ขณะหลับสนิทจิตขณะนั้นเป็นชาติวิบาก กระทำกิจภวังค์ คือดำรงภพชาติดำรงความเป็นบุคคลนั้นไว้
กุศล เป็นเจตสิกฝ่ายดีที่เกิดกับจิต เป็นสังขารขันธ์ อกุศล เป็นเจตสิกฝ่ายไม่ดีที่เกิดกับจิต เป็นสังขารขันธ์ เฉยๆ เป็นสัพพจิตตสาธารณเจตสิก เป็นอุเบกขาเวทนา เป็นเวทนาขันธ์ ถ้าเป็นเปรต สัตว์เดรัจฉาน อสูรกาย สัตว์นรก ขณะหลับเป็นภวังคจิตที่รู้อารมณ์เดียวกับปฏิสนธิจิตที่ดับไปแล้วซึ่งเป็นอุเบกขาสันตีรณอกุศลวิบาก เป็นจิตชาติวิบากที่เป็นผลจากอกุศลกรรมในอดีต มีเวทนาเพียงประเภทเดียว คือ เฉยๆ ครับ
ถ้ามนุษย์หรือเทวดาชั้นใดชั้นหนึ่งใน ๖ ชั้น (ที่ไม่บ้า ใบ้ บอด หนวก) เป็นมหากุศลวิบาก เป็นจิตชาติวิบากที่เป็นผลจากกุศลกรรมในอดีต ๑ ใน ๘ ประเภท แต่ก็แล้วแต่ว่าจิตที่ทำกิจปฏิสนธิ ๑ ใน ๘ ประเภทนั้น เป็นจิตที่ประกอบไปด้วยอุเบกขาเวทนา หรือโสมนัสเวทนา ครับ
คุณครูโอคะ... ถ้าหลับแล้วฝัน คืออะไร ต่างกับความคิด ตอนตื่นไหมคะ.
ขออนุโมทนาค่ะ.
ขณะหลับสนิท เป็นภวังคจิตขณะฝัน เป็นวิถีจิตทางใจ
หลับแล้วฝัน คือจากภวังคจิตเปลี่ยนเป็นวิถีจิต ไม่ใช่ขณะเดียวกันครับขณะหลับสนิทไม่ได้ฝัน ขณะฝันคือขณะที่ไม่ได้หลับสนิท เพราะตื่นขึ้นมาก็ยังจำได้ว่า เมื่อคืนนี้ฝัน ถึงแม้ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน ..ไม่ได้รู้สัมผัส แต่สิ่งที่คิดในความฝันส่วนหนึ่งก็อาจจะมาจากความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีตได้ครับ
ความคิดในขณะที่ตื่นต่างจากความคิดในขณะที่ฝัน โดยอารมณ์ที่รู้ได้ทางทวารอื่นๆ ที่ไม่ใช่ทางมโนทวารครับ เพราะขณะตื่นมีเห็น...คิดนึก, มีได้ยิน..มีคิดนึก.ฯลฯ แต่ขณะที่ฝันไม่มีเห็น ไม่มีได้ยิน... มีแต่การคิดนึกในเรื่องที่ฝัน เหมือนกันตรงที่ ความคิดในขณะที่ฝันเป็นอนัตตาเช่นเดียวกับความคิดที่กำลังเกิดในขณะนี้ คือเลือกให้คิดตามใจต้องการไม่ได้เลย ต้องเป็นไปตามเหตุปัจจัยสะสมมาที่จะคิดอย่างนี้ ก็ต้องคิดอย่างนี้ครับ ...อนุโมทนาครับ
ศึกษาเพิ่มเติมที่นี่ครับ --> เหตุให้เกิดความฝัน ๔ อย่าง
เข้าใจแล้วค่ะ.
ขอบพระคุณมากนะคะ.
พลอยได้ความรู้ด้วยคน อนุโมทนาคุณaudience คุณปริศนา ที่ถามคำถามนี้
ขอบพระคุณ คุณstudy และอาจารย์ครูโอที่ช่วยอธิบายรายละเอียดค่ะ