เมื่อแรกเกิด เราทุกคนต่างร้องไห้ เราร้องไห้เพราะอะไรคะ ในขณะนั้น ความจำได้หมายรู้เราก็คงยังไม่มี คงยังไม่รู้นี้ทุกข์ นี้เศร้า แล้วเรารู้สึกอย่างไร ทำไมเราจึงร้องไห้ ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาบุญค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ทุกสิ่งไม่พ้นจากสภาพธรรมที่มีจริงที่เกิดขึ้นและดับไป คือ จิต เจตสิก รูป การร้องไห้ก็เช่นกัน ไม่ใช่เรา หรือ คนอื่นที่ร้องไห้ แต่เป็นการทำหน้าที่ของสภาพธรรมที่ไม่ใช่เรา คือ จิต เจตสิก ปรุงแต่งให้เกิด รูป ที่ออกมาเป็นการร้องไห้ เพราะฉะนั้น ถ้าไม่มี จิต เจตสิก ก็จะไม่มีการร้องไห้เลย ซึ่งการร้องไห้ ด้วยความเศร้า ทุกข์เกิดขึ้น เพราะอาศัยจิต และ เจตสิกที่เป็น อกุศลเจตสิก คือ โทสเจตสิกเกิดขึ้น ในขณะนั้น ทำให้เกิดความทุกข์ทางใจ และมีการร้องไห้เกิดขึ้นนั่นเองครับ
การศึกษาพระธรรม ก็เพื่อเข้าใจความจริงที่เกิดขึ้น ไม่ใช่การบังคับไม่ให้ทุกข์ ไม่ให้ร้องไห้ แต่เข้าใจถูกตามความเป็นจริงว่าเป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา อันจะเป็นหนทางการละกิเลส ละความทุกข์ได้อย่างแท้จริง ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เป็นการแสดงถึงสภาพธรรมที่มีจริงๆ ขณะที่ร้องไห้ เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย จิตที่เป็นปัจจัยให้เกิด จิตตชรูป ร้องไห้ คือ โทสมูลจิต (จิตที่มีโทสะเป็นมูล) ๒ ดวง ดังนั้นจิตขณะที่ร้องไห้เสียใจ เป็นไปด้วยอำนาจแห่งโทสะ เป็นสภาพธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย เพราะยังดับไม่ได้ จึงเกิดขึ้นเป็นไป ซึ่งเป็นความจริงที่ว่าตราบใดก็ตามที่ยังไม่สามารถดับกิเลสได้ เมื่อได้เหตปัจจัย กิเลสนั้นๆ ก็เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ เป็นธรรมที่มีจริง ไม่ใช่เรา ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
เป็นธรรมดาที่ปุถุชนส่วนใหญ่แรกเกิดจะร้องไห้ เพราะยังมีกิเลส ตอนที่พระพุทธเจ้าประสูติ ท่านไม่ร้องไห้ ท่านพูดว่า ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย ค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
สาธุ
[เล่มที่ 75] พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๑ หน้า 204
กล่าวว่า...ธรรมเหล่าใดย่อมยังสัตว์ทั้งหลายให้ร้องไห้ เพราะเหตุนั้นธรรมเหล่านั้นชื่อว่ารณะคำว่ารณธรรมเป็นชื่อของกิเลสมีราคะเป็นต้น สัตว์ทั้งหลายถูกกิเลสครอบงำแล้วย่อมค่ำครวญโดยประการต่างๆ ..ในเรื่องพระวัชชิตเถระกล่าวว่าตอนท่านเกิดร้องไห้ เพราะทนการถูกต้องของมาตุคามไม่ได้
[เล่มที่ 76] พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๒
ว่าด้วยนิทเทสสรณทุกะ (ที่ ๑๘)
พึงทราบวินิจฉัยในนิทเทสสรณทุกกะ ต่อไป
บรรดาอกุศลมูล ๓ อกุศลมูล คือโมหะนี้ใด โมหะนั้นสัมปยุตด้วยโลภะ พึงทราบว่า เป็นสรณะ (เกิดพร้อมกับกิเลสเป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้) โดยโลภะ โมหะที่สัมปยุตด้วยโทสะ เป็นสรณะโดยโทสะ แต่โมหะที่สัมปยุตด้วยวิจิกิจฉาและอุทธัจจะ เป็นสรณะโดยเป็นกิเลสที่ตั้งอยู่ในฐานเดียวกันกับการประหาณโดยกิเลสเป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้คือราคะอันสัมปยุตด้วยทิฏฐิ และกิเลสคือรูปราคะอรูปราคะ ดังนี้
จากข้อความข้างต้น..พระอนาคามีมีอรูปราคะแต่ไม่มีโทสะคังนั้นพระอนาคามี..ไม่ร้องไห้ใชไหมคะ..
ขออนุโมทนา
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
ตอนแรกเกิด เหมือนยังไม่ประสีประสา
แต่ความจริง ก็ มีจิต เจตสิก รูป ที่ต่างทำหน้าที
และเมื่อยังมีกิเลสจึงต้องมาเกิด
เป็นหัวข้อที่ควรศึกษาอย่างละเอียด
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนากับผู้ถามและท่านวิทยากรที่ชี้แจงค่ะ
ขออนุโมทนาครับ