สนทนาธรรมที่มูลนิธิฯ
วันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๐
ถอดเทป โดย
คุณย่าสงวน สุจริตกุล
คุณอร พอดีเห็นน้องยังสนใจคำว่า ปฏิบัติ ในฐานะอดีตผู้ปฏิบัติมาก่อนจะเรียนถามว่า เมื่อเริ่มต้นศึกษาจะให้ทราบว่า จริงๆ แล้วทุกอย่างเป็นธรรมและไม่มีตัวตน, สัตว์, บุคคล แต่ถ้ามีตัวตน, สัตว์, บุคคลไปปฏิบัติ ก็จะขัดกับลักษณะอนัตตา คำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ว่าลักษณะของสภาพธรรมสามัญลักษณะ คือ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา ไม่มีตัวตน, สัตว์, บุคคล มีแต่สภาพธรรมซึ่งเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ซึ่งถ้าไม่เข้าใจตรงนี้ เพราะสมัยที่ไปปฏิบัติ คนที่เขาสอนให้ปฏิบัติ เขาก็จะบอกว่าเรียนปริยัติ แล้วก็ปฏิบัติเพื่อให้เกิดปัญญา รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริงโดยการไปปฏิบัติ ที่เราไปทำมา ในขณะนั้นก็ไม่มีใครมาบอกหรอกว่า ใช่หรือไม่ใช่ คือปัญญาของเราไม่รู้นี่ เขาก็บอกว่านี่เป็นคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เรียนจากพระไตรปิฎก ในการปฏิบัตินี้ให้อาจารย์เน้นเรื่องการปฏิบัติธรรมที่ถูกต้องจริงๆ ขอความกรุณาให้ละเอียดนิด เพื่อให้ผู้ที่ฟังใหม่และฟังเก่าอย่างหนูได้เข้าใจมากขึ้น
อาจารย์ ฟังธรรมเพื่ออะไรคะ
คุณอร เพื่อเข้าใจสิ่งที่มีจริง
อาจารย์ และปฏิบัติธรรมเพื่ออะไร
คุณอร ก็เพื่อให้เข้าถึงลักษณะของสภาพธรรมที่เราฟังว่ามีจริง
อาจารย์ และธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตาหรืออัตตา
คุณอร เป็นอนัตตาค่ะ
อาจารย์ ใครจะปฏิบัติ
คุณอร ก็ไม่มี มีแต่สภาพธรรมที่ทำหน้าที่รู้
อาจารย์ เพราะฉะนั้นเราจะปฏิบัติ หรือแล้วแต่ความเข้าใจพอที่สติสัมปชัญญะจะเกิดระลึกได้
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ เจริญธรรม
ขอบคุณค่ะ ... อนุโมทนา
กราบเรียน คุณย่า
ผมใคร่จะทราบว่า การสนทนาดำเนินไปอย่างไร อีกสักเล็กน้อยครับ
ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ถ้ายังอยากจะปฏิบัติอยู่ ไม่ใช่หนทาง แต่เป็นเครื่องกั้น ต้องอาศัยการฟังธรรมะให้เข้าใจก่อน เพราะขณะที่ฟังธรรมะเข้าใจ ขณะนั้นเป็นปัญญาขั้นภาวนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนา
ฆราวาส ไม่ได้อ่านพระไตรปิฎก ไม่ได้อ่านจุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล ศีล ๒๒๗ ข้อ ฆราวาสให้เงินเดือนพระ ให้ตำแหน่ง พระก็เฉย ไม่ท้วงติง ว่าผิดพระธรรมวินัยฯ
ขออนุโมทนาครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ