อิสสา
ขณะใดที่อิสสา คือริษยา ขณะนั้นก็ไม่เป็นมิตรกับผู้ที่ถูกริษยาแน่นอน ฉะนั้นในวันหนี่งๆ ผู้เจริญเมตตาจริงๆ จึงต้องระลึกรู้ลักษณะอาการสนิทสนม ที่จะต้องปราศจากความริษยาในบุคคลอื่นๆ ด้วย
ในอัฏฐสาลินี อธิบายนิทเทส
อิสสาสัญโญชน์
[๑๑๒๖] มีข้อความวินิจฉัยความหมายของริษยา (อิสสาสัญโญชน์) ว่า คำว่า"การริษยา" ในลาภสักการะ การกระทำความเคารพ การนับถือ การไหว้ การบูชา ของคนอื่นอันใดนั้น ความว่า การริษยาซึ่งมีการขึ้งเคียดสมบัติของคนอื่นเป็นลักษณะว่า "จะประโยชน์อะไรด้วยสิ่งนี้แก่คนเหล่านี้" ในลาภเป็นต้นของคนเหล่าอื่นอันใด
พระโสดาบันบุคคล ดับความริษยาเป็นสมุจเฉท เพราะประจักษ์ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริงว่า เป็นแต่เพียงนามธรรมและรูปธรรม ซึ่งเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่มีใครสามารถบันดาลลาภสักการะความเคารพนับถือ การไหว้ การบูชา ของบุคคลอื่นได้ แต่จะต้องมีเหตุปัจจัยที่ทำให้แต่ละบุคคลได้ลาภสักการะ การเคารพนับถือ กราบไหว้ บูชาจากบุคคลอื่น
ฉะนั้น จึงไม่ควรที่จะริษยาใครเลย ขณะใดที่ริษยา ขณะนั้นไม่ใช่เมตตา ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา กุศลธรรม และอกุศลธรรมย่อมเกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัย ผู้ที่ไม่ใช่พระอริยบุคคล ยังริษยาได้แม้บุคคลที่เป็นวงศาคณาญาติมิตรสหาย ไม่ใช่ริษยาแต่เพียงบุคคลอื่นเท่านั้น
ขอเชิญเปิดอ่าน...
..จากหนังสือ เมตตา
อนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนา
คนที่อิสสาทำให้ตกนรก ภายหลังกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ ทำให้เกิดในตระกูลต่ำค่ะ
ขออนุโมทนา
ขอบพระคุณ สาธุ
อนุโมทนา ค่ะ
ด้วยความเคารพยิ่ง
จาก ใหญ่ราชบุรี – ธิดารัตน์ เดื่อมขันมณี
ขออนุโมทนาครับ