พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๑ - หน้าที่ 633
ปิณโฑลภารทวาชเถราปทานที่ ๑๐ ว่าด้วยผลแห่งการถวายดอกปทุม
[๑๐] พระสยัมภูชินเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ เป็นบุคคลผู้เลิศ ประทับอยู่บนยอดเขาจิตตกูฏข้างหน้าหิมวันต์ เราเป็นพญาเนื้อ ผู้ไม่มีความกลัว สามารถจะไปได้ในทิศทั้ง ๔ พำนักอยู่ ณ ที่นั้น. สัตว์เป็นอันมากได้ฟังเสียงของเราแล้ว ย่อมครั่นคร้าม เราคาบดอกปทุมที่บาน เข้าไปหาพระนราสภ ได้บูชาพระพุทธเจ้าซึ่งเสด็จออกจากสมาธิ. เวลานั้น เรานมัสการพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสูงสุดกว่า นระใน ๔ ทิศ ยังจิตของตนให้เลื่อมใสแล้วได้บันลือสีหนาท. พระปทุมุตตรพุทธเจ้าผู้ทรงรู้แจ้งโลก ทรงรับเครื่องบูชา ของเราแล้วประทับนั่งบนอาสนะของพระองค์ ได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ ทวยเทพทั้งปวงได้ทราบพระดำรัสของพระพุทธเจ้าแล้ว มาประชุมกันแล้วกล่าวว่า พระพุทธเจ้าผู้ ประเสริฐจักเสด็จมา เราทั้งหลายจักฟังธรรมนั้น.
พระมหามุนีผู้ทรงเห็นกาลไกล ผู้เป็นนายกของโลก ทรง ประกาศเสียงบันลือของเรา เบื้องหน้าทวยเทพและมนุษย์ผู้ ประกอบด้วยความร่าเริงเหล่านั้นว่า ผู้ใดได้ถวายปทุมนี้ และ ได้บันลือสีหนาท เราจักพยากรณ์ผู้นั้น ท่านทั้งหลายจงฟัง เรากล่าว. ในกัปที่ ๘ แต่ภัทรกัปนี้ ผู้นั้นจักเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ เป็นใหญ่ในทวีปทั้ง ๔ จัก เสวยความเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ๖๔ ชาติ จักเป็นพระเจ้าจักร พรรดิทรงกำลัง มีพระนามชื่อว่าปทุม. ในแสนกัป พระศาสดาพระนามว่าโคดมโดยพระโคตร ทรงสมภพในวงศ์พระเจ้าโอกกากราช จักเสด็จอุบัติในโลก. เมื่อพระศาสดาพระองค์นั้น ทรงประกาศพระศาสนาแล้ว พญาสีหะนี้จักเป็นเผ่าพันธุ์พราหมณ์ จักออกจากสกุล- พราหมณ์แล้วบวชในพระศาสนาของพระศาสดาพระองค์นั้น. เขามีตนอันส่งไปแล้วเพื่อความเพียร เป็นผู้สงบระงับไม่ มีอุปธิ กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้ว จักไม่มีอาสวะ นิพพาน ณ เสนาสนะอันสงัดปราศจากชน แต่คลาคล่ำด้วยเนื้อร้าย. คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และ อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า เรา ทำเสร็จแล้ว ฉะนี้แล. ทราบว่า ท่านพระปิณโฑลภารทวาชเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย ประการฉะนั้นแล. จบปิณโฑลภารทวาชเถราปทาน
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ