ขึ้นชื่อว่าความโกรธผู้อื่นย่อมเหมือนดังจับถ่านเพลิงที่ปราศจากเปลวและจับเหล็กอันร้อน และคูถ เป็นต้น แล้วประหารผู้อื่น แม้ผู้อื่นโกรธเราแล้ว เขาจักทำอะไรเราได้ เขาจักอาจเพื่อยังคุณอันมีศีล เป็นต้น ของเราให้พินาศไปได้หรือ เรามาด้วยกรรมของเรา เราก็จักไปด้วยกรรมของเราเท่านั้น
ข้อสำคัญเวลาเราโกรธใครๆ จงรู้ไว้ว่าไม่มีเขา มีแต่กิเลสของเรา
หิริ คือความละอายต่อบาป เปรียบเหมือน แท่งเหล็กเย็น แต่เปื้อนคูถ คนที่มีศีลจะรังเกียจไม่ทำบาปค่ะ โอตตัปปะ คือความเกรงกลัวต่อบาป เปรียบเหมือน แท่งเหล็กที่ร้อนจัด คนที่ฉลาดจะไม่จับแท่งเหล็กร้อน เพราะกลัวผลของกรรม จึงไม่ทำชั่วค่ะ
ทรงอุปมาไว้ เพื่อให้เห็นโทษของอกุศลได้ชัดเจน เป็นอาหารแก่ปัญญาของนรชนโดยแท้
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ขอเชิญคลิกอ่านที่นี่
โทษของความโกรธ
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
เหตุที่ทำให้โกรธ มิใช่เพราะผู้อื่นกระทำให้เราโกรธ แต่เพราะกิเลสของเราต่างหากจึงยังเป็นผู้โกรธอยู่ หากยังเป็นปุถุชนอยู่ก็ย่อมที่จะต้องโกรธเมื่อมีเหตุปัจจัยเป็นธรรมดา เพียงแต่ต้องเข้าใจถูกว่า ความโกรธนั้นไม่ใช่เราที่โกรธแต่เป็นเพียงสภาพธรรมที่เกิดขึ้นทำกิจเมื่อมีเหตุปัจจัยและก็ดับไป
ขณะที่โกรธ ไม่รู้ว่าจับถ่านเพลิง
ยินดีในกุศลจิตค่ะ