ความไม่ประมาทคืออะไร คงตอบกันในหลายนัย ขึ้นกับ เพศ วัย ความรู้ อาชีพ
แท้จริงแล้วความไม่ประมาทคืออะไรครับท่านอาจารย์ที่เคารพ
ขอเชิญคลิกอ่านที่ ความหมายของความไม่ประมาท ความไม่ประมาท
ไม่ประมาทในชีวิต ไม่ประมาทในการเจริญกุศลแม้เพียงเล็กน้อย เช่น การช่วยเหลือผู้
อื่น การให้ทาน การใส่บาตร การปล่อยสัตว์ที่มีชีวิต สูงสุดคือการเจริญสติปัฏฐานค่ะ
ในชีวิตประจำวันอกุศลจิตเกิดมากกว่ากุศลจิต จึงเป็นผู้ที่ประมาทเกือบทั้งวัน และอกุศลที่สะสมในแต่ละวันจนมีกำลังมากขึ้น จึงเป็นปัจจัยให้กระทำอกุศลกรรมทางกาย
ทางวาจา และทางใจ จึงเป็นผู้ที่ประมาทเพราะจะต้องได้รับผลของอกุศลกรรมที่ได้กระทำไว้ ฉะนั้นควรที่จะไม่ประมาทด้วยการอบรมเจริญกุศลทุกประการในชีวิตประจำ-วัน เพราะขณะที่เป็นไปในทาน ศีล ภาวนา ขณะนั้นไม่ปราศจากสติค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
คำว่า ไม่ประมาท ทรงหมายถึง เพียรตั้งสติไว้ในที่ ๔ แห่ง (สติปัฏฐาน๔) อยู่ทุกเมื่อ หรือโดยอรรถธรรมหมายถึง เห็นสภาพธรรมที่กำลังปรากฏเกิดดับอยู่ทุกขณะจิต (เห็นด้วยญาณมิใช่คิดเอา) เมื่อเห็นอยู่เช่นนั้น ก็เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้ สังขารทั้งปวงระงับ และเสื่อมไป จิตย่อมปล่อยวางจากภายในโดยตัวของมันเอง เมื่อบุคคลเห็นอยู่ซึ่งความเกิดดับของจิตในจิตอยู่เช่นนั้นแม้มีเจตนาว่า เราจักยึดมั่นในรูปนามนี้ ก็หาเป็นไปตามเจตนาไม่
ประโยคเต็มที่ทรงตรัสก่อนปรินิพพาน ที่ว่า "สังขารทั้งหลายย่อมเสื่อมไปเป็นธรรมดา พวกเธอทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด" ทรงตรัสจากผล ไปหาเหตุ คือสังขารที่เสื่อมไปเป็นผล การเจริญสติปัฏฐาน ๔ (ไม่เผลอ,มีสติตั้งไว้ในที่ ๔ แห่งทุกขณะจิต) เป็นเหตุ ซึ่งเป็นการตรัสเรื่อง"มรรค" เป็นเคล็ดวิชาโดยย่อ แต่คนโดยมากเข้าใจเพียงว่า เราจักต้องตายแน่ จงรีบทำแต่ความดี ซึ่งคนที่ทำความดีก็จะไปสวรรค์ ซึ่งจักเวียนว่ายตายแล้วเกิดอีก แต่พุทธเจตนาทรงสั่งเสียให้เจริญสติปัฏฐาน ๔ ต่างหาก