เรื่องของ....อุปนิสสัย
โดย พุทธรักษา  25 ก.ย. 2551
หัวข้อหมายเลข 9973

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ข้อความบางตอนจากการถอดเทป การบรรยายธรรมโดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ณ ตึกสภาการศึกษา มหามกุฏราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๒๕ โดย คุณย่าสงวน สุจริตกุล

คุณทรงเกียรติ ผมสงสัยศัพท์ คำว่า "อุปนิสสัย" ในภาษาไทยก็หมายถึง คนที่สั่งสมการกระทำทุกอย่างที่สั่งสมมานานจนเป็น "อุปนิสสัย"ทำไมจึงแปลว่า เป็นที่อาศัยที่มีกำลัง ซึ่งไม่เหมือนกับที่เราเข้าใจ

ท่านอาจารย์ โลภะเกิดขึ้น ๑ ขณะ หรือว่าโดยชวนะ ก็เกิดดับสืบต่อกัน ๗ ครั้งดับไปแล้ว อย่าคิดว่าไม่มีกำลัง ชวนจิตเกิดดับซ้ำกัน ๗ ขณะมากกว่า จักขุวิญญาณ สัมปฏิจฉนจิต สันตีรณจิต โวฏฐัพพนจิต แต่เพราะการเกิดดับของจิต เป็นไปอย่างรวดเร็วเหลือเกินเพราะฉะนั้น ในขณะนี้ ไม่สามารถที่จะรู้ได้ว่า ชวนจิตที่เกิดดับไป ๗ ครั้ง ๗ ขณะนี้ กี่ครั้ง กี่วาระแล้ว

ในขณะที่ฟังพระธรรม หรือว่าเป็น โลภชวนะ โทสชวนะก็ตาม แม้ว่าจะเกิดดับสืบต่อกัน ๗ ขณะก็แสนเร็วและดับไปแล้วก็จริง แต่อย่าคิดว่า ไม่มีกำลัง เพราะว่าสะสมสืบต่อในจิต ซึ่งเกิดดับต่อๆ มา ทุกดวง จึงเป็นอนันตรูปนิสสยปัจัย

จิตที่ประกอบด้วยโทสะ โมหะ หรือว่า มหากุศล ที่เป็นไปในทาน ศีล ภาวนาเกิดขึ้นได้อีก เพราะการสะสมสืบต่อของจิตที่เกิดดับทุกดวง นั่นเอง เพราะฉะนั้นจึงเป็นผู้ที่ไม่ประมาท ทำไมโลภะจึงมีมาก เพราะเคยเกิดมาแล้ว ๗ ขณะๆ ทุกวาระไป บ่อยๆ เนืองๆ สะสมสืบต่อโดยอนันตรปัจจัย และมีกำลังเมื่อเป็นอนันตรูปนิสสยปัจจัย

ไม่รู้เลย ใช่ไหมคะ ว่าจะมีกำลังมากถึงขนาดนั้นแต่ผลปรากฏ คือชีวิตของแต่ละคน มีอุปนิสสัยต่างๆ กันไปตามอนันตรปัจจัย และอนันตรูปนิสสยปัจจัยที่ได้สะสมมาจนเป็นปกติ เป็นปกตูปนิสสยปัจัย แต่ละท่าน รู้จักตัวเองพอสมควร ว่ามีฉันทะ หรือมีอุปนิสสัยทางใด แต่ให้ทราบว่า นั่นเป็นอนัตตา เพราะว่าสะสมสืบต่อมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเป็นอุปนิสสัย เป็นปกติที่มีกำลัง

ถ้าคิดจะให้ทานเกิดขึ้น ไม่น่าจะสงสัยเลย ว่าทำไมจึงคิดอย่างนั้น ถ้าไม่เคยสะสมเป็นอุปนิสสัย จนเป็นปกติย่อมจะไม่คิดอย่างนั้น เพราะว่าคนอื่น คิดในทางที่จะเบียดเบียน แทนการสละให้หรือว่าท่านที่สามารถจะรักษาศีล ได้วิรัติทุจริต ทางกาย ทางวาจา ถ้าทราบเรื่องปกตูปนิสสยปัจจัย ก็จะไม่สงสัยเลยว่าทำไมจึงเป็นอย่างนั้นได้เพราะว่าเคยเกิดสะสมเป็นอนันตรูปนิสสยปัจจัยจนกระทั่งเป็นปกติ จึงเป็นปกตูปนิสสยปัจจัย ของแต่ละบุคคล




ความคิดเห็น 1    โดย ปริศนา  วันที่ 25 ก.ย. 2551

และนอกจากเรื่องของอกุศล ซึ่งเป็นไปตาม ฉันทะ โลภะ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจหรือว่า กุศล ซึ่งเป็นไปในทาน ในศีลในสมถะ ความสงบของจิต หรือว่าในการอบรมเจริญปัญญา

อุตุ ความเย็น ความร้อน หรือโภชนะ อาหาร เสนาสนะ ที่อยู่ หรือบุคคลที่เป็นผู้ใกล้ชิด ก็ยังเป็นปกตูปนิสสยปัจจัย เป็นปัจจัยที่สะสมมาจนเป็นปกติที่สามารถจะให้ สภาพธรรมนั้นๆ เกิดขึ้น เป็นไปอย่างนั้น อากาศเย็นๆ บางคนก็ชอบ บางคนก็ไม่ชอบ บางคนก็สบาย บางคนก็ไม่สบาย เพราะอะไร ทำไมไม่เหมือนกัน ถ้าไม่เคยสะสมความพอใจหรือว่าการที่จะเป็น สัปปายะที่สบาย ที่เหมาะ ที่ควรสำหรับบุคคลนั้น สภาพธรรมนั้นๆ ก็จะไม่เป็น "ปกตูปนิสสยปัจจัย" คือ ไม่เป็นสภาพธรรมที่ปกติที่มีกำลังของบุคคลนั้นได้ หรือแม้แต่ "บุคคล" ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากการที่จะพอใจ ในกาย วาจา ในอัธยาศัยของบุคคลใด จะมีการคบหาสมาคม โดย "ธาตุ" เช่น ผู้ที่มีความเห็น เช่นท่านพระเทวทัต ก็คบหาสมาคมกับท่านพระเทวทัต ผู้ที่มีฉันทะในการอบรม พอใจในปัญญาก็คบหาสมาคม ตามอัธยาศัย อัชฌาสัย หรือ โดยธาตุที่สะสมมา โดยสภาพของปกตูปนิสสยปัจจัย
แต่ ปกตูปนิสสยปัจจัย ก็เป็นปัจจัยที่กว้างขวาง เพราะว่า กุศล ทั้งหมดที่เคยกระทำ เคยประพฤติ เคยสะสมมามีปัจจัย ที่จะให้เกิดขึ้น เป็นไปในลักษณะนั้นๆ อีกหรือว่า อกุศล ที่เคยสะสมมาก็มีกำลัง ที่จะทำให้เกิดอกุศลกรรม นั้นๆ อีกในชาติหลังๆ หรือว่าในชาติต่อๆ ไปเพราะฉะนั้นจึงต้องมีการสะสม แม้ในปัจจุบันชาติเพื่อที่จะให้อนาคตข้างหน้า เป็นไปตาม อนันตรูปนิสสยปัจจัยและปกตูปนิสสยปัจจัย สำหรับในอนาคต
ไม่ว่าท่านต้องการที่จะเป็นบุคคลที่มีอัธยาศัยอย่างไร ก็จะต้องอาศัยอุปนิสสยปัจจัยสะสมต่อไป

ขออนุโมทนา

ขออุทิศกุศลแด่คุณพ่อ คุณแม่และสรรพสัตว์


ความคิดเห็น 2    โดย วันชัย๒๕๐๔  วันที่ 26 ก.ย. 2551
ขอขอบพระคุณครับ ขออนุโมทนา

ความคิดเห็น 3    โดย opanayigo  วันที่ 26 ก.ย. 2551
ขออนุโมทนานะคะ

ความคิดเห็น 4    โดย suwit02  วันที่ 26 ก.ย. 2551

สาธุ


ความคิดเห็น 5    โดย เมตตา  วันที่ 27 ก.ย. 2551

ไม่ว่าท่านต้องการที่จะเป็นบุคคล ที่มีอัธยาศัยอย่างไรก็จะต้องอาศัย อุปนิสสยปัจจัย สะสมต่อไป
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย pamali  วันที่ 5 ก.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย hadezz  วันที่ 15 ก.ย. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย chatchai.k  วันที่ 19 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ