อกุศลธรรมทั้งหลาย เมื่อกำหนดรู้ได้ตามเป็นจริงแล้ว ละเสียนั้น ที่ว่าละนั้นละด้วยอาการอย่างไร
กุศลธรรมทั้งหลาย เมื่อกำหนดรู้ได้ตามเป็นจริงแล้ว ทำให้มาก ทำให้เจริญ ทำให้มาก ทำให้เจริญด้วยอาการอย่างไร
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
กำหนดรู้ด้วยปัญญา ไม่ใช่เราที่กำหนดไปพยายามไปกำหนดรู้ รู้ว่าขณะนี้เป็นธรรม ไม่ใช่เรา ขณะที่สติปัฏฐานเกิดรู้ลักษณะของสภาพธรรม ขณะนั้นเป็นการอบรมจนกว่า จะถึงปัญญาที่เป็นมรรคจิตจึงละกิเลสได้โดยเด็ดขาด
กุศลธรรมที่เจริญแล้วทำให้มากแล้วคือการเจริญสติปัฏฐานคือสติเกิดขึ้นระลึกลักษณะ ของสภาพธรรมว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา ในขณะนี้เองครับ โดยอาศัยการฟังให้เข้าใจก่อน ว่าธรรมคืออะไรครับ
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขอขอบพระคุณ
เมื่อสติเกิด ทำหน้าที่ระลึก ไม่ใช่ตัวเราระลึก ปัญญาเกิด ทำหน้าที่รู้ ไม่ใช่ตัวเรารู้ รู้หรือเข้าใจในสิ่งที่ปรากฏ เป็นสภาพธรรมของปัญญาเจตสิก มีอาการละคลายความไม่รู้ มีอาการละคลายความสงสัย ขณะนั้นจิตมีเจตสิกฝ่ายดีอื่นๆ เกิดร่วมด้วย มีการปรุงแต่งด้วยสภาพธรรมที่ดีหรือกุศล เมื่อกุศลเกิด ขณะนั้น อกุศลย่อมไม่เกิด ทั้งหมดเป็นสภาพธรรมที่เกิดขึ้น ด้วยเหตุ ปัจจัย เมื่อพร้อมจึงเกิด ห้ามไม่ได้ เกิดแล้ว ทำหน้าที่แล้ว ดับไปแล้ว เพราะฉะนั้นจึงควรหมั่น เจริญกุศลอยู่เนืองๆ ด้วยการระลึกรู้สภาพธรรมตามที่ปรากฏ ตามปกติ พิจารณาในชีวิตประจำวัน ไม่มีใครจะไปกำหนดอะไรเลย เพราะไม่ใช่เรา