พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้าที่ 26
กามโภคะอันควรแก่คฤหัสถ์เป็นอันมาก ยอมมีแก่พระราชกุมารผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน ในมรดกวิสัยนี้ ถ้าพระราชกุมารนี้ทรงละกาม โภคะทั้งปวง จะทรงได้อนุตตรธรรม อันเป็น ทรัพย์สูงสุด.
ธรรมที่ชื่อว่า อุตตระ เพราะย่อมข้ามพ้น คือ ย่อมละธรรมเหล่าอื่นไป.ที่ชื่อว่า สอุตตระ เพราะมีอุตตรธรรมอันสามารถเพื่ออันข้ามพ้นตนขึ้นไป. ที่ชื่อว่า อนุตตรธรรม เพราะอุตตรธรรมของธรรมเหล่านั้นไม่มี.
พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 626
[๙๘๖] สอุตตรธรรม เป็นไฉน ? กุศลในภูมิ ๓ อกุศล วิบากในภูมิ ๓ กิริยาอัพยากฤตในภูมิ ๓ และ รูปทั้งหมด สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า สอุตตรธรรม. อนุตตรธรรมอนุตตรธรรม เป็นไฉน ? มรรค ๔ ที่เป็นโลกุตระ สามัญผล ๔ และนิพพาน สภาวธรรม เหล่านี้ชื่อว่า อนุตตรธรรม.
ขอแบ่งปันนะครับ คือว่า มีกลุ่มหนึ่งซึ่งเผยแพร่ธรรมะ โดยใช้ชื่อว่าอนุตตรธรรมอ้างว่าได้รับโองการจากพระแม่องค์ธรรม หรือ อนุตตรธรรมมารดา ให้มาโปรดสามโลก คือ สวรรค์ มนุษย์ นรก ให้เวนัยสัตว์ได้พ้นจาก การเวียนวายตายเกิด และเมื่อตายก็จะนิพพาน โดยต้องได้รับธรรมะ เมื่อได้รับธรรมะแล้ว ชื่อในนรกจะถูกลบหมดและจะได้รับ 3 สิ่งวิเศษ คือ
1. มโนทวาร ประตูที่จิตวิญญาณเข้าและออกจากร่างกาย ประตูนี้จะถูกปิดลงเมื่อวิญญาณได้เข้าสู่ร่างกายแล้ว ผู้เป็นพระวิสุทธิอาจารย์เท่านั้น ที่สามารถเปิด "ประตู" นี้ได้ กลุ่มนี้ได้อ้างว่า พระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน ได้รับเปิดจุดญาณทวาร หรือมโนทวารที่ได้ตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
2. สัจจคาถา คือ คำ 5 คำ ที่สามารถคุ้มภัยจากภัยอันตรายได้และต้องไปพูดเพื่อเข้าสู่แดนนิพพาน
3. ลัญจกร ซึ่งกลุ่มนี้ได้อ้างว่า เป็นเครื่องหมายของตราประทับอันล้ำค่า ที่พระองค์ธรรมมารดาประทานให้เรา เพื่อเป็นหลักฐานว่า เราทั้งหลายเป็นผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดสัจจธรรมอันสูงส่งนี้ลัญจกร ของยุคสีเขียว เป็นสัญลักษณ์ของ "ใบบัว" ในเวลานั้น ผู้บำเพ็ญธรรม จะสวดภาวนาโดยใช้มือซ้ายข้างเดียวยกขึ้นไว้ที่กลางหน้าอก ใบบัวสีเขียวแสดงถึง "เวลาแห่งความรุ่งเรืองพุทธะจิต" ในช่วยเวลาของยุคสีแดง ผู้บำเพ็ญธรรมจะสวดภาวนาโดยการพนมมือทั้งสองข้างขึ้นไว้ ระหว่างหน้าอกและก้มกราบลงโดยการแบมือออก เป็นเสมือน "ดอกบัวที่เบ่งบาน" ถือเป็นเครื่องหมายตราประทับของยุคดอกบัวสีแดง ดอกบัวแสดงถึง "ความเบ่งบานของพุทธะจิต"ลัญจกร ของยุคสีขาว เป็นเครื่องหมายของ "รากบัวสีขาว" ผู้บำเพ็ญจึงภาวนากราบไหว้ โดยการใช้มือซ้ายโอบมือขาวและอุ้มไว้ที่หน้าอก ซึ่งแสดงถึง "เวลาแห่งการเก็บเกี่ยวพุทธะจิต"
สำหรับผมแล้ว ผมได้ไปสัมผัสการสอนของกลุ่มนี้ ได้พิจารณาแล้วเป็นการนำคำสอนของแต่ละศาสนามารวมกัน ซึ่งเน้นในนิกายมหายานมากกว่าและมีการให้สิ่งศักสิทธิ์ เช่น พระพุทธเจ้า เจ้าแม่กวนอิม พระโพธิสัตว์องค์อื่นๆ เจ้ากรรมนายเวร พระพุทธจี้กง พระศรีอาริยเมตตรัย มาให้โอวาทโดยใช้หญิงบริสุทธิ์เป็นร่างทรง เป็นการสอนที่ผิดไปอย่างมากๆ ที่เห็นได้ชัดก็คือ พระพุทธเจ้าทรงปรินิพพานไปแล้ว แล้วพระพุทธเจ้ามาประทับทรงได้อย่างไร............
วิทยากรช่วยชี้แนะด้วยครับ
โปรดศึกษาพระธรรมจากพระไตรปิฎกและอรรถกถาโดยตรงจะดีกว่า
คำสอนของพระผู้มีพระภาคเป็นไปเพื่อละทั้งหมดครับ ละทั้งหมดแม้ความไม่รู้ (คือให้เกิดปัญญา) ถ้าไม่เป็นไปเพื่อละ ย่อมไม่ใช่คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอย่างแน่นอน
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาค่ะ
แม่ของดิฉันก็ไปเข้านับถืออะไรคล้ายๆ นี้เหมือนกัน พยายามจะพาลูกหลานทุก
คนไปด้วย ดิฉันอธิบายค้านคำสอนที่แม่ไปฟังเขามา แม่ก็หาว่าดิฉันไม่รู้ความจริง
ไม่ได้ไปฟังเองไม่ได้ไปเรียนธรรมะแบบเขา ไม่เข้าใจหรอก โกรธอีกต่างหาก และ
เนื่องจากไม่ได้อยู่ด้วยกันอยู่กันคนละจังหวัด โอกาสที่จะค่อยๆ อธิบายให้แม่ได้เข้าใจ
ถูก เห็นถูก จึงน้อยเหลือเกิน
เมื่อก่อนเราก็เคยมีความคิดแบบนี้นะ ก็หาวิธีคิดหาคำตอบอยู่นานเหมือนกัน แต่ให้
ลองคิดดูว่า สิ่งที่เขาได้สอน ไม่ว่าจะสอนโดยวิธีรูปแบบเป็นแบบไหนใด แต่ลึกๆ แล้ว
เขาสอนให้เราเป็นคนดี โดยการละบาปบำเพ็ญบุญสร้างกุศลเพื่อให้ตัวเราหลุดพ้นมิใช่
หรือ อย่างไรตนก็เป็นที่พึ่งแห่งตนนั่นแล