นิมิต
ความจริงมีธรรม เช่น จิต แต่สิ่งนี้เกิดดับ รวดเร็ว กระทั่งขณะนี้ ก็ไม่ทราบการเกิดดับ ตามที่ทรงแสดงว่า จากภวังค์ที่ไม่มีอารมณ์ปรากฏ มาสู่จักขุทวารวัชชนจิต (ถ้าเป็นทางตา) เกิดขึ้นและก็ดับ ก็ไม่ได้ทราบจักขุวิญญาณจิต เกิดและก็ดับอีก จิตอื่นๆ ต่อมา ก็ไม่ได้ทราบทั้งนั้นทั้งหมด ขณะนี้ที่ฟังเรื่องการเกิดดับของจิต แต่ก็ยังไม่ได้มีการเข้าใจการเกิดดับของจิต ๑ ขณะ เมื่อไม่รู้อย่างนี้จึงเป็นนิมิต แม้แต่จิต (วิญญาณนิมิต)
รูปนิมิต
ขณะนี้มีสีที่ปรากฏทางตา แต่สิ่งที่ปรากฏทางตา เกิดดับสืบต่ออย่างเร็ว จึงปรากฏเป็นรูปร่าง สัณฐาน เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด โดยไม่เห็นว่าดับไป นั้นคือ นิมิตที่ปรากฏ เช่น คนซึ่งเป็นสิ่งที่ลวง (สิ่งที่ปรากฏทางตา เป็นจริง) เป็นรูปนิมิต
เวทนานิมิต
ความรู้สึก เช่น ทุกข์ ๑ ขณะ ที่เกิดพร้อมกับกายวิญญาณ จะปรากฏ เป็นทุกข์หรือ สุขทางกาย เป็นเจ็บปวด ก็คือ เวทนานิมิต
สัญญานิมิต
ความจำที่เกิดดับ พร้อมกับจิตทุกขณะ แต่พอรู้ว่าจำสิ่งนั้นๆ ว่าเป็นอะไร สัญญาที่จำสืบต่อกระทั่งรู้ว่าเป็นอะไร ก็เป็นสัญญานิมิต
สังขารนิมิต วิญญาณนิมิต ก็เป็นนัยเดียวกัน คือ “สิ่งนั้นมีจริง แต่เกิดดับ เมื่อไม่ปรากฏ ร่องรอยการเกิดดับ ก็ปรากฏการสืบต่อ เป็นนิมิต”
อ่านข้อความเตือนสติ ทั้งหมดจากสุภากัมมารธิดาเถรี คาถา..ข้อความเตือนสติเรื่องสุภากัมมารธิดาเถรีคาถา
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ