เรียนอาจารย์ประจำมูลนิธิทุกท่าน

ขอเรียนสอบถามว่ารอยพระพุทธบาทในประเทศไทย มีหลักฐานว่าพระพุทธองค์ได้เสด็จมาประทับรอยพระบาทด้วยพระองค์เองหรือไม่ หรือเป็นการสร้างจำลองเพื่อให้บุคคลในสมัยก่อนได้ระลึกถึงพระคุณของพระองค์ครับ

ขอบพระคุณทุกท่านที่ร่วมให้คำตอบและสนทนาครับ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สำหรับรอยพระบาทของพระพุทธเจ้า โดยทั่วไปแล้ว ในสมัยที่พระพุทธองค์มีพระชนมายุอยู่ พระองค์ก็เสด็จดำเนินไปในสถานที่ต่างๆ มากมาย แต่ไม่จำเป็นว่ารอยพระบาทจะปรากฎอยู่และให้คนทั่วไปเห็นได้ เพียงแต่ว่า รอยพระพุทธบาทจะปรากฎและให้คนอื่นได้เห็นก็ด้วยอำนาจการอธิษฐานของพระพุทธเจ้าเท่านั้น หากพระพุทธเจ้าไม่ได้อธิษฐานไว้ รอยพระพุทธบาทก็ไม่ปรากฎ ซึ่งตามหลักฐานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง รอยพระบาทที่พระองค์ทรงอธิษฐานไว้ให้เห็น คือ ที่ประเทศอินเดียในปัจจุบัน และที่ศรีลังกา แต่ไม่มีที่ประเทศไทยครับ ดังนั้น รอยพระบาทมีประเทศไทยจึงเป็นการสร้างจำลอง เพื่อให้น้อมระลึกถึงพระพุทธคุณเป็นสำคัญ ครับ

ที่สำคัญการสร้างอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับพพระพุทธศาสนา ไม่ใช่เพื่อความเจริญในลาภ สักการะ แต่จะต้องเป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรม ซึ่งผู้ที่มีความเข้าใจพระธรรม เมื่อได้พบเห็นสิ่งที่สร้างเพื่อระลึกถึงพระคุณก็สามารถเกิดกุศลจิต ระลึกถึงพระคุณได้ แทนที่จะขอสิ่งต่างๆ อันสำคัญว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะอาศัยการศึกษาพระธรรม ทำให้เกิดปัญญาความเห็นถูก ครับ

[เล่มที่ 42] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓- หน้า๒๗๙

รอยพระบาทจะปรากฏเพราะทรงอธิษฐาน

ฝ่ายพราหมณ์ ไปเรือนแล้ว บอกกะนางพราหมณีว่า "นางผู้เจริญ วันนี้ เราเห็นบุรุษผู้สมควรแก่ธิดาของเราแล้ว พวกเราจักให้ธิดานั้นแก่เขา" ให้ธิดาตกแต่งกายแล้ว ได้พาไปยังที่นั้นพร้อมด้วยนางพราหมณี.

แม้มหาชนก็ตื่นเต้น พากันออกไป (ดู) พระศาสดาไม่ได้ประทับยืนอยู่ในที่ที่พราหมณ์บอกไว้ ทรงแสดงเจดีย์ คือรอยพระบาทไว้ในที่นั้นแล้วได้ประทับยืนเสียในที่อื่น ทราบว่าเจดีย์ คือ รอยพระบาทของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ย่อมปรากฏในที่ที่พระองค์ทรงอธิษฐานว่า " บุคคลชื่อโน้นจงเห็นเจดีย์ คือรอยเท้านี้" แล้วทรงเหยียบไว้เท่านั้น ชื่อว่า ผู้ที่จะเห็นเจดีย์ คือรอยพระบาทนั้นในที่ที่เหลือไม่มี.

ขออนุโมทนา ครับ

ขออนุโมทนาครับผม

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมีพระมหากรุณาต่อสัตว์โลก ทรงแสดงพระธรรมที่พระองค์ทรงตรัสรู้โปรดเวไนยสัตว์ เพื่อให้มีความเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริงพร้อมทั้งน้อมประพฤติปฏิบัติตามจนกระทั่งสามารถดับกิเลสทั้งปวงได้ในที่สุด นี้คือประโยชน์อย่างยิ่งจากการอุบัติขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงนำมาซึ่งแสงสว่างแห่งปัญญาแก่สัตว์โลกที่มีโอกาสได้ฟัง ได้ศึกษาพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง แม้ขณะนี้พระองค์จะเสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว แต่ก็ยังมีพระธรรมเป็นศาสดาแทนพระองค์

ในยุคนี้สมัยนี้ เป็นกาลสมัยของพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่าพระสมณโคดม ซึ่งในขณะนี้ เป็นช่วงเวลาที่พระธรรมคำสอนของพระองค์ยังดำรงอยู่ บุคคลผู้ที่เข้าใจธรรมและแสดงธรรมตามที่พระองค์ทรงแสดง ก็ยังมีอยู่ จึงเป็นโอกาสอันดียิ่งที่จะได้ฟังได้ศึกษาให้เข้าใจ ซึ่งเป็นการยากอย่างยิ่งที่จะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ และได้เกิดในช่วงที่พระพุทธศาสนายังดำรงอยู่ เมื่อได้ในสิ่งที่ได้โดยยากอย่างนี้แล้ว ก็ไม่ควรปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปโดยเปล่าประโยชน์ แต่ควรอย่างยิ่งที่จะศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม อบรมเจริญปัญญา สะสมความเข้าใจไปตามลำดับ เพราะหนทางนี้ เป็นหนทางที่ละทั้งหมด ได้แก่ละกิเลสและละความไม่รู้ จนหมดสิ้น ครับ

...ขออนุโมทนาทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

ขออนุโมทนา

ขออนุโมทนาครับ

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

ขออนุโมทนาครับ

อนุโมทนาค่ะ