ธรรมะปฏิบัติหน้าที่ของธรรมะอยู่แล้ว แต่เพราะความไม่เข้าใจ จึงมีความเห็นว่า มีเราที่ควรปฏิบัติ เวลาอกุศลจิตเกิดขึ้น มีใครปฏิบัติไหม ชีวิตประจำวันมีทั้งโลภะโทสะ อกุศลอื่นๆ อีกมากมาย ความริษยา ความตระหนี่ รู้ว่าเป็นสิ่งไม่ดี ไม่อยากให้เกิด แต่เป็นอนัตตา ธรรมะปฏิบัติหน้าที่ของธรรมะ โดยที่ไม่มีใครสามารถบังคับบัญชาได้เลย การศึกษาธรรมะเพื่อเข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ศึกษาอีกเข้าใจอีกเข้าใจขี้นทีละเล็กทีละน้อย ความเข้าใจนี้เองจะเป็นสังขารปรุงแต่ง ไม่มีตัวเราไปจัดการค่อยๆ ฟังอย่าเพิ่งใจร้อนค่ะ
คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นคำสอนของผู้มีปัญญามากผู้ที่สามารถดับกิเลสได้ ส่วนเราปุถุชน แปลว่า ผู้หนาไปด้วยกิเลส มีกิเลสเกิดขี้นมากมายในชีวิตประจำวันยังไม่รู้จักมันเลย จะจับโจรยังไม่รู้จักโจรว่าอยู่ที่ไหน ถ้าไม่ศึกษาไม่เรียนรู้ก่อนแล้วจะทำอย่างไร
"โจร" ก็คือ "อกุศลจิต" ที่ เกิดขึ้น ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นี่เอง ซึ่งต้องรู้จักกับ อกุศลจิต ที่ เกิดในชีวิต ประจำวันก่อน และ อกุศล อันดับ แรก ที่จะต้อง "ละ" ไม่ใช่ความพอใจ-ไม่พอใจใน รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสทางกาย แต่เป็น ความเห็นผิด คือ โลภะทิฏฐิคตะสัมปยุตต์ หรือ โลภะที่ประกอบด้วยความเห็นผิด ซึ่ง ก่อนที่จะ "ละ" ก็ต้อง "รู้" ก่อน ซึ่งก็คือ สติปัฏฐาน (หนทางอบรมเจริญปัญญา เพื่อ รู้ สภาพธรรมที่ปรากฏ ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ตามความเป็นจริง ในชีวิตประจำวัน)
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ