ชาวนาย่อมหว่านพืชบ่อยๆ
ฝนย่อมตกบ่อยๆ
ชาวนาย่อมไถนาบ่อยๆ
แว่นแคว้นย่อมบริบูรณ์ด้วยธัญญาชาติบ่อยๆ
ยาจกย่อมขอบ่อยๆ
ทานบดีย่อมให้บ่อยๆ ย่อมเข้าถึงสวรรค์บ่อยๆ
ผู้ต้องการน้ำนมย่อมรีดน้ำนมบ่อยๆ
ลูกโคย่อมเข้าไปหาแม่โคบ่อยๆ
บุคคลย่อมลำบากและดิ้นรนบ่อยๆ
คนเขลาย่อมเข้าถึงครรภ์บ่อยๆ
สัตว์ย่อมเกิดแล้วตายบ่อยๆ
บุคคลทั้งหลายย่อมนำซากศพไปป่าช้าบ่อยๆ
ส่วนผู้มีปัญญา ถึงจะเกิดบ่อยๆ ก็เพื่อได้มรรค แล้วไม่เกิดอีก
บ่อยๆ
[เล่มที่ 42] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้าที่ 14
ข้อความบางตอนจาก เรื่อง นางลาชเทวธิดา
"ถ้าบุรุษพึงทำบุญไซร้, พึงทำบุญนั้นบ่อยๆ พึง ทำความพอใจในบุญนั้น เพราะว่า ความสั่งสมบุญ ทำให้เกิดสุข"
บ่อยๆ
[เล่มที่ 43] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้าที่ 14
ข้อความบางตอนจากเรื่อง พราหมณ์คนใดคนหนึ่ง
บาทพระคาถาว่า กมฺมาโร รชตสฺเสว ความว่า บัณฑิตทำกุศลอยู่บ่อยๆ ชื่อว่าพึงกำจัดมลทิน คือกิเลสมีราคะเป็นต้นของตน ด้วยว่า เมื่อเป็นอย่างนั้น บัณฑิตย่อมเป็นผู้ชื่อว่ามีมลทินอันขจัดแล้ว คือไม่มีกิเลส เหมือนช่างทองหลอมแล้วทุบทองครั้งเดียวเท่านั้น ย่อมไม่อาจไล่สนิมออกแล้วทำเครื่องประดับต่างๆ ได้ แต่เมื่อหลอมทุบบ่อยๆ ย่อมไล่สนิมออกได้ภายหลัง ย่อมทำให้เป็นเครื่องประดับต่างๆ หลายอย่างได้ฉะนั้น
บ่อยๆ
[เล่มที่ 67] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส เล่ม ๖ - หน้าที่ 137
พระองค์เป็นพระมุนี ตรัสสอนชนเหล่าใดบ่อยๆ ก็ ชนแม้เหล่านั้นพึงละทุกข์ได้เป็นแน่ ข้าพระองค์มาพบ แล้วซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ประเสริฐ จักขอนมัสการ พระองค์ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าพึงตรัสสอนข้าพระองค์ บ่อยๆ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ฐานะ ๕ ที่เราควรพิจารณาบ่อยๆ เนืองๆ ว่า
เรามีความแก่เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้
เรามีความเจ็บเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไปได้
เรามีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้
เราจักต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น
เรามีกรรมเป็นของตน มีกรรมเป็นทายาท มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง จักทำกรรมใด ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม เราจะเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น
ขออนุโมทนาแล้วจะแวะเข้ามาบ่อยๆ
เรื่องอื่นเกิดบ่อย ยกเว้นสติ
ทั้งๆ ที่รู้ แต่อกุศลก็เกิดขึ้นบ่อยๆ
เป็นธรรมดาที่ย่อมเกิด ... บ่อยๆ
เป็นธรรมดาที่ย่อมเกิด ... บ่อยๆ
สาธุๆ
ขออนุโมทนาครับ
[เล่มที่ 39] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 4
เราแสวงหาช่างผู้ทําเรือนคือ อัตภาพ เมื่อไม่พบ ได้ท่องเที่ยวไปแล้ว สิ้นสงสารนับด้วยชาติมิใช่น้อย ความเกิดบ่อยๆ เป็นทุกข์
ดูก่อนช่างผู้ทําเรือนคือ อัตภาพ เราพบท่านแล้ว ท่านจักทําเรือนคืออัตภาพของเราอีกไม่ได้ โครงบ้านของท่านทั้งหมด เราทําลายแล้ว ยอดแห่งเรือน คือว่า เรารื้อแล้ว จิตของเราถึงพระนิพพานแล้ว เพราะเราได้บรรลุธรรมเป็นที่สิ้นตัณหาทั้งหลายแล้ว.
พระขีณาสพ ย่อมไม่กระหยิ่มยินดีความตาย ไม่มุ่งหมายความเป็น
ขออนุโมทนาอย่างสูง
งั้นผมก็ขอฟังและอ่าน บ่อยๆ นะครับ
สาธุ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ
อ่านแล้วไม่อิ่มในพระธรรมบ่อยๆ ครับ
ขอบพระคุณ และขอกราบอนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ