เมตตา คือ ความเอ็นดู ความรู้สึกที่เป็นเพื่อน ความหวังดี การช่วยเหลือ การเกื้อกูลสงเคราะห์ แต่ไม่ใช่การผูกพัน ซึ่งใกล้กับโลภะคือความติดข้อง การเล่าธรรมชาดกให้เด็กฟัง สอนให้เด็กรู้จักบาปบุญคุณโทษ และเรื่องกฎแห่งกรรม ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ทำให้เด็กรู้จักกลัวบาป เป็นการปลูกฝังสิ่งที่ดีให้เด็ก การเจริญเมตตาเริ่มต้นให้กับอาจารย์และผู้มีพระคุณก่อน ต่อมาให้กับคนที่รัก และคนที่เฉยๆ คนที่ไม่รักเป็นคนสุดท้ายค่ะ
ศัตรูไกลของเมตตาคือ โทสะ ศัตรูใกล้ของเมตตาคือ โลภะ สภาพของโลภะ โทสะเป็นสภาพที่หนัก แต่สภาพของเมตตาเป็นสภาพที่เบา เมื่อเมตตาเกิดไม่ทำร้ายใคร ไม่มีสิ่งใดแอบแฝง มีแต่ความเป็นมิตรโดยบริสุทธิ์ใจ ไม่ใช่ลักษณะที่หวังให้ใครมารัก มารู้จัก มาสนิทสนม ไม่สร้างเยื่อใย หรือก่อความโหยหาในกามเหมือนโลภะ ที่พอไม่ได้ตามปรารถนา ก็เป็นเหตุให้เกิดโทสะครับ
ขออนุโมทนา
ผู้ที่เดินทางร่วมกันตั้งแต่ ๗ ก้าวขึ้นไป เรียกว่ามิตร ผู้ที่เดินทางร่วมกันตั้งแต่ ๑๒ ก้าวขึ้นไป เรียกว่า สหาย ผู้ที่เยี่ยมกันครึ่งเดือนต่อครั้ง หรือเดือนละครั้งเรียกว่า ญาติ ผู้ที่ร่วมสุขร่วมทุกข์กัน ดีกว่า มิตร สหาย และ ญาติ ผลของความดีทำให้ได้มิตรแท้ต่างๆ มากขึ้นด้วยค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ข้ามไป จะอบรมเฉพาะสติปัฏฐาน ลืมไปที่จะอบรมบารมีในชีวิตประจำวัน เช่น การมีเมตตา (เพราะสติปัฏฐานไม่ได้เกิดบ่อย แล้วขณะที่สติปัฏฐานไม่เกิดล่ะ) ถ้าไม่อบรมบารมี ก็ไม่มีทางถึงฝั่งคือพระนิพพาน เช่นกัน ขอให้ทุกท่าน เริ่มเห็นประโยชน์ของการมีเมตตากันนะครับ
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขอบูชาคุณพระรัตนตรัย
"เมตตาธรรมค้ำจุนโลก"
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ