ชื่อว่า หนึ่ง
โดย ati  15 มิ.ย. 2551
หัวข้อหมายเลข 8898

1.ข้อความว่า "ชื่อว่า หนึ่ง" มีความหมายว่าอย่างไร

2.เพราะเหตุใด ความที่อาหารหล่อเลี้ยงหมู่สัตว์ จึงชื่อว่า หนึ่ง ครับ



ความคิดเห็น 1    โดย study  วันที่ 16 มิ.ย. 2551

ที่ชื่อว่า หนึ่ง คือสัตว์ทั้งหลายดำรงอยู่ได้ด้วยอาหาร (สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺฐิติกา) โดยนัยพระธรรมเทศนาของพระพุทธองค์ ทรงยกหัวข้อของธรรมะ หมวดใดหมวดหนึ่งขึ้นแสดง ตามอุปนิสัยของผู้ฟังในขณะนั้นได้รู้ความจริง เพราะพระธรรมทั้งหมดเพื่อการรู้แจ้งอริยสัจจธรรมของพระสาวก ดังข้อความจากอรรถกถา ขุททกปาฐะตอนหนึ่ง ที่ท่านอธิบายหัวข้อ สัตว์ทั้งหลายดำรงอยู่ได้ด้วยอาหารว่า
เมื่อใด สัตว์ทั้งปวงตั้งอยู่ได้ด้วยอาหารที่เรียกว่าปัจจัยอันใด อาหารอันนั้นหรือความที่สัตว์ตั้งอยู่ได้ด้วยอาหาร พึงทราบว่า มีหนึ่ง เพราะว่าอาหารหรือความที่สัตว์ตั้งอยู่ได้ด้วยอาหาร ย่อมเป็นฐานที่ตั้งแห่งนิพพิทา (ความหน่าย) เพราะเป็นเหตุแห่งอนิจจตาความเป็นของไม่เที่ยง. เมื่อนั้นภิกษุเมื่อหน่าย เพราะเห็นอนิจจตาในสังขารทั้งหลายที่เข้าใจกันว่าสัตว์ทั้งปวงเหล่านั้น ย่อมจะเป็นผู้ทำที่สุดทุกข์ได้โดยลำดับ ย่อมบรรลุ ปรมัตถวิสุทธิ (ความบริสุทธิ์โดยปรมัตถ์)


ความคิดเห็น 2    โดย wannee.s  วันที่ 16 มิ.ย. 2551

พระอรหันต์ ยังต้องบิณฑบาตร แสวงหาอาหาร แต่ท่านไม่ติดในกามคุณ ๕ ส่วนปุถุชนแสวงหาอาหาร และติดข้องในกามคุณ ๕ ด้วยคือ ยินดีในรูปสวยๆ เสียงเพราะๆ กลิ่นหอมๆ รสอร่อยๆ สัมผัสนุ่มๆ ฯลฯ สัตว์โลกดำรงอยู่ได้ด้วยอาหาร เพราะถ้าไม่มีอาหาร เราก็ไม่มีแรง และขณะที่หิวมากๆ เป็นทุกข์ ฟังธรรมะก็ไม่รู้เรื่องค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย ati  วันที่ 16 มิ.ย. 2551
สาธุ..

ความคิดเห็น 4    โดย เมตตา  วันที่ 17 มิ.ย. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย ประสงค์  วันที่ 18 มิ.ย. 2551

แต่ในพระสูตรตอนพระสารีบุตรถามคำถามแก่นางกุณฑลเกศีว่า อะไรชื่อว่าหนึ่ง นางตอบไม่ได้ ท่านเฉลยว่า พุทธมนต์?


ความคิดเห็น 6    โดย suwit02  วันที่ 18 มิ.ย. 2551

เรื่องพุทธมนต์ที่คุณประสงค์ อ้างถึงนั้น ปรากฏในอรรถกถาธรรมบท มีข้อความบางส่วนดังนี้

นางปริพาชิกา กล่าวกะพระเถระว่า "ท่านผู้เจริญ ดิฉันจักถามปัญหากะท่าน."

พระเถระ. ถามเถิด น้องหญิง.

นางถามวาทะพันหนึ่งแล้ว.

พระเถระแก้ปัญหาที่นางถามแล้วๆ .

ลำดับนั้น พระเถระกล่าวกะนางว่า "ปัญหาของท่านมีเท่านี้,ปัญหาแม้อื่นมีอยู่หรือ?"

นางปริพาชิกา มีเท่านี้แหละ ท่านผู้เจริญ.

พระเถระ ท่านถามปัญหาเป็นอันมาก, แม้เราจักถามสักปัญหาหนึ่ง,ท่านจักแก้ได้หรือไม่?

นางปริพาชิกา ดิฉันรู้ก็จักแก้, จงถามเถิด ท่านผู้เจริญ.

พระเถระ ถามปัญหาว่า "อะไร? ชื่อว่าหนึ่ง."

นางปริพาชิกานั้น ไม่รู้ว่า "ปัญหานี้ ควรแก้อย่างนี้" จึงถามว่า "นั่นชื่อว่าอะไร? ท่านผู้เจริญ"

พระเถระ ชื่อ พุทธมนต์ น้องหญิง.

นางปริพาชิกา ท่านจงให้พุทธมนต์นั้น แก่ดิฉันบ้าง ท่านผู้เจริญ.

พระเถระ หากว่า ท่านจักเป็นเช่นเรา. เราจักให้.

นางปริพาชิกา ถ้าเช่นนั้น ขอท่านยังดิฉันให้บรรพชาเถิด.


ผมเห็นว่า คำว่า พุทธมนต์ นั้น ไม่ใช่คำตอบของปัญหาที่ว่า อะไรชื่อว่าหนึ่ง แต่เป็นชื่อที่ท่านพระสารีบุตร ใช้เรียกชุดของคำถาม (ปัญหา) และคำตอบ ที่ว่า อะไรชื่อว่า หนึ่ง,สอง,สาม .......ซึ่งมีปรากฏหลายแห่ง รวมทั้งที่ตัวท่านเป็นผู้ประมวลไว้เองในพระสุตตันตปิฏก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค สังคีติสูตร

เข้าใจว่าเหตุที่ท่านเลือกใช้คำว่า พุทธมนต์ ก็เพื่อจูงใจให้นางปริพาชิกาบวชในพระพุทธศาสนา เพราะหวังจะเรียนพระพุทธมนต์ นี้ครับ

ส่วนคำตอบของปัญหานี้ ท่านได้แสดงไว้แล้วในความเห็นที่ ๑ และ ๒ ครับ

ปล.เพิ่งทราบจากคุณคำปั่นว่า "มนต์" หรือ "มันตะ" หมายถึง ปัญญา


ความคิดเห็น 7    โดย happyindy  วันที่ 19 มิ.ย. 2551

หาก "มนต์" หรือ "มันตะ" หมายถึงปัญญา ถ้าอย่างนั้น (ตามที่คัดลอกมา : พระเถระ. ชื่อ พุทธมนต์ น้องหญิง)

พุทธมนต์ ในที่นี้ก็คือ พระปัญญาของพระพุทธเจ้า ใช่มั้ยคะ และพระปัญญาของพระผู้มีพระภาคสัมมาสัมพุทธเจ้านี้ ย่อมเป็นที่หนึ่ง ไม่มีสองแน่นอน

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 9    โดย ati  วันที่ 19 มิ.ย. 2551
อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ

ความคิดเห็น 10    โดย all-for-ละ  วันที่ 19 มิ.ย. 2551

ตามที่กล่าวมานั้น พุทธมนต์มีหลายความหมาย หมายถึง คัมภีร์หนึ่งที่แสดงถึงลักษณะของพระพุทธเจ้า ก็ชื่อว่าพุทธมนต์ ส่วนพุทธมนต์ในความหมายนี้ (พระสูตรที่ยกมา) ตามความเข้าใจ พุทธมนต์ น่าจะหมายถึงสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ด้วยปัญญา เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า อันเกิดจากปัญญา (มนต์) ของพระพุทธเจ้าที่ทรงตรัสรู้ ซึ่งก็คือปัญญาที่เข้าใจความจริงของสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ ดังเช่น ตัวอย่างของท่านพระวังคีสะซึ่งต้องการเรียนพุทธมนต์ ก็คือเรียนคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอันทำให้เกิดปัญญา (มนต์) ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ (พุทธ) ซึ่งก็ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่มีในขณะนี้

ทีนั้น พระศาสดาตรัสกะเขาว่า " วังคีสะ ท่าน ไม่รู้หรือ? " เมื่อเขากราบทูลว่า " พระเจ้าข้า ข้าพระองค์ไม่รู้ " จึงตรัสว่า " ฉันรู้." วังดีสะ. พระองค์ทรงทราบด้วยอะไร?

พระศาสดา. ทราบด้วยกำลังมนต์. (กำลังปัญญา) ลำดับนั้น วังคีสะทูลวิงวอนพระองค์ว่า " ขอพระองค์จงประทานมนต์นี้แก่ข้าพระองค์ พระศาสดาตรัสว่า " เราไม่สามารถจะให้มนต์แก่บุคคลผู้ไม่บวชได้." วังคีสะบวชเพื่อเรียนพุทธมนต์
เขาคิดว่า "เมื่อเราเรียนมนต์นี้แล้ว เราก็จักเป็นผู้ประเสริฐในชมพูทวีปทั้งสิ้น"


ความคิดเห็น 11    โดย all-for-ละ  วันที่ 19 มิ.ย. 2551

บทว่า ลักษณะของมหาบุรุษ ได้แก่ ศาสตร์อันมีปริมาณคัมภีร์ถึง ๑๒,๐๐๐ ที่แสดงลักษณะของมหาบุรุษ มีพระพุทธเจ้าเป็นต้น ที่ชื่อว่าเป็นพุทธมนต์ ซึ่งมีปริมาณบทคาถาถึง ๑๖,๐๐๐ มีปรากฏข้อแตกต่างกันดังนี้


ความคิดเห็น 12    โดย พุทธรักษา  วันที่ 20 มิ.ย. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

บรรดาทางทั้งหลายทางมีองค์ ๘ ประเสริฐสุด บรรดาสัจจะทั้งหลายบท ๔ ประเสริฐสุด บรรดาธรรมทั้งหลายวิราคธรรมประเสริฐสุดและบรรดาสัตว์ ๒ เท้าทั้งหลายพระพุทธเจ้า ผู้มีจักษุ ประเสริฐสุด.


ความคิดเห็น 14    โดย ไม่มีเรา  วันที่ 20 มิ.ย. 2551

โมทนาสาธุค่ะ


ความคิดเห็น 15    โดย ati  วันที่ 20 มิ.ย. 2551
สาธุ

ความคิดเห็น 16    โดย all-for-ละ  วันที่ 20 มิ.ย. 2551

นั่น ชื่อว่าอะไร? ผู้เจริญ ท่าน" พระเถระ. ชื่อ พุทธมนต์ น้องหญิง. (นั่น) คือสิ่งที่พระสารีบุตรถาม (อะไร? ชื่อว่าหนึ่ง) ชื่อว่าอะไร ก็คือพุทธมนต์ สิ่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ด้วยปัญญาของพระองค์เอง เพราะพระพุทธองค์ทรงทราบว่า สัตว์โลกดำรงอยู่ได้ด้วยอาหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ด้วยปัญญาของพระองค์ (พุทธมนต์)


ความคิดเห็น 17    โดย prakaimuk.k  วันที่ 21 มิ.ย. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ เป็นความรู้ใหม่เรื่อง พุทธมนต์ แปลว่า พระปัญญาของพระพุทธเจ้า


ความคิดเห็น 18    โดย กตัญญู  วันที่ 22 มิ.ย. 2551

สาธุ


ความคิดเห็น 19    โดย suwit02  วันที่ 22 มิ.ย. 2551

ขออนุโมทนาครับ