[เล่มที่ 25] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้า 32
๒. สีหสูตร
ว่าด้วยบันลือสีหนาท
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 25]
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้า 32
๒. สีหสูตร
ว่าด้วยบันลือสีหนาท
[๔๔๙] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี.
ก็สมัยนั้นแล พระองค์แวดล้อมด้วยบริษัทหมู่ใหญ่ ทรงแสดงธรรมอยู่.
ครั้งนั้นแล มารผู้มีบาปได้มีความคิดเห็นอย่างนี้ว่า พระสมณโคดมนี้แล แวดล้อมด้วยบริษัทหมู่ใหญ่ แสดงธรรมอยู่ ถ้ากระไร เราพึงเข้าไปใกล้ ณ ที่พระสมณโคดมประทับอยู่ เพราะประสงค์จะยังปัญญาจักษุให้พินาศ.
[๔๕๐] ลำดับนั้น มารผู้มีบาปเข้าไปใกล้พระผู้มีพระภาคเข้าถึงประทับ ครั้นแล้ว กล่าวกะพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยคาถาว่า
ท่านเป็นผู้องอาจในบริษัท บันลือสีหนาท ดุจราชสีห์ ฉะนั้นหรือ ก็ผู้ที่พอจะต่อสู้ท่านยังมี ท่านเข้าใจว่าเป็นผู้ชนะแล้วหรือ.
[๔๕๑] พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสตอบด้วยพระคาถาว่า
ตถาคตเป็นมหาวีรบุรุษ องอาจในบริษัท บรรลุทสพลญาณ ข้ามตัณหาอันเป็นเหตุข้องในโลกเสียได้ บันลืออยู่โดยแท้.
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้า 33
ครั้งนั้นแล มารผู้มีบาปเป็นทุกข์ เสียใจว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรู้จักเรา พระสุคตทรงรู้จักเรา ดังนี้ จึงได้หายไปในที่นั้นเอง.
อรรถกถาสีหสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในสีหสูตรที่ ๒ ต่อไป :-
บทว่า วิจกฺขุกมฺมาย ได้แก่ เพื่อประสงค์จะทำปัญญาจักษุของบริษัทให้เสีย. แต่มารนั้น ไม่อาจทำปัญญาจักษุของพระพุทธะทั้งหลายให้เสียได้ ได้แต่ประกาศหรือสำแดงอารมณ์ที่น่ากลัวแก่บริษัท. บทว่า วิชิตาวี นุมญฺสิ ความว่า ท่านยังสำคัญว่า เราเป็นผู้ชนะอยู่หรือหนอ ท่านอย่าสำคัญอย่างนี้ ความชนะของท่านไม่มีดอก. บทว่า ปริสาสุ ได้แก่ ในบริษัท ๘.บทว่า พลปฺปตฺตา ได้แก่ ผู้บรรลุทศพลญาณ.
จบอรรถกถาสีหสูตรที่ ๒