มีข้อความว่า "ทุกขสัจจะเป็นของที่รู้ได้โดยง่าย" ใคร่ขอรบกวนขยายความ อธิบายเพิ่มเติม
ขอบพระคุณครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ทุกขสัจจะ เป็นของรู้ได้ง่าย อันนี้ เป็นการแสดง เปรียบเทียบการเรียงลำดับของอริยสัจ 4 ครับ โดย ทุกขสัจจะที่รู้ได้ง่าย มุ่งหมายถึง ทุกขสัจจะ ที่เป็นของหยาบ คือ ทุกข์ทางกาย ที่เห็นๆ กันอยู่ อันเป็นของทั่วไป กับ สัตว์ทั้งหลาย จึงแสดงว่า ทุกขสัจจะ เป็นของรู้ได้ง่าย โดยนัย ที่เป็นของหยาบ เช่นนี้ แต่ถ้า ทุกขสัจจะ โดยความเป็นสภาพธรรมที่เกิดดับ ก็อีกนัยหนึ่งครับ ก็รู้ได้ยาก เพราะฉะนั้น ก็ต้องพิจารณาว่า ทุกขสัจจะนั้น มุ่งหมายถึงอะไร โดยนัยไหน ครับ ขออนุโมทนา
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ และทรงแสดงนั้นเป็นความจริง เป็นสิ่งที่มีจริง ซึ่งพิสูจน์ได้ทุกขณะ ไม่ว่าจะได้เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส คิดนึก ขณะที่กุศลจิตเกิด อกุศลจิตเกิด ... ทั้งหมดเป็นธรรม เพราะเป็นสิ่งที่มีจริง ทรงไว้ซึ่งลักษณะเฉพาะของตนๆ ไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะ สิ่งที่มีจริงๆ ที่เกิดขึ้นเป็นไปนั้นเป็นทุกขสัจจ์ เป็นความจริงที่เกิดขึ้นแล้ว ตั้งอยู่ไม่ได้ จะต้องมีความดับไปเป็นธรรมดา เป็นสภาพธรรมที่มีจริงๆ ที่สามารถรู้ได้ในชีวิตประจำวัน แต่ต้องอาศัยพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง จึงจะมีความเข้าใจถูกเห็นถูกตามความเป็นจริงได้
สภาพธรรมที่มีปัจจัยปรุงแต่งให้เกิด จึงเกิดขึ้น (จิต เจตสิก รูป) เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป จึงไม่เที่ยง ไม่เที่ยงเพราะเกิดแล้วดับไป สภาพธรรมที่เกิดแล้วดับไปนั้นนั่นแหละ เป็นทุกข์ เป็นทุกข์เพราะเหตุว่าตั้งอยู่ไม่ได้ มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา ไม่ตั้งอยู่นาน เมื่อไม่เที่ยง เป็นทุกข์ จึงไม่ใช่ตัวตน คือ เป็นอนัตตา (เพราะไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร)
สิ่งที่มีจริงทั้งหมด เป็นสิ่งที่สามารถเข้าใจได้ จึงควรที่จะศึกษาเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง เพื่อมิให้เข้าใจผิดไปหลงยึดถือในสภาพธรรมที่กำลังปรากฏนั้น ว่า เป็นตัวตน สัตว์ บุคคล หรือ เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด ครับ …ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขออนุโมทนา
สาธุคะ
สาธุๆ ๆ คับ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ