ในงานไหว้ครูตามตำหนักบางที่ได้มีการเชิญพระพุทธเจ้ามาเข้าทรงอยากถามว่ามีคนทรงร่างขององค์พระพุทธเจ้าด้วยหรือครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
จากคำถามที่ว่า โดยความเข้าใจของคนทั่วไป "ร่างทรง" คืออะไร ร่างทรงในความหมายของคนทั่วไป ก็คือ บุคคลที่สามารถจะรับจิต วิญญาณของผู้อื่นที่จากไปแล้ว หรือ จากจิตวิญญาณของผู้อื่นที่เป็นเทพ เทวดา มาสิงสถิตอยู่ในร่างกายของตนเองได้ ครับ จากคำถามที่ว่า แล้วในความเป็นจริงแล้ว ร่างทรงเป็นอย่างไร มีได้ไหม ได้เพราะเหตุใด ไม่ได้เพราะเหตุใด
ซึ่งในความเป็นจริงที่เป็นสัจจะตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงนั้น จิตของแต่ละคนก็ของแต่ละคน ไม่มีใคร หรือ ไม่มีจิตของคนใดมาสิงสถิตอยู่ที่ร่างกายของคนอื่นได้เพราะ ความจริง คือ จิตเกิดขึ้นและดับไป ไม่เที่ยงเลย จิตเกิดที่ไหน ดับที่นั่น จึงไม่มีจิตที่เที่ยง ยั่งยืน จะมาอยู่สิงในร่างกายของคนอื่นได้ ครับ
อีกอย่างหนึ่ง จิตเมื่อเกิดขึ้น จะต้องมีที่เกิด ซึ่ง เรียกว่า วัตถุ ซึ่งที่เกิดของจิต มี 6 คือจักขุ (ตา) หู จมูก ลิ้น กาย และ หทยรูปเพราะฉะนั้น การที่จิตอื่นจะมาอยู่ มาสิงในร่างกายคนอื่นจึงไม่ใช่ฐานะ เพราะ จิตของบุคคลอื่น จะมาเกิดในรูปของคนอื่นไม่ได้ต้องเกิดที่รูปของบุคคลนั้นเองเป็นสำคัญ ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เป็นผู้ประมาทพระปัญญาคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างยิ่งที่คิดว่าจะมีการทรงเจ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะไม่รู้ว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือใคร พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ความจริงด้วยพระองค์เอง ดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างหมดสิ้น ถึงความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วทรงแสดงความจริงประกาศสัจจธรรมให้สัตว์โลกได้มีความเข้าใจถูกเห็นถูกตามพระองค์ ตลอดระยะเวลา ๔๕ พรรษาแห่งการประกาศคำสอนของพระองค์นั้น เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกโดยตลอด และเมื่อพระองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ไม่มีการเกิดอีก ไม่มีการไปอยู่ ณ ที่หนึ่งที่ใด แต่พระธรรมคำสอนของพระองค์ยังสืบทอดมาจนถึงขณะนี้ เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษาอย่างแท้จริง
แต่ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ก็ไปทำอะไรด้วยความไม่รู้ ด้วยความไม่เข้าใจ ด้วยความเห็นผิด ประการต่างๆ มากมาย ไม่เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของปัญญาและกุศลธรรมทั้งหลายทั้งปวงเลย ไม่เป็นไปตามคำสอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงด้วย ตนเองมากไปด้วยความไม่รู้แล้ว ยังส่งเสริมให้ผู้อื่นเกิดความไม่รู้ เกิดความงมงายเพิ่มมากยิ่งขึ้นด้วย แสดงให้เห็นตามความเป็นจริงว่า ความไม่รู้ และความเห็นผิด ตลอดจนถึงกิเลส อกุศลธรรมทั้งหลายทั้งปวงนั้นไม่นำมาซึ่งคุณประโยชน์ใดๆ เลย
แม้แต่ในเรื่องร่างทรง ก็เช่นเดียวกัน เป็นการกระทำของคนผู้ไม่รู้ นั่นเอง การเข้าทรงหรือ ร่างทรง ไม่มีในคำสอนทางพระพุทธศาสนาเลย จะเห็นได้ว่า ไม่มีคำสอนในทางพระพุทธศาสนาแม้แต่บทเดียว ที่จะส่งเสริมให้คนงมงายเลยหรือให้เกิดอกุศล
ที่จะพ้นไปจากความไม่รู้ และ ความเห็นผิด ได้ ก็ต้องด้วยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ ไม่ประมาทในพระธรรมแต่ละคำๆ ที่ได้ยินได้ฟัง ครับ
... ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...
เพราะไม่รู้ในพระธรรมที่ทรงแสดง เลยคิดวุ่นวายไป
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาอย่างสูงครับ
สาธุ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ