สนทนาธรรมที่
มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
พระสูตร ที่นำมาสนทนาที่มูลนิธิฯ
วันเสาร์ ๒๕ เม.ย. ๒๕๕๒ เวลา ๐๙:๐๐ - ๑๒:๐๐น. คือ
สังโยชนสูตร
ว่าด้วยสังโยชน์ ๑๐ ประการ
[เล่มที่ 38] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต เล่ม ๕ - หน้าที่ ๒๗
[เล่มที่ 38] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต เล่ม ๕ - หน้าที่ ๒๗
สังโยชนสูตร
ว่าด้วยสังโยชน์ ๑๐ ประการ
[๑๓] ดูก่อนภิกษุทั้งเหล่า สังโยชน์ ๑๐ ประการนี้ ๑๐ ประการเป็นไฉน คือ ... สังโยชน์เป็นไปในส่วนเบื้องต่ำ ๕ ประการ ... สังโยชน์เป็นไปในส่วนเบื้องบน ๕ ประการ
สังโยชน์เป็นไปในส่วนเบื้องต่ำ ๕ ประการเป็นไฉน คือ ... สักกายทิฏฐิ ๑ วิจิกิจฉา ๑
สีลัพพตปรามาส ๑ กามฉันทะ ๑
พยาบาท ๑
สังโยชน์เป็นไปในส่วนเบื้องต่ำ ๕ ประการนี้.
สังโยชน์เป็นไปในส่วนเบื้องบน ๕ ประการเป็นไฉน คือ ...
รูปราคะ ๑ อรูปราคะ ๑ มานะ ๑ อุทธัจจะ ๑
อวิชชา ๑
สังโยชน์เป็นไปในส่วนเบื้องบน ๕ ประการนี้.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สังโยชน์ ๑๐ ประการนี้แล.
จบสังโยชนสูตรที่ ๓
อรรถกถาสังโยชนสูตรที่ ๓
สังโยชนสูตรที่ ๓ พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า โอรมฺภาคิยานิ แปลว่า เป็นส่วนเบื้องต่ำ. บทว่า อุทฺธมฺภาคิยานิ แปลว่า เป็นส่วนเบื้องบน. ในสูตรนี้ ท่านกล่าววัฏฏะอย่างเดียว.
จบอรรถกถาสังโยชนสูตรที่ ๓
สาธุ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สังโยชนสูตร
ว่าด้วยสังโยชน์ ๑๐ ประการ
ข้อความโดยสรุป
พระผู้มีพระภาคทรงแสดงสังโยชน์ ๑๐ ประการ แก่ภิกษุทั้งหลาย โดยทรงจำแนกสังโยชน์ ๑๐ ประการ เป็นสังโยชน์เบื้องต่ำ ๕ คือ
๑. สักกายทิฏฐิ (ความเห็นผิดในขันธ์ ๕ ว่าเป็นเรา เป็นตัวตนของเรา)
๒. วิจิกิจฉา (ความลังเลสงสัยในสภาพธรรม)
๓. สีลัพพตปรามาส (ความลูบคลำศีลพรตซึ่งเป็นข้อวัตรปฏิบัติที่ผิด)
๔. กามฉันทะ (ความพอใจในกาม คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ)
๕. พยาบาท (ความโกรธ ขุ่นเคืองใจ ปองร้าย)
และ เป็นสังโยชน์เบื้องบน ๕ คือ
๑. รูปราคะ (โลภะที่ติดข้องในรูปฌาน ติดข้องในรูปภพ)
๒. อรูปราคะ (โลภะที่ติดข้องในอรูปฌาน ติดข้องในอรูปภพ)
๓. มานะ (ความสำคัญตน)
๔. อุทธัจจะ (ความฟุ้งซ่าน)
๕. อวิชชา (ความไม่รู้)
* สังโยชน์ ๑๐ ประการ เป็นอกุศลธรรมที่ผูกมัดเหล่าสัตว์ไว้ในวัฏฏะ จะดับได้อย่างเด็ดขาดด้วยมรรคจิต กล่าวคือ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส ดับได้ด้วยโสตาปัตติมรรค กามฉันทะ พยาบาท ดับได้ด้วยอนาคามิมรรค สังโยชน์เบื้องบน ๕ ประการ ดับได้ด้วยอรหัตตมรรค ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
อนุโมทนาค่ะ
ฟังธรรมที่มูลนิธิวันนี้
ท่านอาจารย์เปรียบ สังโยชน์ ๑๐ ว่าเป็นภาวะของอกุศลทั้งหมด ไปสู่ความเป็นกุศลไม่ได้ ถูกอกุศล คล้อง ไว้ตลอดเวลา คนส่วนใหญ่กลัวภัยภายนอกต่างๆ นาๆ เช่น ภัยธรรมชาติ ฯลฯ แต่ลืมนึกถึง "ภัยที่มองไม่เห็น"
กราบอนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร
ขอเชิญศึกษาพระธรรม...
รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์
พระไตรปิฎก
ฟังธรรม
วีดีโอ
ซีดี
หนังสือ
กระดานสนทนา
กราบขอบพระคุณยิ่งค่ะ ขออนุโมทนา
กราบขอบพระคุณ และอนุโมทนาค่ะ