สนทนาธรรมที่ ...
มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
พระสูตร ที่นำมาสนทนาที่มูลนิธิฯ
วันเสาร์ ๒๖ เม.ย. ๒๕๕๑ เวลา ๐๙:๐๐ - ๑๒:๐๐น. คือ
๑. ปฐมภยสูตร
(ว่าด้วยภัย ๔ ประการ)
[เล่มที่ 35] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต เล่ม ๒ – หน้า ๓๑๘
[เล่มที่ 35] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต เล่ม ๒ – หน้า ๓๑๘ภยวรรคที่ ๓
๑. ปฐมภยสูตร (ว่าด้วยภัย ๔ ประการ)
[๑๒๑] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภัย ๔ ประการนี้ ๔ ประการเป็นไฉน? คือ อัตตานุวาทภัย ภัยเกิดแต่การติเตียนตนเอง ๑
ปรานุวาทภัย ภัยเกิดแต่ผู้อื่นติเตียน ๑ทัณฑภัย ภัยเกิดแต่อาญา๑ทุคติภัย ภัยเกิดแต่ทุคติ ๑
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ อัตตานุวาทภัย เป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า ก็แล หากว่า เราพึงประพฤติทุจริตด้วยกาย พึงประพฤติทุจริตด้วยวาจา พึงประพฤติทุจริตด้วยใจ ไฉนตัวเรา จะไม่พึงติเตียนเราโดยศีลได้เล่าดังนี้ เขากลัวต่อภัยเกิดแต่การติเตียนตนเอง จึงละกายทุจริต บำเพ็ญกายสุจริต ละวจีทุจริต บำเพ็ญวจีสุจริต ละมโนทุจริต บำเพ็ญมโนสุจริต ย่อมรักษาตนให้บริสุทธิ์ นี้เรียกว่า อัตตานุวาทภัย.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ ปรานุวาทภัย เป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลายบุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมพิจารณาเห็น ดังนี้ว่า ก็แลหากว่า เราพึงประพฤติทุจริตด้วยกาย พึงประพฤติทุจริตด้วยวาจาพึงประพฤติทุจริตด้วยใจ ไฉนคนอื่น จะไม่พึงติเตียนเราโดยศีลได้เล่า ดังนี้ เขากลัวต่อภัยเกิดแต่คนอื่นติเตียน จึงละกายทุจริต บำเพ็ญกายสุจริต ละวจีทุจริต บำเพ็ญวจีสุจริต ละมโนทุจริต บำเพ็ญมโนสุจริต ย่อมรักษาตนให้บริสุทธิ์ นี้เรียกว่า ปรานุวาทภัย.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ ทัณฑภัย เป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ เห็นเจ้านายจับโจรผู้ประพฤติชั่วช้ามาลงกรรมกรณ์ต่างๆ คือโบยด้วยแส้บ้าง เฆี่ยนด้วยหวายบ้าง ตีด้วยตะบองสั้นบ้าง ตัดมือบ้าง ตัดเท้าบ้าง ตัดทั้งมือทั้งเท้าบ้างตัดหูบ้าง ตัดจมูกบ้าง ตัดทั้งหูทั้งจมูกบ้าง ลงกรรมกรณ์วิธีหม้อเคี่ยวน้ำส้มบ้าง ลงกรรมกรณ์วิธีขอดสังข์บ้าง ลงกรรมกรณ์วิธีปากราหูบ้าง ลงกรรมกรณ์วิธีมาลัยไฟบ้าง ลงกรรมกรณ์วิธีคบมือบ้าง ลงกรรมกรณ์วิธีริ้วส่ายบ้าง ลงกรรมกรณ์วิธีนุ่งเปลือกไม้บ้างลงกรรมกรณ์วิธียืนกวางบ้าง ลงกรรมกรณ์วิธีเหยื่อเกี่ยวเบ็ดบ้าง ลงกรรมกรณ์วิธีเหรียญกษาปณ์บ้าง ลงกรรมกรณ์วิธีแปรงแสบบ้าง ลงกรรมกรณ์วิธีกางเกวียนบ้าง ลงกรรมกรณ์วิธีตั่งฟางบ้าง ราดด้วยน้ำมันกำลังเดือดบ้าง ให้สุนัขกัดบ้าง ให้นอนหงายบนหลาวทั้งเป็นบ้าง ตัดศีรษะด้วยดาบบ้าง บุคคลนั้น จึงมีความปริวิตกอย่างนี้ว่าเจ้านายจับโจรผู้ประพฤติชั่วช้ามาลงกรรมกรณ์ต่างๆ คือ โบยด้วยแส้บ้าง .. ฯลฯ .. ตัดศีรษะด้วยดาบบ้าง เพราะเหตุแห่งกรรมอันลามกเห็นปานใด ก็แลหากว่า เราพึงทำกรรมอันลามกเห็นปานนั้นบ้าง เจ้านายจะพึงจับเราไปลงกรรมกรณ์ต่างๆ เห็นปานนั้น คือ โบยด้วยแส้บ้าง .. ฯลฯ .. ตัดศีรษะด้วยดาบบ้าง ดังนี้ เขากลัวต่อภัยคืออาญา ไม่กล้าฉกชิงทรัพย์ของผู้อื่น นี้เรียกว่า ทัณฑภัย.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ ทุคติภัย เป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า วิบากของกายทุจริตในภายหน้า ชั่วร้าย วิบากของวจีทุจริตในภายหน้า ชั่วร้ายวิบากของมโนทุจริตในภายหน้า ชั่วร้าย ก็แล หากว่า เราพึงประพฤติทุจริตด้วยกาย พึงประพฤติทุจริตด้วยวาจา พึงประพฤติทุจริตด้วยใจ ข้อนั้นจะเป็นเหตุให้ เมื่อกายแตกตายไป เราจะพึงเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ดังนี้ เขากลัวต่อทุคติภัย ย่อมละกายทุจริต บำเพ็ญกายสุจริต ย่อมละวจีทุจริต บำเพ็ญวจีสุจริตย่อมละมโนทุจริต บำเพ็ญมโนสุจริต ย่อมบริหารตนให้หมดจดได้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลายนี้เรียกว่า ทุคติภัย.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภัย ๔ ประการนี้แล.
จบปฐมภยสูตรที่ ๑
อรรถกถาปฐมภยสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในปฐมภยสูตรที่ ๑ แห่งวรรคที่ ๓ ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า อตฺตานุวาทภยํ ได้แก่ ภัยเกิดขึ้นแก่บุคคลผู้ติเตียนตน. บทว่า ปรานุวาทภยํ ได้แก่ ภัยเกิดจากการติเตียนของผู้อื่น.
บทว่า ทณฺทภยํ ได้แก่ ภัยเกิดเพราะอาศัยกรรมกรณ์ ๓๒. บทว่าทุคฺคติภยํ ได้แก่ ภัยเกิดเพราะอาศัยอบาย ๔. ในคำเป็นต้นว่าอิทํ วุจฺจติ ภิกฺขเว อตฺตานุวาทภยํ นี้ ก่อนอื่น หิริภายในย่อมเกิดขึ้น แก่ผู้พิจารณาเห็นอัตตานุวาทภัย หิรินั้นย่อมยังความสำรวมให้เกิดในไตรทวารของเขา ความสำรวมในไตรทวารจัดเป็นจตุปาริสุทธิศีล เธอตั้งอยู่ในจตุปาริสุทธิศีลนั้นแล้ว เจริญวิปัสสนาย่อมตั้งอยู่ในผลอันเลิศ. ส่วนโอตตัปปะภายนอก ย่อมเกิดขึ้นแก่ผู้พิจารณาเห็นปรานุวาทภัย และทัณฑภัย โอตตัปปะนั้น ย่อมยังความสำรวมให้เกิดในไตรทวารของเขา. ความสำรวมในไตรทวาร จัดเป็นจตุปาริสุทธิศีล. เธอตั้งอยู่ในจตุปาริสุทธิศีลนั้นแล้ว เจริญวิปัสสนาย่อมตั้งอยู่ในผลอันเลิศ. หิริภายในย่อมเกิดขึ้นแก่ผู้พิจารณาเห็นทุคติภัย หิรินั้นย่อมยังความสำรวมให้เกิดในไตรทวารของเขา. ความสำรวมในไตรทวาร จัดเป็นจตุปาริสุทธิศีล. เธอตั้งอยู่ในจตุปาริสุทธิศีลนั้นแล้ว เจริญวิปัสสนา ย่อมตั้งอยู่ในผลอันเลิศ.
จบอรรถกถาปฐมภยสูตรที่ ๑
ฏีกาอัตตานุวาทสูตร
ในอัตตานุวาทสูตรที่ ๑ (ฉบับฉัฏฐฯ เป็นอัตตานุวาทสูตร แต่ฉบับสยามรัฐ เป็น ปฐมภยสูตร) แห่งภยวรรคที่ ๓ มีวินิจฉัย ดังนี้
ข้อความว่า ภัยเกิดขึ้นแก่บุคคลผู้ติเตียนตน หมายความว่า ภัยที่เกิดขึ้นแก่ผู้ติเตียนตน ซึ่งมักทำชั่วฯ
ข้อความว่า ภัยเกิดเพราะอาศัยกรรมกรณ์ ๓๒ กล่าวไว้ด้วยอำนาจคฤหัสถ์, แต่สำหรับบรรพชิต แม้ภัยที่เกิดเพราะอาศัยวินัยทัณฑ์ (โทษตามพระวินัย) ก็ถึงการนับว่า ทัณฑภัย เหมือนกันฯ
ข้อความที่เหลือเข้าใจง่ายอยู่แล้วฯ
จบ ฏีกาอัตตานุวาทสูตร
ถ้าไม่เห็นถึงโทษของภัย ก็ไม่สามารถละเหตุแห่งภัยนั้น
ขออนุโมทนาค่ะ