ตามที่มีข่าว พุทธทำนาย เรื่องภัยพิบัติและสงครามใหญ่ หลังปี 2560 ที่อ้างมาจาก ศิลาจารึกในมหาวิหารเจตมหาเชตวัน ณ สวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย โดยคณะทูตไทยที่ไปอันเชิญพระบรมสารีริกธาตุเมื่อปี พ.ศ.2485 นั้น อยากทราบว่ามูลนิธิฯ มีความคิดเห็นอย่างไร มีความถูกต้องตรงจริงมากน้อยเพียงใด หรือมีปรากฏในพระไตรปิฎกหรือพระสูตรตอนใดหรือไม่ค่ะ เพื่อสร้างความเข้าใจและจะได้แนะนำบอกต่อให้ถูกต้องตรงจริงต่อไปค่ะ
เนื้อความจาก //www.tnews.co.th/contents/313977 ดังนี้
..อรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นพระสัพพัญญูรู้แจ้งโลกทั้งในอดีตและใน อนาคต ทรงมีเมตตากรุณาแก่สัตว์โลกเป็นล้นพ้นเมื่อครั้งพระองค์ดำรงพระชนม์อยู่ ได้ตรัสแก่พระอานนท์ว่า อานันทะ ดูก่อนอานนท์ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี (ก่อน พ.ศ. 2560) จะเกิดการณ์ร้ายแรง จะมีการรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ฝนเหล็กจะตกจากอากาศ ไฟจะลงมาจากอากาศ จะเผาผลาญประชาชนให้พินาศ จะมีการล้มตายซึ่งกันและกันเป็นอันมาก
ดูก่อนอานนท์ เมื่อศาสนาของของตถาคต ล่วงเลยไปก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี (ก่อน พ.ศ. 2560) สัตว์โลกทั้งหลาย ที่เกิดในยุคนั้น จะพบแต่ความลำบาก ทุกชาติทุกศาสนาตามธรรมชาติอันหมุนเวียนของโลก ที่หมุนไปใกล้ความแตกสลายแผ่นดินแผ่นน้ำจะลุกเป็นไฟ มนุษย์และสัตว์จะได้ รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทุกทิศ คนในสมัยนั้นจะมีนิสัยโหด ดุจกำเนิดจากสัตว์ป่าอำมหิตจะรบราฆ่าฟันกันเอง ถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นน้ำ ส่วนเวไนยสัตว์ ผู้ขวนขวายในกุศลตามวจนะของตถาคต ก็จะระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านเมืองใดมีความเคารพยำเกรงใน พระรัตนตรัยและคุณบิดามารดา เหตุร้ายภัยพิบัติจะเบาบาง แต่ก็จะหนีกฎธรรมชาติไม่พ้น
แต่ว่า ดูก่อนอานนท์ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี จะถือว่าเป็นการณ์ร้ายแรงหาได้ไม่ ทั้งนี้ก็เพราะว่าหลังกึ่งพุทธกาลไปแล้วนั้น อานันทะ ดูก่อนอานนท์ หลังกึ่งพุทธกาล (ช่วงหลัง พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป) จะมีความร้ายแรงมากกว่าก่อนกึ่งพุทธกาลมาก ยักษ์นอกพุทธศาสนาจะรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ต่างฝ่ายจะล้มตายกันฝ่ายละมากๆ สมณะ ซี พราหมณ์ จะล้มตาย จะตายไปฝ่ายละครึ่งจึงเลิกรากัน สำหรับประเทศที่นับถือพุทธศาสนาจะมีภัยเหมือนกัน แต่ไม่ร้ายแรงนัก เริ่มแต่พุทธศาสนาล่วงเลย 2,500 ปี เป็นต้นไป (ช่วงหลัง พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป) ไฟจะรุกรามมาทางทิศตะวันออก ไหม้วัดวาอาราม สมชีพรามณ์จะอดอยากยากเข็ญ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ เหล็กกล้าจะทะยานจากน้ำ มหาสมุทธจะชอกซ้ำ สงครามจากทั่วทิศศึกจะติดเมือง ข้าวจะขาดแคลนทั่วแคล้นจะอดอยาก ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง พระเสื้อเมือง ทรงเมือง จะหนีเข้าไพร ผู้เป็นใหญ่มีอำนาจ จะเรียกแมลงผีเสื้อเหล็กนับแสนตัว มาปล่อยไข่เป็นไฟผลาญ ยักษ์หินที่ถูกสาบเป็นเวลานาน จะตื่นขึ้นมาอาละวาทโลก ดินฟ้าอากาศจะแปรปรวน ตลิ่งจะพัง แผ่นดินจะถล่มเป็นทะเล โลกมนุษย์จะดิ่งสู่ความหายนะ นักปราชญ์จะถูกทำร้ายให้สิ้นสูญ ในระยะนั้นศาสนาของตถาคตจะเสื่อมลงมาก เพราะพุทธบริษัท ไม่ต้องอยู่ในศีลธรรม เชื่อคำคนโกง กล่าวคำเท็จ ไม่เคารพรักธรรมนิยม คนประจบ สอพลอได้รับความเชื่อถือในสังคม ผู้ที่มีศีลธรรม ประพฤติดี ประพฤติชอบ กลับไม่มีใครเคารพยำเกรง
พระธรรมจะเริ่มเปล่งรัศมีฉายแสงส่องโลกอีกวาระหนึ่งก็ต่อเมื่อ มีธรรมิกราชโพธิญาณบังเกิดขึ้น อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ ทั้งสองพระองค์สถิตย์ ณ เบื้องต้นตะวันออกของมัชฌิมประเทศ จะเสด็จมาเสริมสร้างศาสนาของตถาคต ให้รุ่งเรืองสืบไปถึง 5,000 พระวัสสา
ดูก่อนอานนท์ เวลานั้นพลโลกเหลือน้อยมาก คำทำนายของตถาคตนี้ ย่อมยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วไม่เชื่อ นับว่าเป็นกรรมของสัตว์ ที่ต้องสิ้นสุดไปตามกรรมชั่วของตน ผู้ใดปรารถนารอดพ้นจากภัยพิบัติ ให้รักษาศิล 5 ประการ เจริญเมตตาภารนา ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจสันโดดรู้จักพอ ไม่โป้ปดคตโกง ไม่หลงมัวเมาอำนาจและลาภยศ ตั้งใจปฏิบัติตน ตามคำสอนของตถาคตให้มั่นคง จึงจะพ้นอันตรายในกึ่งพุทธกาล
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ดีแล้ว ต้องมีที่มาที่ถูกต้องและตรงตามเหตุผล ไม่ใช่เป็นคำที่คิดอ้าง และ แต่งเอง แล้วกล่าวว่าเป็นพระพุทธพจน์ ซึ่งไม่จริงและเป็นกล่าวตู่คำของพระพุทธเจ้า ดังนั้น คำกล่าวที่ยกมานั้น ไม่ใช่พระพุทธพจน์ ไม่มีแสดงไว้ในพระไตรปิฎกเลย จึงเป็นการกล่าวอ้างในสิ่งที่ผิด ดังนั้น พุทธบริษัท ก็ควรพิจารณาเมื่อฟังคำใด ก็ตรวจสอบกับพระธรรมว่าเป็นคำของพระพุทธเจ้าหรือไม่ ครับ
อย่างไรก็ดี ความตายของชีวิตนั้น ถ้าเป็นผู้เข้าใจถูกและไม่ประมาท ก็ควรเข้าใจถูกว่า ตายทุกขณะ ขณะจิตเกิดขึ้นและดับไป ความตายแสนสั้น ชีวิตชั่วคราว ไม่ต้องรอให้เกิดสงคราม ผู้ไม่ประมาท ย่อมฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม เพราะ ไม่รู้ว่าความตายที่จะพรากจาการเกิดเป็นมนุษย์จะเกิดขึ้นตอนไหนครับ
ขออนุโมทนา
ขอบคุณขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็คือธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น และเป็นความจริงที่ว่า ในที่สุดแล้ว ทุกคนก็จะต้องละจากโลกนี้ไป เกิดมาแล้วทุกคนก็จะต้องตาย ถ้าจะถามว่า ทำไมเกิดมาแล้วก็ต้องตาย ไม่ตายไม่ได้หรือ? คำตอบ คือ เป็นไปไม่ได้เลย เนื่องจากว่า ชีวิตมีความตายเป็นที่สุด กว่าจะถึงวันนั้น ระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่ อะไร คือสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สุด?
เพราะว่า เกิดมามีความสุข ความสุขนั้นก็หมดไป อาหารอร่อยแต่ละมื้อก็หมดไป สุขทุกข์ต่างๆ รวมไปถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เราได้ฟัง ได้ยิน ก็หมดไป เพราะฉะนั้น ก็ไม่มีอะไรเหลือเลย แล้วก็ควรจะเข้าใจความจริงอย่างนี้ว่า ถึงแม้ว่าจะจากโลกนี้ไปแล้ว ก็ยังมีโลกหน้าหรือชาติหน้า ซึ่งต้องเกิดสืบต่อ เหมือนเมื่อวานนี้กับขณะนี้ และพรุ่งนี้ ซึ่งจะมีต่อจากวันนี้ เพราะยังไม่ได้ดับเหตุที่ทำให้เกิด คือ โลภะ ก็ยังต้องเกิดในชาติต่อไป มีชาติหน้าและชาติต่อๆ ไปอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นก็ควรที่จะได้พิจารณาว่า ระหว่างที่มีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ได้สาระอะไรจากการมีชีวิตอยู่? ที่จะเป็นสาระ เป็นประโยชน์สำหรับชีวิตจริงๆ คือ กุศลธรรมประการต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ปัญญา ความเข้าใจถูกเห็นถูกในลักษณะสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
การศึกษาพระธรรมต้องเป็นผู้ละเอียด ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
เป็นหัวข้อที่ควรศึกษาอย่างละเอียด ขออนุโมทนาค่ะ
ตกใจหมดเลยครับ คิดว่าปรากฏในพระไตรปิฏก เชื่อไปแล้ว เชื่อถือมงคลตื่นข่าว ดูจากข้อความทั้งแล้วสำนวนไม่เนียน แต่ก็เป็นผู้ที่ไม่ประมาทที่จะฟังพระธรรม
ขออนุโมทนาครับ
อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร
ขอเชิญศึกษาพระธรรม...
รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์
พระไตรปิฎก
ฟังธรรม
วีดีโอ
ซีดี
หนังสือ
กระดานสนทนา