ขอเรียนถามท่านวิทยากร
พระอนาคามีดับกามราคะเป็นสมุทเฉท แต่ผมสงสัยว่า
1. ท่านยังคงมีความหิว ถ้าท่านเป็นคฤหัสถ์ ท่านสามารถซื้ออาหารรับประทานได้หรือไม่ครับ
2. พระอนาคามีท่านจะปรุงรสอาหารเพื่อรับประทานได้หรือไม่ครับ
มีข้อความแสดงในพระไตรปิฎก และอรรถกถาหรือไม่ครับเพื่อเทียบเคียง
ขอความกรุณาท่านวิทยากรเมตตาตอบด้วยครับ
อนุโมทนาครับ
๑. ในพระไตรปิฎกและอรรถกถามีตัวอย่าง คือ ฆฏิการะผู้เป็นพระอนาคามีบุคคล ซึ่งท่านเป็นพ่อค้าเลี้ยงมารดาบิดาผู้ตาบอด แต่ท่านไม่ทำการซื้อขาย (ดังข้อความที่ยกมา) แต่ถ้าพิจารณาถึงความเป็นจริงในการดำรงชีวิต ถ้าท่านจะซื้อขายย่อมไม่ขัดกับศีลของท่าน คือ ท่านมีปกติรักษาศีล ๘ อีกอย่างหนึ่งถ้าท่านขาดสิ่งของบางอย่างที่ต้องใช้และท่านก็มีเงินอยู่ ลองพิจารณาดูว่า พระอนาคามีท่านจะซื้อหรือจะไปขอคนอื่น ในเมื่อท่านเป็นคฤหัสถ์
๒. พระอนาคามีบุคคลท่านไม่ติดในรสอาหาร แต่ถ้าท่านทำหน้าที่เป็นผู้ทำอาหารเลี้ยงบุคคลในบ้าน หรือภิกษุสงฆ์ ลองพิจารณาดูว่าท่านจะไม่ปรุงรสที่ดีและประณีต หรือ สำหรับตัวท่านคงไม่เติมน้ำปลาน้ำตาลเหมือนปุถุชน
พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัญณาสก์
อรรถกถาฆฏิการสูตร
บทว่า ยํ อิจฺฉติ ตํ หรตุ ความว่า ได้ยินว่า ฆฏิการะช่างหม้อทำภาชนะทั้งหลายไว้ ไม่กระทำการซื้อ และการขาย. ก็ครั้นกล่าวอย่างนี้แล้วจึงไปสู่ป่า เพื่อหาฟืนบ้าง เพื่อหาดินบ้าง เพื่อหาใบไม้บ้าง. มหาชนได้ยินว่าฆฏิการะช่างหม้อทำภาชนะเสร็จแล้ว จึงถือเอาข้าวสาร เกลือ นมส้ม น้ำมันและน้ำอ้อยที่อย่างดีๆ เป็นต้นมา. ถ้าภาชนะมีค่ามาก มูลค่า มีน้อย. จะต้องให้สิ่งของสมควรกันจึงค่อยเอาไป ฉะนั้นมหาชนจึงยังไม่เอาภาชนะนั้นไป. จะต้องไปนำเอามูลค่ามาอีก ด้วยคิดว่า ฆฏิการะช่างหม้อเป็นพ่อค้า ประกอบด้วยธรรมปฏิบัติบำรุงมารดาบิดา บำรุงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อกุศลจักมีแก่เราเป็นอันมากดังนี้.
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น