เหตุใดพระอรหันต์จึงไม่มีกุศลจิต
โดย Sam  20 ธ.ค. 2550
หัวข้อหมายเลข 6358

การอบรมเจริญปัญญาเพื่อการบรรลุธรรมนั้น เป็นการขัดเกลากิเลสและมีการละอกุศลไปทีละขั้นตามลำดับ จากพระอริยบุคคลขั้นพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามีและพระอรหันต์ เมื่ออกุศลถูกดับเป็นสมุทเฉทไปทีละขั้น กุศลจิตก็น่าจะมีเหตุให้เกิดมากขึ้นและละเอียดขึ้นตามลำดับผมจึงอยากเรียนถามว่าเหตุใดเมื่อบรรลุอริยสัจจธรรมขั้นสูงสุด เป็นพระอรหันต์แล้ว กุศลจิตจึงไม่เกิดขึ้นอีกเลย



ความคิดเห็น 1    โดย study  วันที่ 20 ธ.ค. 2550

เมื่อกล่าวถึง กุศลหรืออกุศล นั่นหมายถึงผู้ยังมีกิเลส มีอวิชชา อันเป็นธรรมที่ทำให้วัฏฏะเป็นไปคือ ทำให้มีปฏิสนธิวิญญาณ นามรูป สฬายตนะ เป็นต้น แต่พระอรหันต์ท่านดับอวิชชา อันเป็นตอของวัฏฏะได้แล้ว จึงไม่มีสังขาร คือบุญหรือบาป ดังนั้นผู้ที่เป็นพระอรหันต์ เมื่อชวนจิตของท่านเกิดขึ้นจึงเป็นชาติกิริยา ซึ่งเป็นธรรมฝ่ายโสภณะ แต่ไม่ส่งผลคือวิบากอีกต่อไป ฉะนั้น จิตชาติกิริยาจึงประณีตกว่าจิตชาติอกุศลและชาติกุศล ชวนจิตของพระอรหันต์เป็นเพียงกิริยาจิตเท่านั้น


ความคิดเห็น 2    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 20 ธ.ค. 2550

ธรรมฝ่ายดีมี เช่น สติเจตสิก ปัญญาเจตสิก แต่เกิดกับจิตที่เป็นกิริยาจิต แทนที่จะเป็นกุศลจิตเหมือนดังเช่นบุคคลที่ยังไม่ใช่พระอรหันต์ครับ


ความคิดเห็น 3    โดย Sam  วันที่ 21 ธ.ค. 2550

ขออนุโมทนา ขออนุญาตถามต่อครับว่า โสภณเจตสิกเกิดร่วมกับกุศลจิต กุศลวิบากจิตและโสภณกิริยาจิต อะไรทำให้กุศลจิตของปุถุชนและพระเสขบุคคล ต่างจากโสภณกิริยาจิตของพระอรหันต์ อีกคำถามหนึ่งครับ พระอรหันต์มีอโสภณจิตที่ทำชวนกิจไหมครับ


ความคิดเห็น 4    โดย study  วันที่ 21 ธ.ค. 2550
ความต่างของโสภณกุศล กับโสภณกิริยาก็คือ กุศลเป็นปัจจัยให้เกิดผลคือวิบากต่อไปพระอรหันต์มีชวนจิตที่เป็นอโสภณ ๑ ดวง คือ หสิตุปปาทจิต เพราะเป็นอเหตุกกิริยา

ความคิดเห็น 5    โดย Sam  วันที่ 25 ธ.ค. 2550

ขออนุโมทนา

ขอถามอีกหนึ่งคำถามครับซึ่งเป็นเรื่องที่ต่อเนื่องกันคือ พระอรหันต์ท่านแย้มยิ้มด้วยโสภณกิริยาจิตได้หรือไม่ครับ


ความคิดเห็น 6    โดย study  วันที่ 25 ธ.ค. 2550
พระอรหันต์ท่านแย้มยิ้มด้วยจิต ๕ ดวง คือ หสิตุปปาทะ ๑ มหากิริยาจิตที่เกิดพร้อมด้วยโสมนัส ๔

ความคิดเห็น 7    โดย chatchai.k  วันที่ 6 พ.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 8    โดย yu_da2554hotmail  วันที่ 12 พ.ค. 2565

ขออนุโมทนาค่ะ