กุฏิกาสูตร
โดย pornpaon  26 พ.ค. 2552
หัวข้อหมายเลข 12493

[เล่มที่ 24] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 97 ๙. กุฏิกาสูตร

ว่าด้วยมารดาเหมือนกระท่อมเป็นต้น

[๔๐] เทวดากล่าวว่า

กระท่อมของท่านไม่มีหรือ รังของ ท่านไม่มีหรือ เครื่องสืบต่อของท่านไม่มี หรือ ท่านเป็นผู้พ้นแล้วจากเครื่องผูกหรือ. [๔๑] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า แน่ละ กระท่อมของเราไม่มี แน่ละ รังของเราไม่มี แน่ละ เครื่องสืบต่อของ เราไม่มี แน่ละ เราเป็นผู้พ้นแล้วจาก เครื่องผูก. [๔๒] เทวดากล่าวว่า ข้าพเจ้ากล่าวแก่ท่านว่า อะไรเป็น กระท่อม ข้าพเจ้ากล่าวแก่ท่านว่าอะไร เป็นรัง ข้าพเจ้ากล่าวแก่ท่านว่าอะไรเป็น เครื่องสืบต่อ ข้าพเจ้ากล่าวแก่ท่านว่า อะไรเป็นเครื่องผูก. [๔๓] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ท่านกล่าวมารดาว่าเป็นกระท่อม ท่านกล่าวภรรยาว่าเป็นรัง ท่านกล่าวบุตร ว่าเป็นเครื่องสืบต่อ ท่านกล่าวตัณหาว่า เป็นเครื่องผูกแก่เรา.
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 98
เทวดาฟังพระดำรัสแล้วชื่นชมอนุโมทนาว่า ดีจริง กระท่อมของท่านไม่มี ดีจริง รังของท่านไม่มี ดีจริง เครื่องสืบต่อของ ท่านไม่มี ดีจริง ท่านเป็นผู้พ้นแล้วจาก เครื่องผูก...



ความคิดเห็น 1    โดย pornpaon  วันที่ 26 พ.ค. 2552

อรรถกถากุฏิกาสูตร
วินิจฉัยในกุฏิกาสูตรที่ ๙ ต่อไป :-
บทว่า กจฺจิ เต กุฏิกา เป็นต้น อธิบายว่า เทวดานี้ประมวลปัญหา เหล่านี้มาผูกเป็นคาถาโดยกระทำมารดาให้เป็นดังกระท่อม เพราะหมายเอาการ อยู่ในท้อง ๑๐ เดือน กระทำภรรยาให้เป็นดังรัง (รังนก) ด้วยอำนาจแห่งความ อาลัย เหมือนพวกนกเที่ยวหาอาหารตลอดวันแล้วก็มาเกาะอยู่ในรังในเวลาราตรี ฉันใด สัตว์ทั้งหลาย ก็ฉันนั้นเหมือนกัน แม้จะไปในที่นั้นๆ แล้วก็ย่อมมา สู่สำนักแห่งมาตุคาม กระทำบุตรทั้งหลายให้เป็นดังเครื่องสืบต่อ เพราะหมาย เอาการสืบต่อตระกูลและประเพณี แล้วจึงทูลถามกะพระผู้มีพระภาคเจ้า. แม้ พระผู้มีพระภาคเจ้าเมื่อจะทรงวิสัชนาปัญหาแก่เทวดานั้น จึงตรัสคำว่า ตคฺฆ เป็นต้น แปลว่า แน่ละ กระท่อมของเราไม่มี แน่ละ รังของเราไม่มี แน่ละ เครื่องสืบต่อของเราไม่มี แน่ละ เราเป็นผู้พ้นแล้วจากเครื่องผูก. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ตคฺฆ เป็นนิบาต ในคำโดยส่วนเดียว. บทว่า นตฺถิ ได้แก่ ละได้แล้ว เพราะความที่เราเป็นบรรพชิต อีกอย่างหนึ่ง ชื่อว่า ไม่มี เพราะไม่มีการอยู่ในท้องของมารดาในวัฏฏะอีก ไม่มีการเลี้ยงดู
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 99
ภรรยา ไม่มีการเกิดขึ้นแห่งบุตร. เทวดาดำริว่า ปัญหาอันไม่เปิดเผยที่เราผูก ดุจมัดไว้แล้วทูลถาม และสมณะนี้ ก็วิสัชนาปัญหาสักว่าอัน เราถามแล้วทีเดียว พระองค์จะทรงทราบอยู่ซึ่งอัธยาศัยของเราหรือไม่หนอ จึงตรัสแก้แล้ว หรือว่า พระองค์ไม่ทรงทราบคำอย่างใดอย่างหนึ่ง ตรัสแล้วเพียงคล่องปาก ดังนี้ จึง กล่าวคำว่า กินฺตาหํ เป็นต้นอีก. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า กินฺตาหํ แก้เป็น กึ เต อหํ แปลว่า ข้าพเจ้ากะท่านว่าอะไร. ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อจะตรัสบอกแก่เทวดานั้น จึงตรัส คำว่า มาตรํ เป็นต้น แปลว่า ท่านกล่าวมารดาว่าเป็นกระท่อม ท่านกล่าว ภรรยาว่าเป็นรัง ท่านกล่าวบุตรว่าเป็นเครื่องสืบต่อ ท่านกล่าวตัณหาว่าเป็น เครื่องผูกแก่เรา. เทวดาฟังพระดำรัสนั้นแล้วยินดีชื่นชมอนุโมทนาด้วยคาถาว่า สาหุ เต เป็นต้น แปลว่า ดีจริง กระท่อมของท่านไม่มี ดีจริง รังของท่านไม่มี ดีจริง เครื่องสืบต่อของท่านไม่มี ดีจริง ท่านเป็นผู้พ้นแล้วจากเครื่องผูก ดังนี้ ร่าเริงยินดีแล้วบูชาพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยของหอมและดอกไม้ทั้งหลายแล้วไป สู่เทวสถาน ดังนี้แล.
จบอรรถกถากุฏิกาสูตร ที่ ๙


ความคิดเห็น 2    โดย suwit02  วันที่ 28 พ.ค. 2552

สาธุ


ความคิดเห็น 3    โดย เมตตา  วันที่ 31 พ.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย สิริพรรณ  วันที่ 20 ก.ย. 2560

กราบอนุโมทนาขอบพระคุณมากค่ะ