ปุถุชนเมื่อไม่หลงลืมสติ ก็สามารถระลึกรู้ลักษณะตามความเป็นจริงของสิ่งที่ปรากฎได้ว่าเป็นเพียงสิ่งหนึ่งๆ ธรรมชาติหนึ่งๆ ไม่ใช่สัตว์ บุคคล แต่เมื่อหลงลืมสติก็ยังจะเป็นตัวเราของเราขึ้นมาทันที สำหรับพระโสดาบันผู้หมดความเห็นผิดแล้ว แต่ก็ยังมีอกุศลจิตที่สามารถจะเกิดขึ้นได้ ขณะนั้นย่อมจะไม่ประกอบด้วยสติใช่ไหมครับ แล้วพระโสดาบันจะเป็นตัวเราของเราอย่างไร ในเมื่อเป็นผู้หมดความเห็นผิดในความเป็นสัตว์เป็นบุคคลแล้ว ขอผู้มีความรู้ได้อธิบายครับ
ขอบพระคุณครับ
ขอบพระคุณอาจารย์และคุณสามารถที่ช่วยตอบ-ถาม ทำให้หายข้องใจค่ะ
พระโสดาบันละสักกายทิฏฐิ ไม่ยึดถือตัวตนว่าเป็นของเรา แต่ยังยึดถือสภาพธรรมอื่นๆ เช่น มานะ โลภะ เป็นต้น พระธรรมละเอียดลึกซึ้งต้องศึกษามากๆ กว่าจะเข้าใจแจ่มแจ้งตอนนี้พอเข้าใจขึ้นบ้างแล้วค่ะ
"แต่ความเป็นเราด้วยโลภะหรือมานะ" นี้หมายความว่าอย่างไรครับ ขอรบกวนผู้มีความรู้ อธิบายเพิ่มเติมให้ผมทราบด้วยครับ
ขอบพระคุณครับ
(ความเห็นที่ 3 นี้ ถามคำถามจากข้อความใน ความเห็นที่ 2 ของคุณ prachern.s ครับ)
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
จากความคิดเห็นที่ ๓ พระโสดาบัน เป็นพระอริยบุคคลขั้นต้นที่สามารถประจักษ์แจ้งพระนิพพาน และดับกิเลสได้เป็นบางส่วน กล่าวคือ ท่านละความเห็นผิดทั้งหลายทั้งปวงได้อย่างเด็ดขาด ละการยึดถือในข้อวัตรปฏิบัติที่ผิดได้ ละความลังเลสงสัยในสภาพธรรมได้ ละความตระหนี่ ละความริษยาได้ เป็นผู้ไม่มีความลำเอียงด้วยอำนาจของอคติ และนอกจากนั้น โลภะ โทสะ โมหะที่เป็นเหตุให้ไปสู่อบายภูมิ พระโสดาบันท่านก็ละได้หมด เพราะพระโสดาบันเป็นผู้ปิดประตูอบายได้แล้ว แต่เนื่องจากว่าพระโสดาบันยังเป็นผู้ที่มีกิเลสเหลืออยู่ ยังมีอกุศลจิตเกิดขึ้น ยังมีความติดข้องยินดีพอใจ ยังมีมานะ ความสำคัญตน แต่ท่านไม่มีความเห็นผิด (โลภะที่เกิดร่วมกับความเห็นผิด จึงไม่มีแก่ท่าน) ดังนั้น พระโสดาบัน ขณะที่ท่านมีความยินดีพอใจในสิ่งหนึ่งสิ่งใด ขณะนั้นเป็นการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นเราด้วยอำนาจของโลภะ และอีกประการหนึ่ง ขณะที่พระโสดาบันมีความสำคัญตนตามที่เป็นจริงว่า เราดีกว่าคนอื่น เราต่ำกว่าคนอื่น เราเสมอกับคนอื่นขณะนั้น เป็นการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นเราด้วยมานะ (ความสำคัญตน,ความถือตน) สำหรับโลภะและมานะ ส่วนละเอียด จะดับได้อย่างเด็ดขาดด้วยอรหัตตมรรค ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขออนุโมทนาค่ะ
พระโสดาบันยังมีโลภะที่ติดข้องในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส เช่น ท่านอนาถบิณฑิก เศรษฐีลูกสาวตายก็ร้องไห้ แต่ท่านก็ไม่ได้มีความเห็นผิดว่าเป็นสัตว์บุคคลตัวตน หรือ พระเจ้ามหานามเป็นพระสกทาคามีก็ยังมีมานะถือตัวว่าเป็นกษัตริย์ ฯลฯ ค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
เอาชื่อออก ธรรมะก็ยังมีจริง และก็ยังทรงไว้ซึ่งลักษณะอย่างนั้นๆ ไม่เปลี่ยนไป ไม่ว่าธรรมะประเภทไหนจะเกิดกับผู้ใดก็ตาม ปุถุชนหลงลืมสติ ก็เป็นอกุศล พระโสดาบันพระสกทาคามี พระอนาคามี หลงลืมสติ ก็ต้องเป็นอกุศล แต่จะเป็นอกุศลประเภทใด ก็ต้องแล้วแต่ประเภทของอกุศลประเภทนั้นๆ ว่า เป็นอกุศลที่ยังไม่ได้ดับ หรือว่า เป็นอกุศลที่ได้ดับแล้วด้วยปัญญา และเมื่อถึงความเป็นพระอรหันต์ ภาวะหลงลืมสติก็จะไม่มีอีกต่อไป เพราะปัญญาได้ดับอกุศลประเภทเป็นสมุจเฉทแล้วครับ
ขออนุโมทนาครับ