มีชีวิตอยู่ไปวันๆ โดยที่ไม่รู้ความจริงของสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ...
จิตเห็นเกิดขึ้นแล้วดับไป... จิตได้ยินเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป... แต่ละขณะเกิดขึ้นและดับไป ไม่เหลืออะไรเลย ไม่กลับมาอีก ในแต่ละวันเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส กระทบสัมผัส และก็คิดนึก ไม่เคยรู้ความจริง จะมีชีวิตอยู่เพื่ออะไรกันในแต่ละภพชาติ เกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิดโดยไม่รู้ความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏ เพียงปรากฏให้ได้เห็น เพียงปรากฏให้ได้ยิน...แล้วดับไปหมด ทุกอย่างเกิดขึ้นแล้วตามเหต ปัจจัย อยู่มาแล้วนานแสนนานในสังสารวัฏฏ์ก็ไม่รู้ความจริง จึงต้องเกิดขึ้นมาเห็นอีก ได้ยินอีก..ไม่มีวันสิ้นสุด ชีวิตที่ประเสริฐคือ มีชีวิตอยู่เพื่อความรู้สิ่งที่มีจริงที่กำลัง ปรากฏ ความเห็นถูกเข้าใจถูกในสภาพธรรมตามความเป็นจริง
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
เมื่อถึงวันนั้นแล้ว ....วันที่พบกับ อริยสัจจธรรม หรือ พบกับความจริงที่กำลังปรากฏ หรือ พบกับความเห็นถูกในสภาพความเป็นจริง ...สิ่งหนึ่งสิ่งใดเหล่านี้ ก็ตาม
จะพบกับความสิ่งที่ล้ำค่าที่สุด ที่หาสิ่งหนึ่งสิ่งใดทดแทนไม่ได้เลย ....แล้วหนทางที่ยาวไกลที่เราอดทนเดินผ่านมาแสนไกลจนนับเวลาไม่ถ้วนนั้น ก็ยากที่เราจะเดินกลับไปสู่จุดเดิมได้อีกแล้ว
และพร้อมก้าวไปสู่ พระนิพพาน ในภายภาคเบื้องหน้าต่อไป
ขออนุโมทนา ดวงจิตผู้ใกล้พระธรรม
อยู่กับคูถ.....แต่ไม่เคยรู้เลยว่าเป็นคูถ
พระธรรมจึงเปรียบเสมือนแสงประทีป
ที่ส่องให้เห็นเป้าหมายที่แท้จริงของ....การมีชีวิตอยู่
เพื่อ......รู้ความจริงค่ะ
อนุโมทนาค่ะ
การมีชีวิตที่ประเสริฐ คือ มีชีวิตอยู่เพื่อความรู้สิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ
เชิญคลิกอ่านได้ที่...
สิ่งที่มีค่าเหนือสิ่งอื่นใด ก็คือปัญญา
วิปัสสนาญาณ 16 ในหนังสือปรมัตถธรรมสังเขป
จึงควรอยู่ไปวันๆ ด้วยการรู้ความจริง ด้วยการศึกษาธรรมะที่พระพุทธองค์ ได้ทรงตรัสรู้และทรงมีพระมหากรุณาคุณแสดงธรรม ๔๕ พรรษาเพื่ออนุเคราะห์บุคคลในสมัยนี้ซึ่งปัญญาน้อยให้เข้าใจได้ครับ
ขออนุโมทนา
เมื่อก่อนที่จะได้ศึกษาธรรม
ก็เคยคิดอยู่บ่อยครั้งว่า (เรา) มีชีวิตอยู่เพื่ออะไร
แต่ขณะนี้ มีคำตอบแล้วครับ
ชีวิตที่ยังมีอยู่ ในทุกๆ ขณะต่อๆ ไปนี้
ควรเป็นไปเพื่อการบำเพ็ญกุศลทุกประการที่จะสามารถทำได้
และ อบรมเจริญปัญญา ด้วยการฟังและพิจารณาธรรมที่ได้ยินได้ฟังนั้น
บ่อยๆ เนืองๆ ครับ
ในกาลบางครั้งบางคราว
การที่พระตถาคตเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลก ๑
การได้กำเนิดเป็นมนุษย์ ๑
การแสดงสัทธรรม ๑
ที่จะพร้อมกันเข้าได้ หาได้ยากในโลก
ชนผู้ใคร่ประโยชน์ จึงควรพยายามในกาลดังกล่าวมานั้น ที่ตนพอจะรู้จะเข้าใจสัทธรรมได้
[เล่มที่ 37] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ ๔๕๔
ขออนุโมทนาในกุศลศรัทธาของทุกๆ ท่านครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
มีชีวิต
เพื่อเข้าใจชีวิต (สติปัฏฐาน)
จะเป็นผู้ไม่เสียชาติเกิด
ขออนุโมทนาครับ
ผมคิดเหมือนคุณเมตตา แต่อธิบายออกมาไม่ถูกครับขออนุโมทนาครับ