ทำอย่างไรดีคะ เมื่อเราเอาจิตใจไปฝากไว้กับคนอื่น คิดว่ามั่นคง แล้ววันนี้ก็ผิดหวังเหลือเกิน เพราะรู้ว่าเค้าไม่ใช่ของเราคนเดียว รู้ว่าโลกนี้ช่างไม่แน่นอน จะรับมืออย่างไรดี
รับมือทุกสิ่งทุกอย่างด้วยการศึกษาพระธรรม ด้วยการอบรมเจริญปัญญา เพราะผู้ที่มีปัญญาสมบูรณ์แล้วย่อมไม่หวั่นไหวกับสิ่งใดๆ เพราะปัญญารู้ตามเป็นจริงในสรรพสิ่ง เมื่อเข้าใจและรู้ตามเป็นจริง จึงรับมือกับทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความไม่หวั่นไหว ไม่ทุกข์ใจ สุขสงบเย็น ไม่เร่าร้อน ย่อมไม่หวั่นไหวในสุขและทุกข์ ทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี
ความโศกย่อมเกิดแต่..ของที่รักภัยย่อมเกิดแต่..ของที่รักความโศก ย่อมไม่มีแก่ผู้ปลดเปลื้องได้จาก..ของที่รักภัยจักมีแต่ไหน.
(คาถาธรรมบท)
เราหวังอะไรจากตัวเองยังไม่ได้เลย แล้วทำไมจึงคาดหวังจากคนอื่นมากนัก ไม่มีใครเป็นเจ้าของใคร จิตคุณก็อยู่ที่ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ของคุณ แต่กิเลสของคุณเองที่ติดข้องอยู่กับคนอื่น คาดหวังจากคนอื่น สมหวังก็ดีใจ ผิดหวังก็ทุกข์ใจ ก็เป็นธรรมดา เพราะทุกอย่างก็เป็น ธรรมะ
ตอนนี้คงยังรับมือไม่ได้เพราะยังไม่มีสิ่งที่เรียกว่า ปัญญาแต่รับทราบได้ว่า เวลานี้รู้สึกอย่างไร รู้สึกเหมือนเดิมทุกขณะจิตไหม?
เป็นกำลังใจให้นะคะ ความเข้าใจเรื่องความไม่เที่ยงจะช่วยให้ค่อยๆ หายทุกข์ หมั่นฟังพระธรรม ฟังให้เข้าใจ ฟังบ่อยๆ อย่างตั้งใจ พิจารณาบ่อยๆ ลองดู ลองดู
จาก ผู้เคยทุกข์เหมือนคุณ
พอจะเข้าใจความรู้สึกของคุณ ขอแสดงความปรารถนาดีให้คุณพ้นจากความทุกข์โดยเร็ว โปรดอย่าทำอะไรโดยขาดสติ เป็นการประชดชีวิต คุณเลือกที่จะพูดระบายความทุกข์ออกมาในเวปนี้ ก็ดีแล้ว ที่นี่มีผู้มีใจกรุณาอยู่มาก และท่านเหล่านั้นมีปัญญากำลังแนะนำหนทางบรรเทาทุกข์ให้คุณอยู่ ขอเชิญรับฟังคำแนะนำจากท่านเหล่านั้นและนำไปไตร่ตรอง เลือกหนทางที่เหมาะกับคุณ ขอเป็นกำลังใจให้คุณเลือกทางเดินที่เป็นประโยชน์กับตนเองครับ อย่าปล่อยให้ วันวาน ที่ผ่านพ้นทำให้เรา ทุกข์ทน จนหม่นไหม้ มัวครุ่นคิด อาจทำผิด ซ้ำลงไป ยิ่งเพิ่มวัน เสียใจ ไปอีกวัน
ที่มา : C.pongsiri
ปล. กระทู้เหล่านี้ อาจเป็นประโยชน์แก่คุณบ้าง
08737 เศร้า โดย aBuddhist
08689 ช่วยตอบด่วนมากครับ โดย เอกพันธ์1
ขออนุโมทนาค่ะ รับมือทุกสิ่งทุกอย่างด้วยการศึกษาพระธรรมด้วยการอบรมเจริญปัญญา มีหนทางเดียวจริงๆ เพราะตามความเป็นจริงของสภาพธรรมแล้ว ไม่มีเรา ไม่มีเขา จึงควรศึกษาพระธรรมน่ะค่ะ
ควรเริ่มศึกษาพระธรรมให้เข้าใจครับว่า ทุกข์ที่กำลังเผชิญอยู่นั้น เกิดจากสิ่งที่มากระทบกับประสาททั้งห้าจริงๆ หรือเกิดจากความคิดกันแน่ การเห็น การได้ยิน ฯลฯ สิ่งที่ไม่น่าพึงพอใจ เกิดขึ้นสั้นๆ แล้วดับไปทันที ซึ่งหลึกเลี่ยงไม่ได้เพราะเป็นผลของกรรมที่ได้กระทำแล้วในอดีต ส่วนความทุกข์ที่ดูเหมือนยาวนาน และไม่อาจหมดไปได้ ก็เพราะใจคิดโดยไม่แยบคาย แม้อยากจะหยุดคิดก็สั่งไม่ได้ เพราะได้สะสมมาให้คิดเช่นนั้น การศึกษาพระธรรมเท่านั้น ที่จะทำให้เราเข้าใจว่าสิ่งใดคือความจริง สิ่งใดมีเพราะความคิด และความเข้าใจเหล่านี้จะช่วยให้เกิดความคิดที่แยบคายอันไม่เป็นทุกข์ได้ไม่ว่าจะประสบกับเหตุการณ์ใดๆ
ขอให้กำลังใจคุณ asu ครับ
พระพุทธเจ้าท่านสอนให้พิจารณาเนืองๆ ว่าเรามีความเกิดเป็นธรรมดา มีความแก่เป็นธรรมดา มีความเจ็บเป็นธรรมดา มีความตายเป็นธรรมดา เราต้องพลัดพรากจากของรัก ชอบใจทั้งปวง เป็นธรรมดา ไม่สามารถล่วงพ้นไปได้ เรามีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นทายาท มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ ทำดีหรือทำชั่วเป็นผู้รับผลแห่งกรรมนั้น ถ้าพิจารณาอย่างนี้ทุกๆ วัน จะทำให้เรามั่นคงในเรื่องของกรรมและความไม่เที่ยงค่ะ
ทุกอย่างไม่เที่ยง คนที่ทำให้เราผิดหวัง รวมทั้งคนที่ผิดหวัง และทุกๆ คนที่เกิดมาแล้ว ก็จะอยู่ในโลกใบนี้อีกไม่นาน เวลาที่เหลืออยู่น้อยนิดนี้ จะมีค่ามาก ถ้าเป็นเวลาที่ทำให้เราได้มีความเข้าใจธรรม เพิ่มขึ้น เพราะปัญญา เป็นสิ่งที่มีค่า มีค่ามากกว่าทรัพย์สมบัติใดๆ ทั้งสิ้น ปัญญาไม่เคยนำความทุกข์มาให้ใครๆ เลย ปัญญาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องเกื้อกูลเราได้มากที่สุด ครับ
เห็นด้วยค่ะ
พระธรรมรับมือได้กับทุกสิ่งทุกอย่างจริงๆ ค่ะ โดยเฉพาะความติดข้องในความยินดีพอใจต่างๆ ที่เป็นกิเลสเป็นความคิดของเราเอง ถึงตอนนี้ปัญญายังน้อย รับมือ (ชั่วขณะ) ได้บ้างไม่ได้บ้างก็ไม่เป็นไร ค่อยๆ สะสมอบรมเจริญปัญญาไป เมื่อปัญญาค่อยๆ คมกล้าขึ้น การรับมือก็จะค่อยๆ ดียิ่งขึ้นตามลำดับ
ไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้ว มาฟังธรรมกันนะคะ เพื่อจะได้ค่อยๆ เข้าใจว่า พระธรรม รับมือกับปัญหาของคุณได้อย่างไร อินดี้ก็กำลังฟังค่ะ เป็นที่พึ่งอันวิเศษยอดเยี่ยมปราศจากโทษ ปัญหาของคุณเป็นปัญหาที่ย่อมเกิดขึ้นได้กับบุคคลมากมายในโลก
ร่วมเป็นกำลังใจค่ะ
ขออนุโมทนาทุกความคิดเห็นค่ะ
สาธุการทุกความคิดเห็นครับ
สร้างความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ปัญญาจะเกิดครับ ยกตัวอย่างเช่น ลิงอยู่ที่ไหนก็ซน อยู่ในกรงก็ซน อยู่บนต้นไม้ก็ซน เป็นลักษณะของลิง ไปจับให้นั่งเฉยๆ ไม่ได้ เมื่อเข้าใจแล้วไม่ต้องไปใส่ใจปล่อยให้มันซน ใบไม้ที่อยู่ที่กิ่งไม้ เมื่อโดนลมย่อมปิวเป็นธรรมดาไม่สามารถไปจับให้ใบไม้ไม่ปิวไม่ได้จับใบนี้ ใบนู้นปิว จับใบนี้ ใบนั้นปิว ไม่สามารถไปจับใบไม้ทั้งต้นไม่ให้ปิวเมื่อเข้าใจแล้วไม่ต้องไปใส่ใจปล่อยให้มันปิว ลักษณะของคนชั่วคือ คิดชั่ว ทำชั่ว พูดชั่ว เป็นปกติ เข้าใจแล้วไม่ต้องไปใส่ใจ สร้างความเข้าใจกับทุกสิ่ง ความทุกข์ก็เช่นกัน เกิดแล้วดับ ไม่มีตัวตน
โลกธรรม 8 ประการ
ได้ลาภ๑ เสื่อมลาภ๑ ไม่มีใครได้ลาภตลอดชีวิตต้องมีเสื่อมลาภ
ได้ยศ ๑ เสื่อมยศ๑ ไม่มีใครได้ยศตลอดชีวิตต้องมีเสียยศ
สรรเสริญ ๑ นินทา๑ ไม่มีใครที่ได้คำสรรเสริญตลอดชีวิตต้องมีคนนินทา
ได้สุข๑ ได้ทุกข์๑ ไม่มีใครได้สุขตลอดชีวิตต้องมีทุกข์ปะปนกันไป
เป็นกำลังใจให้ครับ สาธุการทุกความคิดเห็นครับ
ขอบพระคุณทุกท่านค่ะ สำหรับคำแนะนำ
คุณ K คะ คือขณะนี้กำลังประสบปัญหาที่ว่าหยุดคิดไมได้น่ะค่ะ มีข้อแนะนำบ้างไหมคะ
ไม่จากเป็นก็จากตาย
สามี ภรรยา ขอให้ศาลมีคำสั่ง จดทะเบียนหย่าได้ เพราะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขอหย่า แต่อีกฝ่ายไม่ยอมหย่า 10 คู่ ที่เข้ามาสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยของศาลเยาวชนและครอบครัว 8 คู่ สมหวังได้จดทะเบียนหย่า เนื่องจากพยานให้ปากคำแล้วมีน้ำหนักสมควรหย่า
อีก 2 คู่ ศาล พิจารณา จากความคิดเห็น แล้ว ไม่สมควรให้จดทะเบียนหย่า สามีทั้ง 2 รายมีความประสงค์ที่จะขอหย่า แต่ภรรยาของทั้งคู่สืบรู้ว่า ไปแอบมีกิ๊กจึงไม่ยอมหย่าให้ สามีผิดหวัง ภรรยาสมหวัง ในคำสั่งศาล รุ่งขึ้น สามีก็นำภรรยาใส่ถังน้ำมัน 200 ลิตร แล้วโบกปูนทับ เหตุการณ์ เกิดขึ้นที่จ.ราชบุรี
รุ่งขึ้นอีกคู่พาภรรยาไปกินอาหารที่ร้านอาหารญี่ปุ่นโอ อิ ชิ ก่อน แล้วหายสาบสูญ เป็นข่าวหน้า 1
ทุกอย่างล้วนเป็นอนัตตา ถ้ารู้อย่างนี้ ก็ไม่มีเขา ไม่มีเรา ฝากจิตใจไว้กับใคร ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และก็อนัตตา มีธรรม มีปัญญา เป็นที่พึ่ง เข้าใจอย่างนี้ เบาสบายกว่าคะ
หากเชื่ออย่างมั่นคงว่าทุกอย่างมีเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดก็ต้องเกิด เหตุย่อมสมควรแก่ผล ก็จะไม่คิดและหวังไม่มีอะไรเป็นที่พึ่งที่ดีเท่าพระธรรมคะ
อ้างอิงจาก : ความคิดเห็นที่ 11 โดย asu
ขอบพระคุณทุกท่านค่ะ สำหรับคำแนะนำ
คุณ K คะ คือขณะนี้กำลังประสบปัญหาที่ว่าหยุดคิดไมได้น่ะค่ะ มีข้อแนะนำบ้างไหมคะ
ลักษณะของจิตคือ คิด ตราบใดที่ยังมีชีวิตคือ มีจิตเกิดขึ้นรู้อารมณ์ของโลกนี้ ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น และทางกาย แล้วคิดนึกต่อทางใจ จะห้ามหรือหยุดความคิดไม่ได้เลยครับ ความคิดนั้นแม้มีอยู่ตลอดแต่ก็มีทั้งคิดดีและคิดไม่ดี ไม่มีใครสามารถคิดดีได้ตลอดหรือคิดไม่ดีได้ตลอด ที่คุณ asu เข้าใจว่าคิดถึงเรื่องที่ทำให้เสียใจอยู่ตลอดเวลานั้น จริงๆ แล้วก็ต้องมีบางขณะที่มีความคิดอื่นแทรก เช่น ขณะที่ศึกษาธรรมะในเวบบอร์ดนี้ หากมีความเข้าใจขณะใด ขณะนั้นก็คือความคิดดีที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นขณะที่สั้นเพียงใด และขณะนั้นไม่มีความเศร้าเสียใจใดๆ เจือปนเลย
จะเห็นได้ว่า แม้แต่การศึกษาธรรมะขั้นต้นจากเวบบอร์ด ก็ยังช่วยให้เกิดความคิดดีอันไม่เศร้าหมองได้นิดๆ หน่อยๆ ดังนั้นหากคุณ asu ตัดสินใจสละเวลาศึกษาธรรมะอย่างจริงจังจนเข้าใจ ก็จะทำให้มีความคิดที่ดีเกิดขึ้นได้บ่อยๆ แทนที่ความคิดไม่ดี
แม้เรายังต้องเห็นรูป ได้ยินเสียง ได้กลิ่น ลิ้มรส และสัมผัสกับสิ่งต่างๆ ที่เหมือนเดิมในชีวิตประจำวัน ถ้าหากมีความเข้าใจจากการศึกษาพระธรรมแล้ว ความคิดของเราจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ไม่เหมือนเดิมครับ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ
ความทุกข์....เกิดจากความคิดของตัวเอง
ขอเป็นกำลังใจให้คุณasu พบทางออกที่ดีให้กับชีวิตนะคะ
ขออนุโมทนากับความเห็นของทุกท่านค่ะ
โลกอันชราน่าเข้าไปไม่ยั่งยืน
โลกไม่มีผู้ต้านทาน ไม่เป็นใหญ่เฉพาะตน
(ไม่มีใครแบ่งทุกข์ที่เกิดจากเราได้ เราผู้เดียวที่ทุกข์)
โลกไม่มีอะไรเป็นของตนจำต้องละสิ่งทั้งปวง
โลกบกพร่องอยู่เป็นนิตย์ไม่รู้จักอิ่ม เป็นทาสแห่งตัณหา
หนทางเดียวศึกษาพระธรรม
แต่หายจากโรคทันทีไม่ได้ ค่อยๆ หาย เพราะปัญญาค่อยๆ เจริญทีละเล็กละน้อย
ยินดีด้วยครับ
หากมีความเห็นถูกเกิดขึ้นแม้ในขั้นฟัง ก็จะละคายความติดข้องได้บ้าง ห้ามจิตคิดไม่ได้ แต่ให้รู้ว่าเป็นจิตที่คิด ไม่ใช่เรา การไม่รู้ความจริง เสมือนคนตาบอด ย่อมหลงทาง สะสมปัญญา ความเห็นถูกในสภาพธรรมตามจริงกันเถอะ
เอาใจช่วยครับ
อ้างอิงจาก : ความคิดเห็นที่ 22 โดย suwit02 อ้างอิงจาก : ความคิดเห็นที่ 21 โดย asuขอขอบพระคุณทุกท่านค่ะ ขณะดีขึ้นมากแล้วค่ะ
ยินดีด้วยครับ
สาธุการครับ ทุกท่านที่ให้กำลังใจสมาชิกท่านนี้ โดยเฉพาะ คุณ suwit02 สาธุสมาชิกตลอด ให้สิ่งใดขอให้สมาชิกทุกท่านได้รับสิ่งนั้นครับ
สาธุอีกครั้งครับ