ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
บันทึกสุดท้าย...จาก บุษบงรำไพ พึ่งบุญ ณ อยุธยา พลวัฒน์
"เป็นเรื่องที่น่าติดตาม เพราะไม่รู้ถึงวันจบเมื่อไหร่?
แต่จบ...แน่ๆ !!!"
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2551
เช้า ออกจากบ้านซอยอารี เพราะใกล้ ร.พ.พระมงกุฏฯ ประมาณ 10 นาที หมออนุญาติให้ทานยาประจำ คือ ความดัน ได้ การฉาย x-ray computer ซักถามการแพ้หลายอย่าง พยาบาลทำตลก ถามว่า "คงไม่ท้องนะ" คงเห็นท้องโต บอกว่าแพ้กุ้ง อาหารทะเล การแก้ไข ก็คือ ดื่มน้ำแดงหนึ่งเหยือก ประมาณ 4 แก้วครึ่ง ให้ดื่มช้าๆ แก้วละประมาณ 15 นาที ท้องก็โตอยู่แล้ว ดื่มน้ำเข้าไปอีก ว่าไงว่ากัน เรียบร้อย เข้าเครื่องก็เลื่อนไป เลื่อนมา
Computer บอกได้ว่า ในท้องมีอะไรบ้าง แต่ไม่มีวันที่เธอ จะรู้จิตฉันหรอก เพราะตัวฉันเองยังไม่รู้เลย ก็จริงๆ "ฉัน" ก็ไม่มี มีแต่ลักษณะของจิตต่างๆ หลายประเภท สลับกันเกิด ถ้า ปัญญาเจตสิกไม่เกิด ก็อย่าหวังจะรู้ได้
เสร็จแล้วก็แวะถามที่แผนกศัลยกรรมว่า ที่นัดวันศุกร์ฟังผลรู้แล้ว ว่าไม่ดี ไม่ต้องมา หรือว่าต้องมาตัดไหมหรือไหมชนิดละลาย? เก่งเหมือนกัน พอรู้ ทันสมัยคำตอบ คือ "ตัดที่ไหนก็ได้"
ทันที ดร.วีระ บอก "ผมตัดให้ก็ได้" (อ้าว!! คุณเป็น ดร.ทางโลหะจะมาเป็นหมอได้หรือ?)
หลังจากออกจากตรวจ ก็กลับบ้านลุมพินี บ้าน คือวิมานของเรา เป็นคอนโดจึงมองเห็นวิวด้านล่าง ยังอยากเห็นความวุ่นวายของมนุษย์ รถติดตอนกลางคืน ทำให้ไฟสว่างสวยงามเหมือนมีงานวัดทุกวัน เห็นรถข้ามสะพานพระราม 3 ไกลสุดตาสะพานแขวน ตื่นตอนไหน ก็ดูวิวสวย ความสูงของเตียงนั่งห้อยเท้าชมวิว เพราะห้องนอนป็นกระจกชนกัน จึงกว้างรอบด้าน ห้องรับแขกก็เห็นวิวอีกมุม ห้องระเบียงครัว ก็มีวิวอีก ก็เลยไม่เหงาคล้ายอยู่คนเดียว แต่จริงๆ สิ่งวุ่นวายมองลงมา เห็นหมด ตีสอง ตีสามแล้ว ยังมีคนเข็นรถเดินอยู่ริมถนน
อะไรกันนี่!! ผลของกรรมแสดงชัดเจน เลือกเกิดไม่ได้ เราเกิดมาสบาย แต่ขณะนี้ ทุกขเวทน ก็เริ่มจะมากขึ้น (แต่งเอง ทานยาอาจจากไปอย่างสงบ)
เมื่อคิดให้ดีโลกนี้ประหลาด ถ้าไม่ได้ศึกษาลึกซึ้ง ก็ถูกหลอกทั้งชีวิต ขอหัวเราะดังๆ ฮ่ะๆ ๆ ฝากลาทุกคนตรงนี้ เพราะจะไม่ได้คุยกับใครแล้ว
คนที่อ่อนแอ ไม่อยากสนทนาด้วย มีแต่คำพูดที่แสดงความห่วงใย ไม่อยากให้โหยหา อาลัยหา ปกติก็ไม่ได้ติดต่อคุยกันอยู่ๆ อยาก จะมาคุยตอนจะจาก คนกำลังไม่สบาย แรงจะหมด คนดีตั้งร้อยคน ซักถามคนไม่สบายอยู่คนเดียว ผลคืออะไร? ตายก่อนเวลาอันควร
ประมาท คุยมาก ต้อง save กำลังไว้ศึกษาธรรมะ เจ้าค่ะ
วันนี้มีคนโทรเข้ามือถือที่ไม่ message ไว้ ไม่รู้ใคร ก็ไม่รับ
พูดถึงบ้านลุมพินี บ้านใหม่ แต่เจ้าของเรือน ร่างจะพังมิพังแหล่ วันนี้ เจ็บตรงทีแทงเข็มเอาน้ำออกจากท้อง เรียกว่า ระบม สาเหตุเพราะเข็มไม่อยู่ในที่ๆ ควรจะอยู่น้ำจึงไม่ค่อยไหลออก ดูจะไหลย้อน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2511 วันมาฆะบูชา
ระบมแผลที่แทงท้อง ประคบความร้อนด้วยกระเป๋าไฟฟ้า ทาท้อง
ให้ร้อน วันนี้ คุณวีระ บอกจะไปมูลนิธิ ฯ ตอนเย็น อัดเทปมาให้ พี่ดวงเดือน โทรมาถามอาการ เล่าทุกอย่าง ก็เลยจะส่งอาหารมาให้ ใครๆ ก็รู้ อาหาร บ้านอาจารย์ดวงเดือ special อยู่แล้ว อ้วนกันคราวนี้แหละ อยู่นานๆ ก็น่า จะดี โลภะ ติดในภพแทรกอยู่เป็นประจำ จริงๆ ตื่นมาก็พรุ่งนี้ ก็ เหมือนกัน ติดใน 6 ทวาร เกิดใหม่ก็เหมือนกันอีก แต่เกิดใหม่ เพื่อนที่คบอยู่ตรงนี้ ก็ไม่ได้ตามไปพร้อมกันนี่นา!! ชาติที่แล้วก็ไม่ อยากจาก พอได้เพื่อนใหม่ที่ประเทศไทย ก็ติดซะเหลือเกิน
วันมาฆะบูชา เกิดขึ้นที่ วัดพระเวฬุวัน ได้ไปกราบสถานที่ แล้ว ชาติหน้าคงได้ไปอีกตามเหตุปัจจัย ที่ได้เคยไปแล้ว
คำสอนพระภิกษุ 1250 รูป พระอรหันต์ คือ ละชั่ว ทำดี ทำ กุศลให้ถึงพร้อม และทำจิตให้ผ่องใส ตรงนี้ "สำมะคัน" (สำคัญ)
ก่อนตายคิดชั่ว อบายเป็นที่หวัง
ตอนสาย ช่าง 3 คน มาติดม่าน ก็เลยอยู่สบายขึ้น แต่คืนนี้จะกลับ บ้านซอยอารี เพราะพรุ่งนี้ไป ร.พ.พระมงกุฏ ฯ 10 นาที ไม่ต้องตื่นเช้า ตัดไหม ส่วนคุณวีระ หมอนัดตรวจประจำ สงสัยความดันเธอจะขึ้นสูง แก่แล้วมีแต่โรคภัย ก็ยังอยูกันอีกนี่ ตายตอนยังไม่แก่มาก น่าจะดี....
(...ยังมีต่อ...)
ถ้าบุคคลจะเศร้าโศกถึงสิ่งที่ไม่มีแก่สัตว์ผู้เศร้าโศกนั้น พึงเศร้าโศกถึงตน ซึ่งตกอยู่ในอำนาจของมัจจุราชอยู่ทุกเวลา อายุสังขาร ใช่ว่าจะติดตามเฉพาะสัตว์ผู้ยืน นั่ง นอน หรือเดินอยู่ เท่านั้นก็หาไม่ แม้ในเวลาชั่วลืมตา หลับตา วัยก็เสื่อมไปแล้ว
(จาก...อนนุโสจิยชาดกที่ ๘)
ชีวิต คืออายุ อันน้อยนี้ถูกชรานำเข้าไปเมื่อสัตว์ ถูกชรา นำเข้าไปแล้วย่อมไม่มีเครื่องต้านทาน ผู้เล็งเห็นภัย ในมรณะมุ่งความสงบ พึงละโลกามิสเสีย.
(พระโอวาทานุสาสนี)
ขออนุโมทนา
พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงได้ตรัสดังนี้ว่า พึงทำความเพียรเสียในวันนี้แหละ ใครเล่าจะรู้ความตายในวันพรุ่ง เพราะว่าความผัดเพี้ยนกับมัจจุราชผู้มีเสนาใหญ่นั้น ย่อมไม่มีแก่เราทั้งหลาย พระมุนีผู้สงบย่อมเรียกบุคคลผู้มีปกติอยู่อย่างนี้ มีความเพียรไม่เกียจคร้านทั้งกลางวันและกลางคืน นั้นแลว่า ผู้มีราตรีหนึ่งเจริญ.
ขออนุโมทนาในกูศลจิตของพี่บงที่นำข้อธรรมมาเตือนใจค่ะ
"...คนที่อ่อนแอ ไม่อยากสนทนาด้วย มีแต่คำพูดที่แสดงความห่วงใย ไม่อยากให้โหยหา อาลัยหา... และ ...ประมาท คุยมาก ต้อง save กำลังไว้ศึกษาธรรมะ เจ้าค่ะ..."
เด็ดเดี่ยว มั่นคง อาจหาญ ร่าเริง
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาครับ
ฝากลาทุกคนตรงนี้ เพราะจะไม่ได้คุยกับใครแล้ว เตือนให้รู้ว่า ทุกคนมีความตายเป็นธรรมดา ไม่สามารถล่วงพ้นความตายไปได้ มีแต่ กุศลและปัญญาเป็นเงาตามติดไปในภพหน้า
ขออนุโมทนาในกุศลจิตค่ะ
เมื่อคิดให้ดีโลกนี้ประหลาด ถ้าไม่ได้ศึกษาลึกซึ้ง ก็ถูกหลอกทั้งชีวิต โลภะ ติดในภพแทรกอยู่เป็นประจำ จริงๆ ตื่นมาก็พรุ่งนี้ ก็เหมือนกัน ติดใน 6 ทวาร เกิดใหม่ก็เหมือนกันอีก แต่เกิดใหม่ เพื่อนที่คบอยู่ตรงนี้ ก็ไม่ได้ตามไปพร้อมกันนี่นา!! ชาติที่แล้วก็ไม่อยากจาก พอได้เพื่อนใหม่ที่ประเทศไทย ก็ติดซะเหลือเกิน
อ่านมาหลายตอน จนถึงตอนที่ 6 นี้
ไม่เคยเห็นความหม่นหมองทุกข์ใจในบันทึกของคุณบุษบงรำไพเลย และยังให้กำลังใจทั้งเตือนสติผู้ที่ยังอยู่ (แต่จะต้องตามไปแน่ๆ ในวันใดวันหนึ่งข้างหน้า...หนีไม่ได้ หนีไม่พ้น)
แบบอย่างของผู้ศึกษาธรรมะ ด้วยความอาจหาญร่าเริงจริงๆ ขออนุโมทนาคุณบุษบงรำไพ พึ่งบุญ ณ อยุธยา พลวัฒน์
ด้วยความนับถือ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
อาจหาญ ร่าเริง ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ