[เล่มที่ 34] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้า 203
ปฐมปัณณาสก์
จูฬวรรคที่ ๕
๖. ศีลสูตร
ว่าด้วยผู้เป็นบ่อเกิดของบุญ
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 34]
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้า 203
๖. ศีลสูตร
ว่าด้วยผู้เป็นบ่อเกิดของบุญ
[๔๘๕] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บรรพชิตผู้มีศีล เข้าอาศัยหมู่บ้านหรือตำบลใดอยู่ คนโนหมู่บ้านหรือตำบลนั้น ย่อมได้บุญมากด้วยสถาน ๓ สถาน ๓ คืออะไร คือ ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ บรรพชิตผู้มีศีล เข้าอาศัยหมู่บ้านหรือตำบลใดอยู่ คนในหมู่บ้านหรือตำบลนั้น ย่อมได้บุญมากด้วยสถาน ๓ นี้แล.
จบศีลสูตรที่ ๖
อรรถกถาศีลสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในศีลสูตรที่ ๖ ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า ตีหิ าเนหิ ความว่า ด้วยเหตุ ๓ อย่าง. ในบทว่า กาเยน เป็นต้น มีอธิบายว่า คนทั้งหลายเห็นภิกษุทั้งหลายเดินมา จะทำการต้อนรับ เมื่อไปก็ตามส่ง กระทำการนวดและชโลม (ด้วยน้ำมัน) เป็นต้น ปูอาสนะไว้บนอาสนศาลา ตั้งน้ำดื่มไว้ ชื่อว่า ย่อมได้บุญด้วยกาย.
คนทั้งหลายเห็นภิกษุสงฆ์กำลังเดินบิณฑบาต เมื่อกล่าวคำเป็นต้นว่า ท่านทั้งหลายจงถวายข้าวยาคู ข้าวสวย เนยใสและเนยข้นเป็นต้น จงบูชาด้วยของหอมและดอกไม้เป็นต้น จงรักษาอุโบสถ จงฟังธรรม และจงไหว้พระเจดีย์เถิด ดังนี้ ชื่อว่า ได้บุญด้วยวาจา.
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้า 204
คนทั้งหลายเห็นภิกษุทั้งหลายกำลังเที่ยวบิณฑบาต เมื่อคิดว่า ขอให้ชาวบ้านจงถวายทานเถิด ดังนี้ ชื่อว่า ได้บุญด้วยใจ.
บทว่า ปสวนฺติ แปลว่า ได้เฉพาะ. ก็ในพระสูตรนี้ พระองค์ตรัสบุญที่เจือด้วยโลกิยะและโลกุตระ.
จบอรรถกถาศีลสูตรที่ ๖