กุศลทุกอย่างเป็นสิ่งที่เจริญยาก
โดย sms  8 ก.ย. 2549
หัวข้อหมายเลข 2037

มีข้อความในกระทู้หนึ่งเขียนว่า "กุศลทุกอย่างเป็นสิ่งที่เจริญยาก" ทำไมจึงพูดอย่างนี้ ในวันหนึ่งๆ ถ้าเราไม่ผิดศีลเลย ก็เป็นกุศลไม่ใช่หรือ แล้วทำไมบอกว่ากุศลเกิดยาก



ความคิดเห็น 1    โดย study  วันที่ 8 ก.ย. 2549

สภาพจิตของปุถุชนทั้งหลายโดยมากเป็นไปกับอกุศล เว้นแต่ขณะที่จิตเป็นไปใน

ทาน ศีลและภาวนาเท่านั้น อีกอย่างหนึ่งสภาพของจิตเกิดดับสลับกันอย่างรวดเร็วมาก

แม้ขณะที่กำลังจะให้ทาน ก็มีอกุศลเกิดสลับมากมาย ทั้งการจัดเตรียมอาหาร การเดิน

ทางไป หรือเห็นผู้รับทานไม่สำรวม สวดให้พรยาวเกินไป เป็นต้น ระหว่างนั้นอกุศลจิต

เกิดสลับมากมาย หรือขั้นศีล ถ้ามีเจตนางดเว้นกายทุจริต วจีทุจริต ขณะนั้นเป็นกุศล

หลังจากนั้นไป แม้ไม่ล่วงศีล แต่จิตโดยมากเป็นอกุศล เช่น เห็นสิ่งที่ปรากฏทางตา

สวยๆ ยินดีพอใจ ได้ยินเสียงดีพอใจ ได้กลิ่นดีพอใจ ได้รสดีพอใจ ได้กระทบสมผัสดี

พอใจ คิดเรื่องดีๆ พอใจ หรือเห็นทางตาที่ไม่ดี ไม่พอใจเป็นโทสะ ทางหู จมูก ลิ้น กาย

ใจ เป็นเช่นกัน นี่ยกตัวอย่างแค่โลภะและโทสะเท่านั้น ฉะนั้นที่กล่าวว่า กุศลเกิดยาก

จึงเป็นคำกล่าวที่ถูกต้องตามความจริงของผู้ที่ยังละอกุศลยังไม่ได้


ความคิดเห็น 2    โดย saowanee.n  วันที่ 8 ก.ย. 2549
ถ้ากุศลเป็นสิ่งที่เจริญง่ายจริงๆ ป่านนี้ทุกท่านคงเป็นพระอริยบุคคลกันไปหมดแล้วค่ะ

ความคิดเห็น 3    โดย narong.p  วันที่ 9 ก.ย. 2549

การศึกษาธรรมะ ขณะที่กำลังเข้าใจ เป็นกุศลจิต แต่ก็ยังคงมีอกุศลจิตเกิดสลับ

เพราะในขณะที่ฟัง หรือสนทนาไม่ได้เข้าใจธรรมตลอดเวลาและในบางช่วง จิตก็คิดนึก

เรื่องอื่นๆ ได้ แต่อย่างไรก็ตามก็เป็นโอกาสที่กุศลจิตจะเกิดได้ และเมื่อศึกษาไป ความ

เข้าใจในธรรมที่ได้ยินได้ฟังสะสมไปๆ มีความเข้าใจมากขึ้นๆ มากพอที่จะเป็นเหตุปัจจัย

สติสัมปชัญญะก็เกิดขึ้นได้ ซึ่งขณะนั้นก็เป็นกุศลจิตเช่นเดียวกัน จึงไม่ต้องไปห่วงไป

กังวล อยากให้กุศลเกิดมากๆ ตราบใดที่ยังเป็นปุถุชนอยู่ สภาพธรรมก็จะเป็นจริงของ

เขาอย่างนี้ เพียงแต่ว่า จะรู้หรือไม่รู้ เท่านั้น ซึ่งการศึกษาธรรมะก็เพื่อให้รู้สภาพธรรมที่

เป็นจริง ของ ปุถุชน อริยบุคคล ฯลฯ ด้วยอย่างหนึ่ง เพราะรู้ย่อมดีกว่าไม่รู้ความจริง