ก่อนอื่นต้องทราบก่อนนะครับว่า อารมณ์ของวิถีจิตทางปัญจทวารเป็นปรมัตถ์
เพียงอย่างเดียว ส่วนอารมณ์ทางมโทวาร มีทั้งปรมัตถ์และบัญญัติ มโนทวาร
วิถีที่รู้อารมณ์ต่อจากทางปัญจทวารวาระแรกมีปรมัตถธรรมเป็นอารมณ์ ส่วนวาระ
หลังๆ มีบัญญัติเป็นอารมณ์ ครับ
ขอเชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่ มโนทวารวิถีจิตวาระแรก ไม่มีบัญญัติเป็นอารมณ์
ขณะที่มโนทวารวิถีจิตมีบัญญัติเป็นอารมณ์
วิถีจิตทางปัญจทวาร-วิถีจิตทางมโนทวาร
เมื่อได้ศึกษาพระธรรมจึงได้ทราบว่ามโนทวารวิถีจิตแรก ไม่มีบัญญัติเป็นอารมณ์
เมื่อมโนทวารวิถีจิตแรกดับไปแล้ว มโนทวารวิถีจิตวาระหลังจึงมีบัญญัติเป็นรูปร่าง สัณฐานเป็นอารมณ์ ถ้าไม่ได้ศึกษาพระธรรมแล้วจะไม่มีทางรู้ได้เลย เมื่อมีความเข้า-
ใจแล้ว ก็ต้องอบรมเจริญปัญญาให้รู้สิ่งที่ควรรู้ยิ่ง คือ สิ่งที่กำลังปรากฏอยู่ขณะนี้ ซึ่งไม่พ้นไปจากวิถีจิตทางปัญจทวาร และวิถีจิตทางมโนทวารเลย ถ้าไม่เริ่มต้นอบรมให้
รู้ให้เข้าใจความจริงที่มีอยู่จริงที่กำลังปรากฏ ก็ไม่สามารถดับกิเลสได้เลย กิเลสไม่
ใช่ดับด้วยการคิดนึก แต่ดับได้ด้วยปัญญาที่เกิดจากการค่อยๆ อบรมให้มีให้เจริญขึ้น
เป็นลำดับ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตค่ะ
ปํญญาเท่านั้นที่จะดับความไม่รู้ คือโมหะ ปัญญาไม่ใช่เกิดได้จากการรอคอย ไม่ใช่เกิดจากธรรมชาติเขาดับให้อยู่แล้ว แต่เกิดได้ด้วยการอบรมให้เข้าใจความจริง เมื่อ
มีความเข้าใจแล้วก็น้อมประพฤติปฎิบัติตาม อบรมความเข้าใจจนกว่าสังขารขันธ์จะ
ปรุงแต่งให้สติปัฎฐานเกิดระลึกรู้ในลักษณะสภาพธรรมตรงตามความเป็นจริง ค่อยๆ
ละความไม่รู้ในลักษณะสภาพธรรมว่าไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตนก่อนซึ่งต้องอบรมอีกยาว
นานมาก เรื่องหมดความสำคัญตนก็ยิ่งไกลแสนไกลเกินเอื้อม เพียงขั้นเข้าใจเท่านั้นไม่สามารถหมดความสำคัญตน ไม่สามารถดับกิเลสใดๆ ได้ทั้งสิ้น
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ปัญญาเท่านั้นที่จะประหานกิเลส ดับกิเลสได้
ไปประหาร รบราฆ่าฟัน...นั้นเป็นเรื่องราวของความคิดนึกแล้ว
คิดเป็นสภาพธรรมที่มีจริง แต่เรื่องราวที่คิดไม่มีจริง
โลภะ โทสะ โมหะ กลัวอย่างเดียวคือปัญญาค่ะ
ขออนุโมทนาสาธุครับ
จาก link ที่พี่ให้มาเขียนว่า.....
เมื่อวิถีจิตทางปัญจทวาร (ทวารหนึ่งทวารใด) ดับหมดแล้ว ภวังคจิตเกิดคั่นหลายขณะแล้ว มโนทวารวิถีจิตก็เกิดสืบต่อ มโนทวารวิถีจิตวาระแรกมีอารมณ์หนึ่งอารมณ์ใดใน ๕ อารมณ์ที่เพิ่งดับไปทางปัญจทวารนั่นเองเป็นอารมณ์ มโนทวารวิถีจิตวาระแรกที่เกิดต่อจากปัญจทวารวิถีจิตนั้น ยังไม่มีบัญญัติเป็นอารมณ์
ผมขอถามเพิ่มครับว่า ก็ในเมื่อรูปที่เป็นอารมณ์ทางปัญจทวารดับไปหมดแล้ว ดังนั้นอารมณ์ที่ มโนทวารวิถีจิตวาระแรกมีอารมณ์หนึ่งอารมณ์ใดใน ๕ อารมณ์ที่เพิ่งดับไปทางปัญจทวารเป็นอารมณ์ ก็ต้องเป็นอารมณ์ที่ไม่มีจริง ซึ่งก็น่าจะเป็นบัญญัติแล้ว (ถึงแม้จะเป็นบัญญัติจากปรมัตถ์) เพราะเป็นอารมณ์ที่ไม่มีสภาวะที่มีจริงๆ รองรับ แต่ทำไมถึงกล่าวว่าไม่มีบัญญัติเป็นอารมณ์ครับ ขอบคุณครับ
เรียนคุณ bom8813
เนื่องจากจิตเกิดดับรวดเร็วมาก วิถีจิตทางมโนทวารวาระแรกรับรู้อารมณ์ต่อ
ทันที ชื่อว่ามีอารมณ์เดียวกันกับวิถีจิตทางปัญจทวาร เป็นปรมัตถอารมณ์..