การผูกโกรธ หมายถึง การจดจำเรื่องราวที่คนอื่นทำให้ไม่พอใจ เมื่อคิดถึงสิ่งที่เขาเคยทำไม่ดีไว้กับเรา ก็เกิดโทสะ ถ้าไม่คิดถึงก็ไม่มีโทสะ แบบนี้ถือว่าเป็นการผูกโกรธใช่หรือ ไม่และสงสัยเรื่องความอาฆาต พยาบาท ถ้าคนที่มีความอาฆาตพยาบาท จำเป็นต้องทำร้ายคนอื่นหรือไม่ หรือว่าแค่จดจำไว้ในใจแต่ไม่ได้คิดทำร้ายใคร แต่ถ้ามีเหตุปัจจัยพร้อม ก็จะแสดงออกทางวาจา เช่น การตำหนิติเตียนว่ากล่าวด้วยความไม่พอใจ ช่วยกรุณาอธิบายด้วยค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
การผูกโกรธ ความอาฆาต พยาบาท โดยสภาพธรรมหมายถึง โทสเจตสิก ที่เกิดร่วมกับโทสมูลจิต เมื่อความโกรธเกิดขึ้นเกี่ยวกับบุคคลใดแล้ว ความโกรธที่เกี่ยวกับบุคคลนั้นเกิดอีกบ่อยๆ ไม่ลืม ไม่หายโกรธ ลักษณะนี้เรียกว่าความผูกโกรธ ส่วนคนที่มีความอาฆาตพยาบาทก็มีหลายระดับขั้น ถ้ามีกำลังมากก็ล่วงออกมาทางกาย ทางวาจาทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนก็มี หรือเพียงกลุ้มรุมอยู่ในใจก็มีครับ
พยาบาทที่เป็นมโนกรรม ได้แก่เจตนาที่เป็นไปกับความโกรธที่แรงกล้า จนคิดมุ่งให้คนอื่นพินาศ เป็นมโนกรรมบถ ถ้าจิตโกรธไม่ชอบเกิดขี้น เป็นโทสมูลจิต เป็นอกุศลจิตไม่ใช่มโนกรรมบถ ถ้าจิตโกรธไม่ชอบนั้นรุนแรงมาก จนคิดมุ่งให้คนอื่นพินาศในขณะใด เจตนาในโทสมูลจิตนั้นเป็นมโนกรรมบถ
ว่าโดยอาการ 5 ของพยาบาทคือ
1.โดยมูล พยาบาทเกิดขี้นเพราะโทสะและโมหะเป็นมูล
2.โดยกรรม เป็นมโนกรรมเพราะเจตนานั้นเป็นไปกับความโกรธ ที่แรงกล้าจนคิดมุ่งร้ายให้ผู้อื่นพินาศ
3.โดยทวาร เป็นไปได้ทั้ง 3 ทวาร คือ มโนทวาร วจีทวาร กายทวาร ทางมโนทวาร
เช่น ขณะที่ความโกรธแรงกล้าจนคิดมุ่งให้คนอื่นพินาศด้วยทุจริตกรรมต่างๆ ทางวจีทวาร เมื่อจิตคิดให้ผู้อื่นพินาศด้วยความพยาบาท ก็ใช้ หรือสั่งให้ผู้อื่นทำความพินาศแก่คนที่ตนโกรธนั้น
ทางกายทวาร เมื่อจิตคิดมุ่งให้ผู้อื่นพินาศด้วยความพยาบาท ก็กระทำทุจริตต่างๆ หรือด้วยกายของตนเพื่อให้ผู้อื่นพินาศ เจตนาพูดหรือกระทำให้ผู้อื่นพินาศด้วยจิตพยาบาท เป็นมโนกรรมบถ ไม่ใช่กายกรรมและวจีกรรมเพราะเกิดกับจิตที่พยาบาท เมื่อคำพูดหรือการกระทำนั้น เกิดแต่จิตที่พยาบาทความพยาบาทนั้น ก็เป็นประธานของการกระทำนั้น เมื่อความพยาบาท เป็นประธานเจตนาที่เกิดร่วมกับโทสมูลจิตที่พยาบาทนั้น ก็เป็นมโนกรรมบถ
ถ้าเป็นกายกรรม คือ ทำด้วยกายหรือวจีกรรมนั้นก็เป็นประธาน ไม่ใช่พยาบาทเป็นประธาน เช่น การฆ่ายุง ฆ่ามด เป็นกายกรรมเพราะเจตนาที่ทำด้วยกายเป็นประธาน การต่อสู้ป้องกันตัวนั้น ทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บหรือตายนั้นเป็นกายกรรม ไม่ใช่เป็นมโนกรรมเพราะเจตนาทำด้วยกายเป็นประธาน ไม่ใช่พยาบาทเป็นประธาน
โดยองค์ พยาบาทมีองค์2 คือ
1.มีสัตว์อื่นที่ตนคิดให้พินาศ
2.คิดให้สัตว์นั้นพินาศเมื่อครบ 2 องค์ เป็นกรรมบถ สามารถให้ผลนำเกิดในอบายภูมิ ถ้าไม่ครบองค์ไม่เป็นกรรมบถ ให้ผลในปวัตติกาล.
(จากอภิธรรมมัตถสังคหะ โดย อ.สมพร ศรีวราทิตย์)
ความผูกโกรธจะหมดได้ เมื่อเป็นพระอนาคามีใช่หรือไม่
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
อ้างอิงจาก : หัวข้อ 13862 ความคิดเห็นที่ 3 โดย oom
ความผูกโกรธจะหมดได้ เมื่อเป็นพระอนาคามีใช่หรือไม่
ถูกต้องครับ ความโกรธจะดับได้จนหมดไม่เหลือ เมื่ออนาคามิมรรคเกิดขึ้น แต่ความผูกโกรธส่วนหยาบมากๆ พระโสดาบัน พระสกทาคามี ย่อมละได้ครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ช่วยกรุณายกตัวอย่างความผูกโกรธส่วนหยาบมากๆ ที่พระโสดาบันและพระสกทาคามี
ละได้ด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ
ความผูกโกรธส่วนหยาบมากๆ ย่อมมีในปุถุชนทั้งหลาย เช่น ความผูกโกรธโดยคิดจะแก้แค้นให้ได้ ต้องฆ่าให้ตาย หรือตามตัวอย่าง เมียหลวง กับเมียน้อย ที่ปรากฏในอรรถกถา คือ เขาผูกโกรธ อาฆาตว่าชาตินี้เขาฆ่าเราและลูก ชาติหน้าจะขอฆ่าเขาบ้าง เป็นต้น ซึ่งความผูกโกรธอย่างนี้หยาบมาก พระอริยทั้งหลายท่านดับได้แล้วครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ