มีเรื่องอยู่ว่า บวชได้3วัน มีเพื่อนเอาปืนมาที่ กุฏิ เมื่อผมเห็นก็ตกใจ หลังจากนั้นก็ไปหยิบมาดู แล้วก็วางลง หลังจากนั้นผมก็ไปทำวัตรเย็น พอกลับมา เห็นปืนซ่อนไว้ที่กุฏิโดยที่ไม่รู้ เมื่อเห็นจึงรีบเอาผ้าห่มปิดไว้ เมื่อเพื่อนมาผมจึงบอกว่า อย่าเอามาใว้ทีนี่เพราะมันอันตราย เดี๋ยวคนเขาเห็น ผมจึงบอกว่าเอาไปไว้ที่บ้านเพื่อนเขาเถอะ อย่ามาไว้ที่นี่เลย แบบนี้ ปาราชิกไหมครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบนมัสการพระคุณเจ้าที่เคารพ
พระภิกษุจับต้องอาวุธต่างๆ ไม่ได้ เป็นอาบัติ จากกรณีที่พระคุณเจ้าได้เล่ามา เข้าใจว่า เพื่อนของพระคุณเจ้าเป็นคฤหัสถ์ แล้วเอาปืนมาที่กุฏิ พระคุณเจ้ามีความปรารถนาดี กลัวคนอื่นจะเห็นจึงเอาผ้ามาปิดไว้ พอเพื่อนมาจึงกล่าวว่าไม่ควรเอามาที่วัด เพราะไม่ใช่สถานที่ที่ควรมีสิ่งเหล่านี้ และที่สำคัญพระภิกษุจะมีอาวุธไม่ได้ จับต้องก็ไม่ได้ การกระทำของพระคุณเจ้าไม่ได้เป็นอาบัติปาราชิก เพราะไม่ได้มีเจตนาที่จะขโมยของของใครเลย แต่จะเป็นเพียงอาบัติทุกกฏ ตอนที่จับอาวุธขึ้นมาดู ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการแสดงอาบัติต่อหน้าพระภิกษุด้วยกันที่เรียกว่าปลงอาบัติเพื่อความสำรวมระวังจะไม่กระทำอย่างนั้นอีก
กิจหน้าที่ที่สำคัญของพระภิกษุ คือ ตั้งใจศึกษาพระธรรม น้อมประพฤติตามพระธรรมขัดเกลากิเลสของตนเอง ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
หลังจากนั้นผมก็ห้ามปรามเรื่องทำร้ายร่างกาย และ บอกว่ามันเป็นบาป ทั้งทางโลก และทางธรรม
ปาราชิกอาบัติ พึงมีแก่ภิกษุผู้ถือเอาทรัพย์ที่เจ้าของไม่ได้ให้ด้วยอาการ ๕ อย่างคือ ทรัพย์อันผู้อื่นหวงแหน ๑ มีความสำคัญว่าทรัพย์อัน ผู้อื่นหวงแหน ๑ ทรัพย์มีค่ามากได้ราคา ๕ มาสก หรือเกินกว่า ๕ มาสก ๑ ไถยจิตปรากฏขึ้น ๑ ภิกษุลูบคลำ ต้องอาบัติทุกกฏ ทำให้ไหว ต้องอาบัติ ถุลลัจจัย ให้เคลื่อนจากฐาน ต้องอาบัติปาราชิก ส่วนปืนไม่มีเจตนาลักก็ไม่เป็นปาราชิก แต่เป็นอาบัติทุกกฏ เพราะเป็นวัตถุที่ไม่ควรจับต้อง ค่ะ