* ข้อความนี้ เป็นคำของพระภิกษุทั้งหลายผู้ไม่ประมาทในการอบรมเจริญปัญญา ที่ได้กล่าวตอบมารที่มาชักชวนพระภิกษุเหล่านั้น ซึ่งยังอยู่ในวัยหนุ่ม ให้เกิดความยินดีพอใจในกาม
* กาม ได้แก่ กิเลสกาม คือความติดข้อง ยินดีพอใจ และวัตถุกาม คือสิ่งที่น่ายินดีพอใจ คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ฯลฯ
* กามทั้ง 2 คือ ความติดข้อง และสิ่งที่ติดข้อง แม้เป็นสภาพที่น่ายินดีพอใจ แต่ก็เป็นธรรมที่เกิดจากเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไปในแต่ละขณะอย่างรวดเร็ว ไม่ยั่งยืน
* กามทั้งหลายจึงเป็นเพียงผลชั่วคราว ที่ผู้อบรมเจริญปัญญา เมื่อรู้ตามความเป็นจริง จึงละคลายความติดข้องในกาม ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ประการต่างๆ
* ผู้ที่เข้าใจธรรม จะเห็นประโยชน์ของการอบรมเจริญปัญญารู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริงขณะนี้ ซึ่งจะนำไปสู่การประจักษ์พระนิพพาน ซึ่งไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง จึงไม่เกิดดับ เป็นสภาพที่เที่ยง เป็นสุขอย่างยิ่ง และเป็นอนัตตา พระนิพพานจึงเป็นผลอันเห็นเอง ที่ผู้อบรมเจริญปัญญาจนสามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระอริยบุคคลจะพึงเห็นเอง
* ดังนั้น ถ้าไม่ฟังพระธรรม ไม่เข้าใจธรรม ไม่เห็นประโยชน์ของการอบรมเจริญปัญญา ก็จะมีแต่ความติดข้องในผลชั่วคราวคือกามสุขที่แสนสั้น ด้วยความไม่รู้ตามความเป็นจริง และต้องได้รับทุกข์ โทษ ภัย ในสังสารวัฏฏ์ต่อไป อย่างไม่จบสิ้น
โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ