พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม ๓ ภาค ๑ - หน้าที่ 250
ข้อความบางตอนจาก
อรรถกถา สัมปสาทนียสูตร
ได้ยินว่า ระหว่างกาลของพระกัสสปะพุทธเจ้าหนึ่ง ไม่สามารถจะดำรงศาสนาไว้ได้. ก็เมื่อปิฎกทั้งสองถึงจะอันตรธานไป เมื่ออุภโต วิภังค์ยังดำรงอยู่ ศาสนาก็เป็นอันตั้งอยู่ ได้แท้. เมื่ออุภโตควิภังค์อันตรธานไป แม้เมื่อมาติกายังดำรงอยู่ ศาสนาก็เป็นอันตั้งอยู่ได้แท้. เมื่อมาติกาอันตรธานไป เมื่อปาฏิโมกข์ บรรพชา และอุปสมบท ยังดำรงอยู่ ศาสนาก็ย่อมดำรงอยู่ได้. เพศยังเป็นไปอยู่ได้นาน. แต่วงศ์ของสมณะ ผู้นุ่งผ้าขาว ไม่สามารถจะดำรงศาสนาไว้ได้ ตั้งแต่กาลของพระพุทธเจ้า ทรงพระนามกว่ากัสสปะ. ศาสนาดำรงอยู่ได้ตลอดพันปีด้วยภิกษุผู้บรรลุ ปฏิสัมภิทา ดำรงอยู่ได้พันปีด้วยภิกษุผู้ทรงอภิญญา ๖ ดำรงอยู่ได้พันปี ด้วยภิกษุผู้ทรงวิชชา ๓ ดำรงอยู่ได้พันปี ด้วยภิกษุผู้เป็นสุกขวิปัสสกะ ดำรงอยู่ได้พันปี ด้วยเหล่าภิกษุผู้ทรงปาฏิโมกข์. ก็ศาสนาย่อมมีอันทรุดลงตั้งแต่การแทงตลอดสัจจะของภิกษุรูปหลังๆ และแต่การทำลายศีลของภิกษุรูปหลังๆ . จำเดิมแต่นั้นไป การอุบัติขึ้นของพระพุทธเจ้าพระองค์อื่น ท่านมิได้ห้ามไว้.
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น