ทรงแสดงให้เข้าใจถูกต้อง ตามความเป็นจริงอย่างนั้น เช่น เห็นกับได้ยินมี เดี๋ยวเห็น เดี๋ยวได้ยิน เราเลยจะไปจ้องที่เห็นบ้าง ได้ยินบ้าง ไม่ต้องไปจ้อง ดับหมดแล้ว เพียงแต่ว่าให้เข้าใจความจริง ในชีวิตประจำวัน ว่าเป็นธรรมอย่างไร เมื่อมีความเข้าใจขึ้น ขณะนั้นละความเป็นเรา หรือความต้องการที่จะทำ เพราะรู้ว่าทำไม่ได้ มีธรรมเกิดแล้ว เป็นไปแล้วตามเหตุตามปัจจัย สะสมความเข้าใจเพื่อละความเป็นตัวเรา และที่จะละความเป็นตัวเราได้ ก็คือ ละโลภะ ความติดข้อง ซึ่งเห็นยากมาก เพราะว่าอยากจะทำอยากจะรู้ " อยาก " ไม่ใช่ ปัญญา แล้วจะทำตามอยากหรือเปล่า หรือรู้ว่าแม้ขณะนั้น อยากก็มีจริงๆ เป็นธรรม จนกว่าจะรู้ว่าทั้งวันนี้ไม่มีอะไรที่ไม่ใช่ธรรม ที่เกิดดับเลย นี่คือ คำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องตรงตามความเป็นจริง ไม่มีเราทำ แต่ต้องค่อยๆ เข้าใจจากฟังแล้วไตร่ตรอง แล้วอบรมความเห็นถูก ความเข้าใจถูกไม่คลาดเคลื่อน
เป็นประโยชน์มากเลยครับ สำหรับการนำคำอธิบายบางตอนมาลงเป็นหัวข้อให้อ่าน ทำให้มีความเข้าใจธรรมมากยิ่งขึ้นครับ
ขออนุโมทนา
ถ้าไม่ศึกษาโดยละเอียดและไม่ปฏิบัติให้สอดคล้องกับการศึกษาพิจารณาธรรม ก็ไม่สามารถรู้แจ้งอริยสัจธรรมได้ต่ะ
สาธุ
ขออนุโมทนาครับ