ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ธรรมะคือความจริง คือที่อยู่จริง เห็นมีจริง ได้ยินมีจริงเป็นธรรมะ ไม่ต้องเรียกก็เป็นธรรมะ รู้ก็เป็นธรรมะ ไม่รู้ก็เป็นธรรมะ คือเปลี่ยนลักษณะของธรรมะไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นเมื่อสิ่งที่มีจริง ... ใครรู้ความจริงของสิ่งที่มีจริงว่า สิ่งที่มีจริงเกิดหรือเปล่า ถ้าไม่เกิดจะมีไหม?
สิ่งที่มีจริง ... จริงเมื่อเกิดขึ้นถ้ายังไม่เกิด ... ไปหาสิ ... อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ไม่มีปัจจัยที่จะให้เกิด ไม่ใช่ไปคอยจะเกิด แต่ว่ายังไม่มีปัจจัยที่จะทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น ต่อเมื่อไหร่เกิดเมื่อนั้นจริง เพราะมีลักษณะเฉพาะอย่างๆ
อย่างแข็ง ไม่ใช่เห็นและไม่ใช่เสียง แต่แข็งก็มี จะไม่ให้แข็งมีไม่ได้!!! เพราะแข็งเป็นธรรมะ ใครจะทำให้แข็งเกิดก็ไม่ได้ ไม่ทำให้เกิดก็ไม่ได้ ... เกิดแล้วเป็นธรรมะคือเป็นแข็ง
ธรรมะคือสิ่งที่มีจริง แล้วสิ่งที่มีจริงไม่ต้องเรียกอะไรเลย จะรู้หรือไม่รู้ก็เป็นอย่างนั้นแหละ เห็นเกิดและดับ ถ้าไม่มีใครมาบอกให้รู้ เราก็ไม่รู้เลยว่าที่เห็นเดี๋ยวนี้แค่เห็น!!! ยังไม่ทันรู้เลยว่าเป็นใคร สั้นขนาดนั้นเพียงแค่เกิดขึ้นเห็นแล้วดับ เหมือนฟ้าแลบนิดเดียวเห็นไหมว่าอะไรอยู่ที่นั่น? เร็วมากแต่ก็ยังช้ากว่าการเกิดดับของจิต
ไม่มีอะไรที่จะเกิดดับเร็วเท่าจิต แสดงว่าจิตเกิดดับเร็วแค่ไหนคะ จึงลวงเพราะเกิดดับบ่อยๆ ซ้ำบ่อยๆ สิ่งที่ปรากฏทางตาก็เหมือนอย่างนี้เพราะว่าปัจจัยที่ทำให้เกิดเป็นอย่างนี้ยังคงให้เป็นอย่างนี้อยู่
อย่างเห็นดอกไม้วันนี้ที่เริ่มบาน มีปัจจัยที่จะให้เกิดเห็นเป็นอย่างนั้น แต่ความจริงเกิดดับตลอด แล้วก็ถึงวันที่ดอกไม้เริ่มเหี่ยว ก็เป็นความจริงที่ว่า ขณะนั้นมีสิ่งที่ปรากฏทางตาเป็นอย่างนั้น เกิดแล้วเป็นอย่างนั้น แต่ก่อนจะเป็นอย่างนั้นต้องมีตอนเกิด
เพราะฉะนั้นทุกอย่างมีเมื่อมีการเกิดแล้วก็ดับ แล้วก็สืบต่อ ก็จะเป็นการเปลี่ยนแปลงของรูปที่ปรากฏให้เห็นได้
แต่ทางฝ่ายที่ไม่ปรากฏทางตาก็ไม่เห็น ซึ่งการเกิดดับของจิตเร็วยิ่งกว่ารูปอีก ... นี่คือพระปัญญาคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือเริ่มฟัง เริ่มรู้จัก รู้ว่าสิ่งที่เราเคารพสูงสุดตลอดชีวิตมาคือพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ
ทรงแสดงพระธรรมไม่ได้หวังเครื่องสักการะบูชาด้วยดอกไม้ ด้วยรัตนะต่างๆ แต่บูชาด้วยการเข้าใจธรรมะ ... ศึกษาธรรมะที่พระองค์บำเพ็ญเพื่อให้คนอื่นสามารถเข้าใจได้ด้วย
เพราะฉะนั้นทางเดียวที่จะเป็น ผู้กตัญญูรู้คุณของพระรัตนตรัย มีความนอบน้อมไม่ใช่เพียงด้วยกายกราบไหว้ ไม่ไม่ใช่เพียงด้วยวาจาเปล่งคำนมัสการ แต่ด้วยใจที่ศึกษาจนกระทั่งมีความเข้าใจในพระคุณ จึงเป็นการนอบน้อมทั้งกาย วาจาและใจ
ใจที่นอบน้อมด้วยการยิ่งเข้าใจธรรมะ ... ยิ่งรู้คุณและยิ่งนอบน้อมและประพฤติปฏิบัติตาม ประโยชน์เริ่มตั้งแต่ฟัง เข้าใจ จนกระทั่งมีปัจจัยที่จะประพฤติปฏิบัติตามได้
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ