ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ๑๑ ธ.ค. ๕๓
ธรรมะไม่ใช่เป็นเพียงชื่อ
ท่านอาจารย์ ได้กล่าวสนทนากับพระคุณเจ้าทั้งหลายว่า ธรรมะไม่ใช่เป็นเพียง ชื่อ ที่เราได้ยินได้ฟัง แต่เป็นสิ่งที่มีจริงทั้งหมด สิ่งที่มีจริงนั้นเป็นธรรมะ ท่านอาจารย์เคยกล่าวเน้นเสมอว่า สิ่งที่มีจริงเป็นธรรมะ มีแสดงไว้โดยละเอียดในพระอภิธรรมปิฎก ถ้าหากว่าไม่มีพื้นฐานความเข้าใจในสภาพธรรมขณะนี้ ก็จะไม่มีทางที่จะเข้าใจข้อความต่างๆ ในพระอภิธรรมปิฎกได้เลย เพราะยังเป็นเรา เมื่อยังเป็นเราก็จะไม่สามารถเข้าถึงความหมายของธรรมได้เลย ถ้าเราจำชื่อได้ มากๆ เราก็มีโอกาสลืมได้ แต่ถ้าเราเข้าใจธรรม ความเข้าใจจะสะสมสืบต่อไปในภพชาติหน้าได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏขณะนี้ควรที่จะฟังให้เข้าใจ เข้าใจในลักษณะที่มีจริงๆ ... ไม่ใช่เป็นเพียงชื่อ
ขอกราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ที่ได้ให้ความเข้าใจค่ะ
เคยศึกษาแบบหาชื่อมาเรียก มาจำ แต่สุดท้ายไม่กี่วัน ไม่กี่เดือน ก็ลืมจริงๆ ครับ แต่เมื่อเปลี่ยนมาศึกษาธรรม เพื่อเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริงตอนนี้ก็หมดห่วงเรื่องการศึกษาชื่อของธรรมต่างๆ ไปเลยครับเพียงแต่ค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เข้าใจธรรมขึ้นเท่าที่จะเข้าใจได้
ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาพี่เมตตาครับ
เคยได้สนทนากับท่านอาจารย์ และ กราบเรียนท่านว่า เป็นคนที่ฟังเรื่องอภิธรรมแล้วไม่ค่อยจะจำชื่อ จำคำ ต่างๆ แต่ว่า ขณะที่ฟังท่านบรรยายหรือสนทนานั้น มีความน้อมไป (เข้าใจ) ในสิ่งที่ได้ยิน ได้ฟัง ท่านอาจารย์บอกว่า "..ก็ดีสิคะ ดีค่ะ.." คงจะเหมือนกับที่คุณ chaiyut กล่าวนะครับ ที่ว่า "...เพียงแต่ค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป เข้าใจธรรมขึ้น เท่าที่จะเข้าใจได้..." อนึ่ง พอดีข้าพเจ้าเพิ่งถอดคำสนทนาของท่านอาจารย์ เมื่อวันที่ท่านไปบ้านคุณหมอทวีปมีข้อความที่ท่านกล่าวไว้เรื่องนี้พอดีครับ ท่านกล่าวว่า "เพราะฉะนั้น อย่าไปชื่นชมยินดีกับ คำ เยอะๆ ค่ะ แต่ กับ ความเข้าใจ จริงๆ เวลาพูดถึง คำไหน ศึกษาธรรมะ ให้ เข้าใจ คำ นั้นจริงๆ ก่อนค่ะ"
ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของพี่เมตตาด้วยครับ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาพี่เมตตาครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาคะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ