรู้ว่าใหญ่แค่ไหน ก็คือทางตานี้ เห็นแล้วรู้ไหมถ้ายังไม่รู้ ก็รู้ได้ว่า ศีรษะนี้ใหญ่แค่่ไหน ทางหู.....ทางกาย ทางใจ โดยนัยเดียวกัน
สำหรับ ลักษณะของโลภะ มีข้อสงสัยอะไรบ้างไหมคะ เป็นความตั้งใจไว้นะคะ หรือว่าธรรมชาติเพียงดังว่า ป่า อยากไหมคะ ที่จะทำตาม เต็มไปด้วยต้นไม้นานาชนิด คือกิเลสนานาชนิด
ธรรมชาติ อันนำไปสู่ภพ
ธรรมชาติ เพียงดังว่า ป่า
ธรรมชาติเพียงดังว่า หมู่ไม้ในป่า
ความสนิทสนม
ความมีเยื่อไย
ถ้าไม่ค่อย สนิทสนม ก็ยังตัดง่าย ใช่ไหมคะ แต่ถ้ายิ่ง สนิทสนม ก็ยิ่งตัดยาก เพราะฉะนั้น โลภะ เป็น ความสนิทสนม ทุกๆ ชาติ จะละ โลภะ นี่ต้องยากมากทีเดียว ความพัวพัน ความเพ่ง ความหวัง กิริยาที่หวัง ความเป็นผู้หวัง หวังในรูป ทุกคนเลย ใช่ไหมคะ หวังในเสียง..... หวังในลาภ หวังในทรัพย์ หวังในบุตร หวังในชีวิต ความกระซิบ ความกระซิบทั่ว ความกระซิบยิ่ง กิริยาที่กระซิบ ความเป็นผู้กระซิบเวลาที่กระซิบเบาๆ คนอื่นยังได้ยิน ใช่ไหมคะ แต่เวลาโลภะ กระซิบนี้ ไม่่่มีใครได้ยินแต่กระซิบอยู่ตลอด เพราะฉะนั้น ก็รู้ได้เลยนะคะ ขณะไหน นึกคิดขึ้นมาด้วยโลภะ ขนะนั้นก็กระซิบไป เป็นเรื่องต่างๆ ความที่ตัณหาหวั่นไหว จริงไหมคะ กลัวไปเสียทุกอย่าง ถ้าหมดตัณหาก็หมดเรื่องที่จะกลัว แม้แต่ชีวิต หรือภัยของชีวิต แต่เพราะว่า ยังมีตัณหาอยู่ ยังมีความพอใจยึดมั่นอยู่ เพราะฉะนั้น ความที่ตัณหาหวั่นไหว กลัวว่าจะเสื่อมลาภ เสื่อมยศ เสื่อมสุข เสื่อมสรรเสริญ
ความโลภ ไม่สม่ำเสมอ ความใคร่ อาการที่ใคร่ ความปราถนา ความทะเยอ-ทะยาน ความประสงค์ ....... นี่ก็เป็น ลักษณะต่างๆ ของ ตัณหา
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของคุณหมอ เป็นอย่างยิ่งครับ
ขอบคุณและอนุโมทนาคุณ คำปั่น มากครับ ที่เป็นกำลังใจและเห็นคุณค่าในกุศลวิริยะของผม คุณ คำปั่น ก็เป็นผู้มีความรู้ ความเข้าใจ และกุศลวิริยะในธรรมมาก น่ายกย่องและน่าชมเชยยี่งนัก ครับ
เวลาโลภะ กระซิบนี้ ไม่มีใครได้ยิน
กระซิบอยู่ตลอด (ผมเองไม่ได้ยินและไม่รู้ตัวเลยครับ)
กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาท่านอาจารย์
และคุณหมอครับ
ขอบคุณและอนุโมทนาคุณ จักรกฤษณ์ครับ
"ก็รู้ได้เลยนะคะขณะไหนนึกคิดขึ้นมาด้วยโลภะ ขนะนั้นก็กระซิบไปเป็นเรื่องต่างๆ "
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของคุณหมอด้วยเช่นกันครับ
นอกเหนือไปจากการฟังแล้ว การที่ได้ "อ่าน" ข้อความที่ท่านอาจารย์บรรยายไว้โดยละเอียด ทำให้เข้าใจมากขึ้น เป็นประโยชน์มากๆ เลยครับ
ขอบคุณและอนุโมทนาคุณ วันชัย๒๕๐๔ มากครับ
อ่านแล้วมีประโยชน์มากค่ะ ทำให้เข้าใจความละเอียดของพระธรรมเพิ่มขึ้น
กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ที่ส่องไฟให้ และชี้ทางแก่ผู้ที่หลงอยู่ในป่าค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณหมอค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้คุณหมอ
กระทำความดีนี้ต่อไปคะ
ขอบคุณและอนุโมทนา
ขอชื่นชมและนับถือในกุศลวิริยะและปัญญาของคุณ เมตตา ครับ
ขออนุโมทนาครับ