จะขอถามสมาชิกหน่อยคะ เมื่อ16 ปีที่แล้ว เรียนอยู่แล้วเกิดท้องแล้วได้ไปทำแท้ง เมื่อไม่นานมีโอกาสไปดูหมอมา เค้าบอกว่าเจ้ากรรมนายเวรตามอาฆาต เราต้องไปบวชชีแล้วก้อได้ไปบวชเป็นเวลา 9 วัน มาอีกที่เค้าบอกว่ายังตัดกรรมไม่ขาดเราต้องถวายจีวรพระ และเป็นเจ้าภาพกฐิน เป็นจำนวนเงิน 3552 บาท ดิฉันก้องงว่า มันไม่หมดอีกหรือ
ทำอย่างไร ถึงจะขาดจากเจ้ากรรมนายเวร กลุ้มใจมาก ทุกข์ใจมาตลอด 16 ปี ไม่รู้จะ
ทำอย่างไร ช่วยบอกหน่อยค่ะ จะเป็นพระคุณมากเลย
สิ่งที่ผ่านไปแล้วก็ผ่านไปแล้ว ไม่มีใครจะนำกลับมาแก้ไขอะไรใหม่ไม่ได้เลยอนาคตก็ยังมาไม่ถึง ไม่มีใครทำอะไรกับมันได้ แต่ปัจจุบันสำคัญที่สุดเพราะเราเป็นผู้เลือกที่จะทำสิ่งที่นำความสุขมาให้ในอนาคต หรือ เลือกที่จะทำให้เกิดความทุกข์
ความทรมานในอนาคต ดังนั้น สิ่งที่ควรทำอันจะนำความสุขความเจริญมาให้ก็คือ
ความดีหรือบุญกุศลนั่นเอง ความดีแม้เล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่ควรที่จะละเว้นเลย มีโอกาส
ควรทำทันทีทั้งทาน ศีล และภาวนา เพราะนั่นคือสมบัติของเรา และความดีที่น่าทำ
และง่ายที่สุดก็คือ การฟังพระธรรม การฟังพระธรรมจะทำให้เราค่อยๆ เริ่มเข้าใจความจริงมากยิ่งขึ้น จะทำให้เราแก้ปัญหาต่างๆ ในชีวิตได้ดี ความกลุ้มใจ ความ
ทุกข์ใจและปัญหาอื่นๆ จะค่อยๆ หมดไปได้ ถ้าเข้าใจธัมมะตามความเป็นจริง..
"..สิ่งที่ผ่านไปแล้วก็ผ่านไปแล้ว ไม่มีใครจะนำกลับมาแก้ไขอะไรใหม่ไม่ได้เลย อนาคตก็ยังมาไม่ถึง ไม่มีใครทำอะไรกับมันได้ แต่ปัจจุบันสำคัญที่สุดเพราะ เราเป็นผู้เลือกที่จะทำสิ่งที่นำความสุขมาให้ในอนาคต... " ขออนุโมทนาครับ อยู่กับปัจจุบันนะครับ มีเมตตาต่อทุกคน หมั่นฟังพระธรรมเพื่อเข้าใจความจริงของชีวิตครับ สิ่งที่ผ่านไปแล้วก็ผ่านไปแล้วครับ อยู่กับปัจจุบันขณะนะครับ
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ -
(หน้าที่ 346)
" มนุษย์เป็นอันมาก ถูกภัยคุกคามแล้ว
ย่อมถึงภูเขา ป่า อาราม และรุกขเจดีย์ว่าเป็นที่พึ่ง;
สรณะนั่นแลไม่เกษม, สรณะนั่นไม่อุดม,
เพราะบุคคลอาศัยสรณะนั่น ย่อมไม่พ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้.
ส่วนบุคคลใดถึงพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ว่าเป็นที่พึ่ง
ย่อมเห็นอริยสัจ ๔ (คือ) ทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ ความก้าวล่วงทุกข์
และมรรคมีองค์ ๘ อันประเสริฐ ซึ่งยังสัตว์ให้ถึง
ความสงบแห่งทุกข์ ด้วยปัญญาชอบ;
สรณะนั่นแลของบุคคลนั้นเกษม, สรณะนั่นอุดม,
เพราะบุคคลอาศัยสรณะนั่น ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้. "
..............................................................................
อย่าปล่อยให้ วันวาน ที่ผ่านพ้น
ทำให้เรา ทุกข์ทน จนหม่นไหม้
มัวครุ่นคิด อาจทำผิด ซ้ำลงไป
ยิ่งเพิ่มวัน เสียใจ ไปอีกวัน
เจ้ากรรมนายเวรไม่มี มีแต่เรามีกรรมเป็นของๆ ตน ทำดีหรือทำชั่วก็เป็นผู้รับผลแห่ง
กรรมนั้น ฯลฯ ไม่มีใครช่วยเราได้นอกจากเราจะอบรมปัญญาและมีธรรมเป็นที่พึ่ง เพราะ
สิ่งอื่นเป็นที่พี่งชั่วคราวไม่แน่นอน แต่ในโลกนี้ที่พึ่งที่ประเสริฐที่สุดคือพระรัตนตรัยค่ะ
สิ่งที่ผ่านไปแล้ว...ก็ผ่านไปแล้วสิ่งที่ยังมาไม่ถึง...ก็ยังมาไม่ถึง
แต่ว่า....
.
.
.
ตั้งต้นใหม่...ด้วยกุศล.
ดีกว่าไหมคะ.?
อ้างอิงถึงข้อความที่คุณ party กล่าวว่า...
เค้าบอกว่ายังตัดกรรมไม่ขาดเราต้องถวายจีวรพระ และเป็นเจ้าภาพกฐิน เป็นจำนวน
เงิน 3552 บาท ดิฉันก้องงว่า มันไม่หมดอีกหรือ ทำอย่างไร ถึงจะขาดจากเจ้ากรรม
นายเวร กลุ้มใจมาก ทุกข์ใจมาตลอด 16 ปี ไม่รู้จะทำอย่างไร
กรณี ยังตัดกรรมไม่ขาด ยังไงชีวิตทุกภพทุกชาติก็ไม่ขาดจากกรรมค่ะ และเป็น
เรื่องการไม่เข้าใจเรื่องกรรมอย่างถูกต้อง ชีวิตทุกขณะเวลานี้ เป็นผลของกรรม และมี
การสะสมเพิ่มพูนกรรมในฝ่ายต่างๆ อยู่ด้วย ทั้งที่เป็นกุศลและอกุศล อีกเรื่องที่ควรต้อง
ทำความเข้าใจคือ เรื่องเจ้ากรรมนายเวร ไม่มีค่ะ เหล่าสัตว์ล้วนมีกรรมเป็นของๆ ตน
ควรเอาเวลาที่ทุกข์ใจกังวลถึงเรื่องที่ได้กระทำแล้ว ผ่านไปนานแล้วนั้น มาศึกษา
พระธรรม เจริญกุศลตามสมควรแก่โอกาสดีกว่าค่ะ ความทุกข์ใจเป็นสภาพจิตที่เป็น
อกุศล เดือดร้อน ฉะนั้น ยิ่งกังวลยิ่งทุกข์ยิ่งสะสมอกุศลจิต เพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว
กรณี เราต้องถวายจีวรพระ และเป็นเจ้าภาพกฐิน เป็นจำนวนเงิน 3552 บาท การ
ให้ หากให้โดยเข้าใจว่าเป็นการสละ เพื่อละความตระหนี่ หรือมีการให้ด้วยระลึกถึงคุณ
ของพระรัตนตรัย ก็ให้ได้เลยค่ะ แต่คุณparty ไม่ควรจำใจทำเพราะกลัวเรื่องเจ้ากรรม
นายเวร หรือทำไปเพราะความเข้าใจผิดเรื่องยังตัดกรรมไม่ขาดนะคะ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ
ขอบคุณทุกๆ ท่านเลยนะคะ จะจำคำนำแนะที่ให้ไปใช้คะ เป็นอย่างนี้แล้วก้อสบายใจขึ้น
คะ มีกำลังใจขึ้นมาอีกเยอะเลย
จริงๆ คนส่วนใหญ่เป็นทุกข์เพราะความคิด เรื่องบางเรื่องถ้าเราไม่นึกถึงมัน เราก็ไม่
เป็นทุกข์ แต่มันก็เป็นธรรมดาครับ เรื่องไหนที่เราทำไปแล้วรู้สึกผิด เราก็ต้องคิดเป็น
ธรรมดา เมื่อคิดแล้วก็พยายามหมั่นระลึกเสมอว่า ตัวเองกำลังฟุ้งซ่านแล้วนะ หรือไม่ก็
พยายามระลึกในกุศลใดที่เราทำบ่อยๆ เช่น การฟังธรรม การบริจาค หรือการที่คุณเคย
บริจาคจีวร เป็นเจ้าภาพทอดกฐิน เป็นต้น
บางที มันอาจจะเป็นอุบายของคนสมัยก่อนก็ได้นะครับ การทำบุญใหญ่อย่างเป็น
เจ้าภาพทอดกฐิน การเข้าวัดปฏิบัติธรรม หรือการได้บวชลูกชาย ก็เพื่อเป็นปัจจัยให้เรา
ระลึกในกุศล แทนที่จะนึกถึงแต่อกุศลที่เราคุ้นเคย ถ้าเราไม่เคยทำบุญมาเลย เราก็ไม่มี
อะไรให้นึกถึง แม้กระทั่งกรณีที่เราไปกราบสังเวชณียสถานที่อินเดีย สำหรับใครที่มี
โอกาสได้ไป ก็คงจะพอนึกถึงความรู้สึก ถึงปีติ หรือความโสมนัสนั้นได้ เพราะได้ระลึก
ถึง พระปัญญาคุณ พระมหากรุณาคุณ และพระปริสุทธิคุณ ที่ได้มีต่อชาวโลก ที่เรียก
ว่าบุญใหญ่ก็เพราะ กุศลอะไรก็ตามที่เราทำไปแล้ว ปีติมันแรง จิตก็จดจำได้ง่าย โดย
ไม่ได้ใช้ความพยามยามมากนัก หรือ จะเรียกได้ว่า มหากุศลจิต
สมัยพุทธกาล องคุลีมาล เคยฆ่าคนไปตั้ง ๙๙๙ คน ท่านยังบรรลุธรรมได้ เราแค่
คนเดียวเอง คิดอย่างนี้เอาตัวรอดไปก่อนนะครับ
อนุโมทนากับในกุศลจิตกับทุกท่านครับ
เริ่มต้นใหม่ขอเป็นกำลังใจให้ฟังพระธรรมนั่นคือคำตอบของชีวิตปุถุชนอย่างพวกเรา
ขอบคุณทุกๆ ท่านเลยนะคะ จะจำคำนำแนะที่ให้ไปใช้คะ เป็นอย่างนี้แล้วก้อสบายใจขึ้นคะ มีกำลังใจขึ้นมาอีกเยอะเลย
การศึกษาพระธรรมย่อมเกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง นำมาซึ่งความเห็นถูก สัตว์ทั้งหลายมี
กรรมเป็นของๆ ตน ไม่มีใครทำใครได้ เมื่อเกิดมาก็เพระกรรมของตน ไม่มีใครทำให้เรา
เกิด เมื่อกระทบสิ่งที่ดี ไม่ดีก็เพราะกรรมที่นเคยทำไว้ โดยตามความเป็นจริงแล้วก็เป็น
เพียงสภาพธรรมที่เป็น จิต เจตสิก ที่เกิดขึ้นทำหน้าที่เป็นวิบาก เป็นผลของกรรม แต่ก็
สมมติกันว่าเป็นคนนั้น คนนี้ให้แต่เป็นธรรมเท่านั้นที่ทำหน้าที่ เหตุเกิดจากกรรมที่ตน
ทำไว้ ผลก็ย่อมเกิดขึ้น ไม่มีใครทำให้เลยครับ ขออนุโมทนาด้วยครับที่มีความเข้าใจขึ้น
สบายใจเพราะเข้าใจ ขออนุโมทนา
^
^
^
สบายใจ เพราะ เข้าใจ
.....................สาธุ.....................
เข้าใจว่า สบายใจ แต่ ไม่เข้าใจในพระธรรมด้วยความเห็นถูก
ยังไม่ใช่ความสบายใจที่แท้จริง...ใช่ไหมคะ.?
อ้างอิงความคิดเห็นที่ 1 (02535 กระทู้ฯ2549) โดย study
"ตามหลักคำสอนของพระพุทธองค์ทรงแสดงว่า สัตว์ทั้งหลายมีการเวียนว่ายตายเกิดมานับภพชาติไม่ถ้วน บางชาติถูกฆ่า บางชาติฆ่าสัตว์อื่น บางชาติทั้งฆ่าสัตว์อื่นและถูกเขาฆ่าด้วยทั้งหมดคือ ความเป็นไปของ กิเลส กรรม วิบาก เพราะมีกิเลสจึงมีการกระทำกรรม เพราะมีการกระทำกรรมจึงมีวิบาก ขณะที่ฆ่าสัตว์อื่นเป็นกิเลสที่มีกำลังเป็นอกุศลกรรม ขณะที่ถูกทำร้ายถูกฆ่าเป็นวิบาก คือ ว่าโดยปรมัตถธรรมแล้ว ไม่มีสัตว์ไม่มีบุคคล การฆ่าเป็นเจตนาไม่มีคน ไม่มีสัตว์ การได้เสวยทุกขเวทนา การตาย (จุติจิต) เป็นวิบาก เพราะฉะนั้นผู้มีปัญญารู้แจ้งความจริงอย่างนี้แล้วย่อมไม่กระทำการฆ่า เพราะทั้งรูปและนามย่อมเป็นไปตามปัจจัย"
เจ้ากรรมนายเวร เกิดเป็นคนหรือสัตว์ อยู่คนละซีกโลกหรือคนละภพชาติกัน
แล้วจำอะไรไม่ได้ เหมือนเราจำชาติก่อนไม่ได้นั่นแหละ หรือ เสวยผลบุญอันเป็นสุข
หรือ รับผลกรรมในนรก ....เค้าจะมาตามเราได้เหรอ.... มีแต่ กรรม ที่เราได้ทำไปแล้ว
เท่านั้นที่ให้ผล... เพราะฉะนั้น ทำดีไว้ อย่าประมาท ....ขอเป็นกำลังใจให้เริ่มต้นชีวิต
ใหม่ครับ