คำว่า เรื่องบังเอิญ มีไหมในทางพุทธศาสนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ก่อนศึกษาพระธรรม ก็มีการพูดในคำต่างๆ มากมาย นับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่ได้เข้าใจในคำที่กล่าวถึง เพราะไม่ได้เข้าใจพระธรรมตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง แต่เมื่อเริ่มฟังเริ่มศึกษาพระธรรม ไตร่ตรองในเหตุในผลตามความเป็นจริงแล้ว จะเข้าใจได้ว่าไม่มีอะไรที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ ไม่มีเลยจริงๆ เพราะมีแต่ธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ทั้งนั้น และไม่ได้เน้นไปที่การได้รับผลของกรรมเท่านั้น เพราะถ้ากล่าวถึงสิ่งที่มีจริงๆ ที่เกิดขึ้นเป็นไป นั้น ล้วนเป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยทั้งหมด ดังนั้น จึงไม่มีบังเอิญเห็น ไม่มีบังเอิญได้ยิน ไม่มีบังเอิญเกิดเมตตา ไม่มีบังเอิญเกิดความเข้าใจ เป็นต้น เพราะมีแต่ธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยทั้งหมด เห็นเกิดเพราะเหตุปัจจัย ได้ยินเกิดเพราะเหตุปัจจัย เมตตา ความเป็นมิตรเป็นเพื่อน เกิดเพราะเหตุปัจจัย ความเข้าใจถูกเห็นถูก ก็เกิดเพราะเหตุปัจจัย เมื่อได้เข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว ก็จะไม่หวั่นไหวไปกับพูดต่างๆ ที่ไม่ตรงตามความเป็นจริง เพราะได้เข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว ซึ่งใครๆ ก็เปลี่ยนให้เป็นความไม่เข้าใจ ไม่ได้ ครับ
ข้อความบางตอนจากคำบรรยายของอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ มีดังนี้
มีท่านผู้ฟังบางท่าน มีความคิด มีความเชื่อในเหตุการณ์สิ่งแวดล้อมภายนอก กล่าวว่า มีเหตุการณ์จริงๆ ที่เกิดขึ้น เวลาที่โดยสารทางรถยนต์ มีการแลกเปลี่ยนที่นั่งกัน ทำให้คนที่แลกเปลี่ยนที่นั่งแล้วนั้น ไม่ได้รับอันตรายจากอุบัติเหตุนั้น คล้ายๆ กับว่าจะเป็นการบังเอิญที่ว่า ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนที่นั่งกัน ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุนั้น ซึ่งก็ทำให้บุคคลที่แลกเปลี่ยนที่นั่งแล้วนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บ
ถ้าท่านเป็นผู้ที่มั่นคงในเรื่องผลของกรรมจริงๆ ท่านจะทราบว่า ทุกท่านนี้สะสมมาแล้วทั้งนั้น ทั้งกุศลกรรม และอกุศลกรรม แล้วแต่ว่ากรรมใดพร้อมด้วยเหตุที่สมบูรณ์ด้วยปัจจัยที่สมบูรณ์ที่จะให้ผลเกิดขึ้น ผลก็เกิดขึ้น เพราะฉะนั้น ถ้าท่านเป็นผู้ที่มีความเข้าใจอย่างถูกต้องในเรื่องของเหตุผล ตามความเป็นจริง ท่านก็จะทราบว่า ผู้ที่รักษาตน ก็คือ ผู้ที่กระทำสุจริตกาย วาจาใจ แต่ผู้ที่ไม่รักษาตนถึงแม้ว่าคนอื่นจะปกป้องคุ้มครองรักษาสักเท่าไร เมื่อถึงคราวที่อกุศลกรรมจะให้ผล ก็ย่อมทำให้ท่านได้รับผลของอกุศลกรรมนั้น
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาสาธุด้วยคะ