หนังสืมพิมพ์หรือที่ได้ฟังมาในเรื่องของผู้อื่น
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ในการสนทนาเมื่อมีเหตุการณ์หนึ่งเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นเนี่ยนะคะ มีคนที่ทำผิดเป็นที่ติเตียนของสังคม ลองฟังแล้วลองคิดว่าใจของท่านเนี่ย คิดยังไง ถ้าคิดซ้ำเติม ช่วยกันกระหน่ำซ้ำเติมบุคคลนั้น จะเห็นได้ไหมคะว่า ขณะนั้นนะค่ะเข้าใจว่า อธรรมดีกว่าธัมมะหรือเปล่า เพราะว่าขณะที่ช่วยกันกระหน่ำซ้ำเติมคนนั้นนะคะ ขณะนั้นเป็น อธรรม (อกุศล) ไม่ใช่เป็นธัมมะ (กุศล) แต่ถ้าเป็นธัมมะ (กุศล) แล้วก็จะทำให้เกิดสติ สัมปชัญญะที่จะระลึกได้ แล้วก็มีความเมตตาอดกลั้นมีความอดทน แทนที่จะช่วยกันให้เกิดอกุศลหรือโทสะเพิ่มขึ้น
คำบรรยายจากท่านอ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เรื่อง บารมีในชีวิตประจำวัน
เรื่อง ผู้มีปัญญาย่อมอดทนต่อความเสียหายหรือการกระทำไม่ดีของผู้อื่น และมีขันติมากขึ้นเมื่อได้รับสิ่งไม่ดีจากผู้อื่น
[เล่มที่ 74] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จริยาปิฎก เล่ม ๙ ภาค ๓ - หน้าที่ 605
อนึ่งผู้มีปัญญาเท่านั้นเป็นผู้มีความอดกลั้นต่อความเสียหายของผู้อื่นเป็นต้น. ผู้มีปัญญาทรามไม่เป็นผู้อดกลั้น. ความเสียหายที่ผู้อื่นนำไปให้แก่ผู้ปราศจากปัญญา ย่อมเพิ่มพูนความเป็นปฏิปักษ์ของความอดทน. แต่ความเสียหาย เหล่านั้นของผู้มีปัญญาย่อมเป็นไปเพื่อความมั่นคงแห่งขันตินั้นด้วยเพิ่มพูนความสมบูรณ์แห่งขันติ.
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
[เล่มที่ 61] ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๗ - หน้าที่ ๑๒๔
กุลบุตรผู้ประกอบความเพียรในสิ่งอันไม่เป็นสาระว่าเป็นสาระ ก็ย่อมไม่ประสบความรู้เลยทีเดียวย่อมจะจมลงในห้วงอันตรายอย่างเดียว เหมือนกวางวิ่งโลดโผนไปในซอกผา ตกจมเหวลงไปในระหว่างทางฉะนั้น
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนากับทุกท่านที่พยายามเพ่งโทษตนเองมากกว่าผู้อื่น เพราะมีโอกาสได้ขัดเกลาจิตใจและไม่ส่งเสริมให้เกิดอกุศลจิตมากขึ้นกว่าปกติ
ในสังสารวัฏฏ์อันยาวนาน ไม่ทราบได้เลยว่าจะต้องพบกับวิบากอันเลวร้ายอย่างไร
ขออนุโมทนา
สำหรับผู้กำลังศึกษาธรรมะและมีความรู้อยู่ว่าอะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นผล เมื่อสติเกิด ย่อมรู้จักธรรมะที่กำลังปรากฎแท้จริงบ่อยขึ้น โอกาสที่จะละอกุศลได้ย่อมมีมากขึ้นตามกำลังของปัญญาที่สะสมมา มีเพื่อนถามว่าทำไมทนพฤติกรรมไม่ดีของผู้อื่นได้ ตอบเขาไปว่า " กลัวโทษภัยของอกุศลกรรมเวียนกลับมาอีก " อย่างที่คุณพุทธรักษาว่าเป็นวิบากอันเลวร้ายนี้กระมัง การไม่ตอบโต้โดยอดทนอดกลั้นด้วยมีจิตสำนึกไว้เสมอว่าเป็นกรรมแต่ชาติปางก่อนที่เราทำไว้เอง ขออนุโมทนากับทุกท่านที่พยายามถ่ายทอดความรู้ เข้าใจในสภาพธรรมที่กำลังมีกำลังปรากฎ ช่วยกันฉุดช่วยกันดึงให้พ้นจากอวิชชา คือความไม่รู้
มีถ้อยคำประโยคหนึ่งที่เคยได้ฟังมานานแล้ว เป็นข้อความเตือนใจผมได้เป็นอย่างดี ลองพิจารณาดูนะครับ
"หากไม่มีผู้ทำให้เราเสียหายแล้วไซร้ ขันติบารมีของเราจะเจริญขึ้นได้อย่างไร"
ถ้าจำไม่ผิด ข้อความนี้ (ขออภัยหากมีความคลาดเคลื่อนประการหนึ่งประการใด) อยู่ในเทปชุดบารมีในชีวิตประจำวัน ซึ่งช่วยเตือนให้ผมระลึกถึงบารมีทั้งหลายที่ควรอบรมเจริญเพื่อนำออกจากทุกข์ ซึ่งประเสริฐกว่าการโกรธตอบผู้ที่ทำให้รู้สึกไม่พอใจด้วยความเป็นตัวตน และด้วยความสำคัญตน
ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นชัดเจนคือ เดี๋ยวนี้ผมเป็นคนขับรถที่มีน้ำใจมากขึ้น เมื่อมีผู้กล่าววาจาหรือมีการกระทำที่ (คิดว่า) ไม่เหมาะสม ก็จะโกรธน้อยลง และมีความรู้สึกเป็นมิตรมากขึ้น ผมคิดว่าชาตินี้มีโอกาสฟังธรรมะแล้ว หากอกุศลใดยังลด ยังละไม่ได้ชาติต่อๆ ไปที่ไม่ได้ฟังพระธรรมคงแทบหมดโอกาสขัดเกลากิเลส ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์และกัลยาณมิตรทุกท่าน ที่ช่วยกันทำให้คนในยุคนี้สมัยนี้ มีโอกาสศึกษาพระธรรมตามแนวทางที่ถูกต้องครับ
ขออนุโมทนา
ถ้าเอาชื่อของทุกคนออกหมด ก็มีแต่สภาพธรรมที่เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป เป็นธาตุชนิดหนึ่งๆ สติอีกขั้นหนึ่งคือ "ขณะระลึกรู้สภาพจิตใจของตนเอง" แต่จะต้องเป็นคนตรงจึงจะรู้ได้
จาก "เกิด แก่ เจ็บ ตาย" โดย อ. สุจินต์ บริหารวนเขตต์
เชิญคลิกฟัง........
กรรมทำให้สังสารวัฏฏ์ยาวนานออกไป
เป็นผู้ยินดีในการฟังธรรมของท่านอาจารย์ค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ