ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จะรู้ ตราบใดยังต้องการอยู่ ไม่มีทางที่จะรู้ได้เลย แต่ถ้าตราบใดที่รู้ว่าตัวเองไม่รู้อะไรเลยทั้งสิ้น จนกว่าจะได้ฟังธรรมะ แล้วเริ่มเข้าใจขั้นฟังเท่านั้นเอง จะฮวบฮาบไปถึงขั้นประจักษ์แจ้งได้ยังไง มีทางที่จะเป็นอย่างนั้นได้หรือ เป็นไปไม่ได้เลย เพราะว่าความไม่รู้ยังเต็ม ยังมาก
เพราะสะสมความไม่รู้ไว้เยอะมากๆ และเนิ่นนานมามากๆ
ศึกษาธรรม เหมือนกินข้าว (กินเพื่ออยู่ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน) ไม่ต้องรีบกิน เพื่อจะแข่งกับใคร กินไปเรื่อยๆ ตามปกติ เดี่ยวก็อิ่มเอง (เมื่อเหตุสมควรกับผล) เพราะถ้าสะสมเหตุไว้แล้วยังไง ชาติหน้า หรือชาติไหนๆ ก็ต้องมีบุญ ได้ศึกษาพระสัทธรรมอีก
ต้องฟังธรรมะ จนกว่าจะไม่คิดปฏิบัติ หรือต้องการผล เพราะว่าเรื่องของธรรมะเป็นเรื่องของการขัดเกลา รู้แล้วละ ไม่ใช่รู้แล้วต้องการ อย่าลืมว่า ตัณหา มานะ ทิฏฐิ เป็นธรรมะเครื่องเนิ่นช้าค่ะ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ