สวัสดีค่ะเพื่อนสมาชิก
คือมีเรื่องสงสัยเกี่ยวกับ กรรม นรก สวรรค์ หรือภพต่างๆ โดยส่วนตัวไม่มีความรู้ด้านนี้เลย เลยอยากจะขอรบกวนบ้านธัมมะช่วยให้ความกระจ่างตอบคำถามต่อไปนี้หน่อยค่ะ
๑. นรก สวรรค์ หรือภพภูมิต่างๆ ที่พวกเราได้ยินกันมา มีจริงมั้ยคะ
๒. ถ้ามีจริง จากการที่เราได้ยินอยู่เสมอๆ ว่า เราเกิดมาเพื่อใช้กรรม ทำไมเราไม่ใช้ให้เสร็จ ตั้งแต่ตอนอยู่ในนรกอ่ะคะ
๓. เรามีอะไรเป็นตัวแบ่งว่า ใช้กรรมในนรกเท่านี้ ใช้กรรมบนโลกมนุษย์เท่านี้ หรืออยู่ในนรกกี่ปี เกิดมาเป็นสัตว์กี่ปี เกิดมาเป็นคนกี่ปี ใช้กรรมที่ไหนก่อน เรียงลำดับจากอันไหนก่อน-หลังคะ
๔. แล้วถ้ามองในแง่ว่า การเกิดมาเป็นมนุษย์เป็นโอกาสให้เราสร้างความดี แล้วน้องที่พิการทุพลภาพอ่ะค่ะ จะสร้างยังไง แสดงว่าเขาไม่มีโอกาสเลยเหรอคะ
๕. ทุกๆ สิ่งที่เกิดขึ้นกับเราล้วนแล้วแต่เป็นกรรมเก่าทั้งหมดเลยเหรอคะ ถ้าสมมติเราขับรถชนคนตาย ทั้งๆ ที่เราไม่ได้ตั้งใจเลย อันนั้นเกิดจากกรรมที่เขาจำเป็นต้องตาย หรือว่าเป็นกรรมใหม่ที่เราเพิ่งสร้างคะ แล้วถ้าชะตาชีวิตเราถูกลิขิตมาจากกรรมทั้งหมด มันก็เป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ใช่ไหมคะ แล้วกรรมดีที่เราทำนี่ เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดมาแล้วด้วยหรือเปล่าคะ ตกลงเรามีสิทธิ์ที่จะกำหนดการกระทำของตัวเองได้ไหมคะ
ถ้าเป็นคำถามที่ดูไร้สาระ ไม่มีแก่นสาร ก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ แต่ทุกคำถามล้วนแล้วแต่ เกิดจากความสงสัยและด้อยปัญญาของดิฉันเองจริงๆ ค่ะ เพราะโดยพื้นฐานของตัวเอง ก็เป็นคนที่ไม่ได้มีโอกาสศึกษาทางด้านนี้เลย แต่เป็นคนที่เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วยค่ะ และเผอิญตอนนี้ เป็นอาสาสมัคร ดูแลน้องเด็กพิเศษอยู่ค่ะ การที่ได้ดูแลพวกเขาเป็นประจำๆ มันทำให้ได้มีโอกาสคิดอะไรมากมาย หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้น คำถามที่ว่า พวกเขาไปทำกรรมอะไรที่รุนแรงมา ถึงต้องได้รับผลของกรรมร้ายแรงขนาดนี้ และถ้าพวกเขาเกิดมาทุพลภาพขนาดนี้ แล้วพวกเขาจะมีโอกาสสร้างกรรมดี ให้ตัวเองได้อย่างไร แล้วถ้าสร้างกรรมดีให้ตัวเองไม่ได้ ชาติหน้าหรือภพภูมิหน้าของพวกเขาจะเป็นยังไงคะ แล้วถ้าเราอยากจะช่วยพวกเขา อย่างน้อยให้มันทุเลาลง หรือให้ชาติหน้าของพวกเขาดีขึ้นกว่านี้ เราจะทำได้ไหมคะ
รบกวนด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
โสภารัตน์
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
๑. นรก สวรรค์ หรือภพภูมิต่างๆ ที่พวกเราได้ยินกันมา มีจริงมั้ยคะ
เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ
นรก สวรรค์ ภพภูมิอื่น
๒. ถ้ามีจริง จากการที่เรา ได้ยินอยู่เสมอๆ ว่า เราเกิดมาเพื่อใช้กรรม ทำไมเราไม่ใช้ให้เสร็จ ตั้งแต่ตอนอยู่ในนรกอ่ะคะ
- ควรเข้าใจครับว่า กรรม ที่เป็นการ ทำอกุศลกรรม และ กุศลกรรม กรรมที่ทำให้เกิดในอบายภูมิ มีนรก เป็นต้นเป็นผลมาจากการทำอกุศลกรรม กรรมที่ทำให้เกิดเป็นมนุษย์ เป็นเทวดา เกิดจากกุศลกรรม ปัญหาที่ว่าทำไมเราไม่ใช้กรรมให้หมดในนรก
เพราะเหตุที่ว่า กรรมที่เป็นอกุศลกรรมนั้น ในความเป็นจริง การเกิดในนรก เป็นเพียงอกุศลกรรมประการเดียว คือเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ที่ทำให้เกิดในนรก ดังนั้น ก็เป็นเพียงการใช้กรรมในนรก เพียงกรรมเดียว ที่ทำให้เกิดในนรก ที่เป็นอกุศลกรรม และก็มีอกุศลกรรมอื่นๆ ให้ผลบ้างในขณะที่เกิดในนรก แต่ในความเป็นจริง เราไม่ได้ทำกรรมเพียงอกุศลกรรมเพียงอย่างเดียว แต่เราทำอกุศลกรรมมากมาย นับชาติไม่ถ้วน ดังนั้น จึงมีอกุศลกรรมที่ทำไว้มากมาย เมื่อเป็นเช่นนี้ แม้เกิดในนรก ก็ยังไม่พ้นจากอกุศลกรรมอื่นๆ เพราะ ยังจะต้องได้รับกรรมจากอกุศลกรรมที่ทำไว้ และในความเป็นจริง การได้รับผลของกรรม ก็ไม่ใช่เพียงการเกิดในนรก การเกิดในภพภูมิที่ดี มีมนุษย์เป็นต้น ขณะนั้นก็เป็นผลของกรรมด้วย คือการเกิดในภพภูมิที่ดี และขณะที่ เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้กระทบสัมผัส ในชีวิตประจำวัน ก็เป็นผลของกรรมที่ได้กล่าว คือ ต้องชดใช้ด้วย
ดังนั้น การจะพ้นจากการเกิดในอบายภูมิ คือ การบรรลุเป็นพระอริยบุคคล มี พระโสดาบัน เป็นต้น แต่แม้ว่าเป็นพระอริยบุคคลแล้ว เมื่อยังมีกิเลส ก็ยังจะต้องเกิดอีก ก็ไม่พ้นจากการชดใช้กรรม ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ซึ่งการจะพ้นจากการรับผลของกรรมอีก คือการไม่เกิดอีกเลย นั่นคือ การดับกิเลสหมดสิ้นของพระอรหันต์ และถ้าตายไป ก็จะไม่มีการเกิด เมื่อไม่เกิด ก็ไม่ต้องรับผลของกรรมไม่ต้องชดใช้กรรมอีก ครับ
๓. เรามีอะไรเป็นตัวแบ่งว่า ใช้กรรมในนรกเท่านี้ ใช้กรรมบนโลกมนุษย์เท่านี้ หรือ อยู่ในนรกกี่ปี เกิดมาเป็นสัตว์กี่ปี เกิดมาเป็นคนกี่ปี ใช้กรรมที่ไหนก่อน เรียงลำดับจากอันไหนก่อน-หลังคะ
- แล้วแต่ประเภทของกรรม ครับ คือ กรรมหนัก ที่เป็นกรรมที่มีกำลัง ก็จะทำให้ได้รับผลของกรรมที่ยาวนาน เช่น การฆ่าบิดา มารดา ก็เป็นกรรมหนัก ทำให้ตกนรกนานมาก เป็นต้น แต่ ถ้าเป็นกรรมเบา เช่น ฆ่ามด ก็ตกนรกนานน้อยกว่านั้น เป็นต้น ส่วนกรรมไหนจะให้ผลก่อนก็ขึ้นอยู่กับประเภทของกรรมด้วย ถ้าทำกรรมหนัก มีอนันตริยกรรม มีฆ่าบิดา มารดา เป็นต้น ชาติหน้าก็จะให้ผลในกรรมนี้ก่อน ครับ ส่วนกรรมอื่นๆ ก็แล้วแต่ว่ากรรมใดจะให้ผล ซึ่งไม่สามารถรู้ได้ เพราะ กรรม เป็นรื่องละเอียดลึกซึ้ง
๔. แล้วถ้ามองในแง่ว่าการเกิดมาเป็นมนุษย์เป็นโอกาสให้เราสร้างความดี แล้วน้องที่พิการทุพลภาพ จะสร้างอย่างไร แสดงว่าเขาไม่มีโอกาสเลยหรือคะ
- ก่อนอื่นก็จะต้องเข้าใจว่า ความดี คืออะไร
ความดี คือ จิต ที่ดีที่เกิดขึ้น ดังนั้น แม้จะเป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นมนุษย์ปกติ เป็นคนพิการ ต่างก็ต้องมีจิต เมื่อมีจิต ก็ต้องมีกุศลจิตที่เป็นความดีได้ เช่น การคิดมีเมตตา ขณะนั้นเป็นจิตที่ดี ก็เป็นความดีแล้ว คิดที่จะให้ ก็เป็นความดี คิดที่จะช่วยเหลือ ก็เป็นความดี เพราะฉะนั้น แม้คนพิการ ก็สามารถมีความดีได้ เพราะ มีจิต ขณะที่คิดดีก็เป็นความดี สามารถทำความดีได้ ในขณะนั้น ครับ
๕. ทุกๆ สิ่ง ที่เกิดขึ้นกับเรา ล้วนแล้วแต่เป็นกรรมเก่าทั้งหมดเลยเหรอคะ ถ้าสมมติเราขับรถชนคนตาย ทั้งๆ ที่เราไม่ได้ตั้งใจเลย อันนั้นเกิดจากกรรมที่เขาจำเป็นต้องตาย หรือว่าเป็นกรรมใหม่ที่เราเพิ่งสร้างคะ แล้วถ้าชะตาชีวิตเรา ถูกลิขิตมาจากกรรมทั้งหมด มันก็เป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ใช่ไหมคะ แล้วกรรมดีที่เราทำนี่ เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดมาแล้วด้วยหรือเปล่าคะ ตกลงเรามีสิทธิ์ที่จะกำหนด การกระทำของตัวเองได้ไหมคะ
- จะเป็นกรรม ที่เป็นอกุศลกรรม หรือ กุศลกรรมหรือไม่ สำคัญที่มีเจตนาหรือไม่ หากมีเจตนาฆ่า เพื่อให้ผู้อื่นตายจากการชน ก็เป็นบาป เป็นอกุศลกรรม แต่ถ้าไม่มีเจตนาฆ่า ก็ไม่เป็นบาป ไม่เป็นอกุศลกรรม ผู้ที่ตายก็มีกรรมของเขาที่ต้องตาย ซึ่งหากไม่มีเจตนาตั้งใจชนเขา เพื่อให้ตาย ก็ไม่ใช่เป็นการสร้างเหตุใหม่ คือการทำอกุศลกรรมของตนเอง ครับ ซึ่งชีวิตก็ถูกกำหนดด้วยกรรมเก่าในบางส่วน แต่ก็ต้องอาศัยกรรมใหม่ที่ทำ เป็นปัจจัยด้วย เพราะในความเป็นจริง สิ่งทั้งหลายที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เพียงอาศัยเพียงเหตุเดียว แต่อาศัยหลายๆ เหตุประกอบกัน ครับ ดังนั้น จึงไม่ได้อยู่ที่กรรมเก่าทั้งหมด กรรมที่ทำในปัจจุบันก็มีส่วนและเหตุปัจจัยอื่นๆ ด้วย ครับ
ส่วนกรรมดีที่เกิด ที่เป็นกุศลจิต ไม่มีใครกำหนด แต่เป็นไปตามการสะสมอุปนิสัยในอดีต ซึ่งอาจจะเกิดหรือไม่เกิดก็ได้ แล้วแต่เหตุในปัจจุบันด้วย ครับ
คำถามที่ว่า พวกเขาไปทำกรรมอะไรที่รุนแรงมา ถึงต้องได้รับผลของกรรม ร้ายแรงขนาดนี้ และถ้าพวกเขาเกิดมาทุพลภาพขนาดนี้แล้ว พวกเขาจะมีโอกาสสร้างกรรมดีให้ตัวเองได้อย่างไร แล้วถ้าสร้างกรรมดีให้ตัวเองไม่ได้ ชาติหน้าหรือภพภูมิหน้าของพวกเขาจะเป็นยังไงคะ แล้วถ้าเราอยากจะช่วยพวกเขา อย่างน้อยให้มันทุเลาลง หรือให้ชาติหน้าของพวกเขาดีขึ้นกว่านี้ เราจะทำได้ไหมคะ
ผู้ที่พิการมาตั้งแต่กำเนิด แต่เกิดเป็นมนุษย์ เป็นผลของกรรมดี ครับ แต่เป็นกรรมดีที่มีกำลังอ่อนมากๆ เขายังโชคดีที่เกิดเป็นมนุษย์ แม้จะทุกข์ทรมานในโลกมนุษย์พิการ แต่หากเป็นอกุศลกรรมให้ผล เกิดในนรก ทรมานกว่านี้มากมาย เพราะฉะนั้น เป็นผลของกุศลกรรมอย่างอ่อน ทำให้เกิดเป็นคนพิการตั้งแต่กำเนิด ครับ แต่หากผู้นั้นสะสมอุปนิสัยในอดีต ที่ทำความดีมาในอดีต ก็จะทำให้คิดดี ก็เป็นการทำความดีแม้เกิดเป็นคนพิการได้ เพราะแม้ความคิดที่ดี ก็ชื่อว่าเป็นการทำความดีแล้ว ครับ
พระพุทธเจ้าทรงแสดงครับว่า เมื่อเธอทั้งหลายเห็นผู้ที่พิการ หรือ เศรษฐีร่ำรวย ควรพิจารณาว่า แม้เราก็เคยเกิดเป็นคนพิการมาแล้ว นับชาติไม่ถ้วน และก็เกิดวนเวียนกันไปในสังสารวัฏฏ์อย่างนี้ ไม่รู้จักจบสิ้น ชีวิตที่มีค่าที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ คือการอบรมปัญญา ศึกษาพระธรรม ย่อมจะเป็นปัจจัย ให้พ้นจากความทุกข์ในสังสารวัฏฏ์ได้จริงๆ ครับ
ขออนุโมทนา ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สัตว์โลกทั้งหลายทั้งปวง ล้วนมีความเสมอกัน โดยความที่มีสภาพธรรมที่เป็นนามธรรม รูปธรรมเกิดขึ้นเป็นไป แต่ที่แตกต่างกัน คือ การสะสมเหตุ และ การได้รับผลของกรรม ซึ่งทั้งหมดก็เป็น ธรรม ที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น
สำหรับ การได้เกิดเป็น มนุษย์ นั้น เป็นการเกิดในสุคติภูมิ และเป็นสิ่งที่ยากอย่างยิ่งกับการที่จะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ เพราะจะต้องได้ด้วยกุศลกรรมเท่านั้น กุศลกรรมให้ผลจึงทำให้ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ มนุษยแต่ละคนก็แตกต่างกัน ตามการสะสม มีความประพฤติเป็นไปแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่สำหรับผู้ที่สะสม เหตุที่ดีมา ก็ย่อมกระทำตนให้คุ้มค่ากับการได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ด้วยการสะสมกุศล และฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา สะสมความเข้าใจถูก เห็นถูก ไปตามลำดับ
ในยุคนี้สมัยนี้ ยังเป็นยุคสมัยที่พระธรรมคำสอนของ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังดำรงอยู่ บุคคลผู้ที่ได้สะสมเหตุที่ดีมา ย่อมได้ฟัง ได้เพิ่มพูนปัญญาไปตามลำดับ
จึงเห็นได้ว่า การได้เกิดเป็นมนุษย์ประเสริฐยิ่งนัก มีโอกาสที่จะได้เจริญกุศลได้ทุกประการ รวมทั้ง การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมปัญญา ด้วย ขณะนี้แต่ละบุคคลได้ความเป็นมนุษย์แล้ว พระสัทธรรมก็ยังมีอยู่ จึงไม่ควรที่จะประมาทในชีวิต เพราะชีวิตเป็นของน้อย และ สั้นมาก เปรียบเหมือนกับหยาดน้ำค้าง ที่อยู่บนยอดหญ้า พอถูกแสงอาทิตย์ ก็เหือดแห้งไป, เปรียบเหมือนกับ รอยไม้ ที่ขีดลงไปในน้ำ ย่อมกลับเข้าหากันเร็ว ไม่ตั้งอยู่นาน, เปรียบเหมือนกับ ชิ้นเนื้อที่ใส่ไว้ในกระทะเหล็ก ไฟเผาตลอดทั้งวัน ย่อมจะย่อยยับไปรวดเร็ว ไม่ตั้งอยู่นาน, เปรียบเหมือนกับ แม่โคที่จะถูกเชือด ที่เขานำไปสู่ที่ฆ่า ย่อมก้าวเท้าเดินไปใกล้ที่ฆ่า ใกล้ความตาย เข้าไปทุกที ... ไม่รู้ว่าจะจากโลกนี้ไปเมื่อใด การไม่ประมาทในการเจริญกุศลประการต่างๆ และอบรมปัญญา ด้วย จึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับชีวิต ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ในพระไตรปิฎกแสดงไว้ว่า นรก สวรรค์มีจริงแน่นอน อย่างในโลกนี้ที่เกิดเป็นมนุษย์ เป็นคนร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี มีบ้านที่สวยงามยังกับวิมาน ยังกับสวรรค์ นี่ก็เป็นผลของกุศลที่เคยให้ทานมาก่อน ส่วนคนจนก็อยู่ในบ้านที่ไม่ดี ก็เป็นผลของอกุศล ค่ะ
ต้องขอขอบคุณทุกๆ ความเห็นมากๆ เลยนะคะ
โดยเฉพาะคุณ Paderm ที่อุตส่าห์สละเวลา อธิบายให้เข้าใจอย่างชัดเจน ทำให้คนที่ถือว่าด้อยปัญญามาก ในเรื่องของพระธรรมอย่างดิฉัน สามารถเข้าใจได้ ดิฉันต้องขอสารภาพตรงๆ ว่า เมื่อก่อนไม่เคยสนใจทางด้านนี้เลย แต่หลังจากได้มาทำงานอาสาสมัคร ไปในที่ต่างๆ เห็นคนที่อยู่ ในที่ต่างๆ หรือในสภาพต่างๆ ดังเช่นที่ดิฉันได้ยกตัวอย่างพวกน้องๆ ที่พิการทุพลภาพแต่กำเนิด ให้ฟังข้างต้น ยอมรับเลยค่ะ ว่ามันทำให้ดิฉันเกิดความสงสัยในเรื่อง การเกิดมาไม่เท่ากันของมนุษย์ และสนใจที่จะศึกษา โดยหวังว่า อาจจะมีส่วนได้ช่วยให้กรรมของน้องๆ เขา ทุเลาลงได้บ้าง เห็นได้ชัดเลยค่ะว่าดิฉันยังจำเป็นต้องไปหาความรู้เพิ่มเติมด้านนี้อีกเยอะ
ยังไงต้องขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ^^
มือใหม่ โสภารัตน์
เพิ่มเติมครับ เรื่อง ภพชาติ และการจุติมาเกิดใหม่
ก่อนเกิดเราคือใคร? เกิดแล้วเราคือใคร?