ขอนอบน้อมแด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ข้อความบางตอนจากการถอดเทปวิทยุโดย คุณย่าสงวน สุจริตกุล ท่านอาจารย์สุจินต์ สนทนาธรรมกับ คุณชาง
คุณชาง ผมอยากถามอาจารย์ว่า...สัญญาเจตสิกนี้ ถ้าจำในปรมัตถ์ที่ถูกต้อง อบรมเจริญสติแล้ว ปรากฏโดยภาวะเป็นนามธรรม รูปธรรมแล้ว จะมีคุณมากไหม.? ในการเจริญสติครั้งต่อๆ ไป
ท่านอาจารย์ สัญญาเป็นสภาพธรรมที่จำ ไม่ลืม ว่าเคยประจักษ์ในสภาพธรรมนั้นแล้วไม่มีการกลับไปเหมือนไม่รู้ หรือว่าไม่เคยประจักษ์ใน "ลักษณะ" ของสภาพธรรมที่ได้ "ประจักษ์แล้ว"
ถ้าน้อมระลึกถึงแล้วไม่ลืมก็เป็นปัจจัย...แต่อย่าลืมนะคะว่ามีสภาพธรรมอื่นๆ ที่เป็นปัจจัยให้เกิด กุศล และ อกุศล ประเภทต่างๆ ไม่ใช่ว่า เมื่อประจักษ์แล้วจะจดจำอยู่ตลอดการที่จะประจักษ์ลักษณะของสภาพธรรมทั้งหลายต้องอาศัยการอบรมเจริญสังขารขันธ์ ซึ่งเป็นปัจจัยปรุงแต่งด้วย
คงไม่ลืมเรื่อง "จุดประสงค์ของการศึกษาธรรมะ" ว่า เพื่อรู้ลักษณะของสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ ทางตา.....ใจ เพื่อให้สติระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมแล้วศึกษาพร้อม สติจนกว่าจะเกิด ปัญญา ที่สามารถ ประจักษ์ลักษณะของสภาพธรรมที่เป็น ปรมัตถธรรม เป็นอนัตตา ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน
และการที่จะฟังธรรมะ หรือ ศึกษาธรรมะต่อๆ ไปก็เพื่อความเข้าใจชัดในลักษณะของสิ่งที่ปรากฏที่จะเกื้อกูลให้ สติ ระลึกรู้ลักษณะของสิ่งที่ปรากฏ แต่ไม่ใช่เพื่อจะเป็น "บุรุษเปล่า" ไม่ใช่รู้เพียงปริยัติ โดยที่การปฏิบัติไม่ตรงกับหนทางที่จะทำให้รู้ถูกต้องตามความเป็นจริง
คุณชาง ฟังแล้วเข้าใจ แต่การปฏิบัติ ยังไม่แจ้งอันนี้ถือว่าเป็น "บุรุษเปล่า" หรือเปล่า
ท่านอาจารย์ ข้อปฏิบัติถูกไหมคะ สำคัญที่การปฏิบัติ ไม่ได้ต้องการสิ่งอื่น ใช่ไหม ไม่ได้ไปจดจ้องที่อื่น ที่จะให้จิตมั่นคงแน่วแน่เป็นสมาธิเสียก่อนใช่ไหม เพราะฉะนั้น ก็มีเหตุที่จะทำให้ ปัญญา สามารถที่จะเกิดขึ้น รู้ชัดในลักษณะของสภาพธรรม สำคัญที่ข้อปฏิบัติถูก
ท่านผู้ฟังก็คงทราบเรื่องจุดประสงค์ของการศึกษาพระอภิธรรม และ ปรมัตถธรรมเพื่อให้รู้ว่าสภาพธรรมไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เป็นสภาพธรรมที่มีจริง...เป็นอนัตตา แต่ก็ยังไม่ประจักษ์...ทั้งๆ ที่ได้ยิน ได้ฟังจุดประสงค์ของการฟังต่อไป ก็เพื่อที่จะให้เข้าใจในลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏในขณะนี้ได้ไม่ว่าจะเป็นทางตา...ที่กำลังเห็นเดี๋ยวนี้ก็เป็นเรื่องของสภาพธรรมที่จะต้องเข้าใจขึ้นจนกระทั่งสติระลึก...ที่จะน้อมรู้ตามสิ่งที่ปรากฏทางตา....ใจ ในขณะนี้ตามปกติ ตามความเป็นจริง
การฟังเรื่องของสภาพธรรมที่ปรากฏเพื่อให้เข้าใจในขณะที่กำลังเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส สัมผัสเพื่อสติจะได้ระลึกถูกต้อง และปัญญา ก็สามารถจะเพิ่มความรู้ในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏได้ยิ่งขึ้น
ขออนุโมทนา
ขออุทิศกุศลแด่คุณพ่อ คุณแม่ญาติมิตรที่ล่วงลับและสรรพชีวิตที่ล่วงรู้ได้ร่วมอนุโมทนาด้วยกันค่ะ
สาธุ
ขออนุโมทนาค่ะ
ท่านผู้ฟังก็คงทราบเรื่องจุดประสงค์ของการศึกษาพระอภิธรรม และ ปรมัตถธรรมเพื่อให้รู้ว่าสภาพธรรมไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตนเป็นสภาพธรรมที่มีจริง...เป็นอนัตตา
ขออนุโมทนาครับ
การฟังเรื่องของสภาพธรรมที่ปรากฏเพื่อให้เข้าใจในขณะที่กำลังเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส สัมผัสเพื่อสติจะได้ระลึกถูกต้อง และปัญญา ก็สามารถจะเพิ่มความรู้ในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏได้ยิ่งขึ้น เมื่อสติเกิดระลึกรู้ถูกต้องในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฎ สัญญาก็จำในลักษณะสภาพธรรมที่สติประจักษ์ในสภาพธรรมนั้น จะไม่ลืมในลักษณะสภาพธรรมตามความเป็นจริงที่สติประจักษ์แล้ว ดังนั้น สัญญาเจตสิก จำในปรมัถต์ ที่ถูกต้อง จะไม่ลืมว่าเคยประจักษ์ในสภาพธรรมนั้นแล้ว
กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
เข้าใจถูก...รู้ข้อปฏิบัติถูก...ปฏิบัติถูก...สู่จุดหมายที่ถูก
...ขออนุโมทนาครับ...
จุดประสงค์ของการฟังต่อไปก็เพื่อที่จะให้เข้าใจในลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏในขณะนี้ได้
ขออนุโมทนาค่ะ
..
ขออนุโมทนาครับ