ในชีวิตปุถุชน [ผู้มากไปด้วยเรื่องราว]
เมื่อลืมตาตื่นก็เปิดประตูทั้งหก
รับรู้อารมณ์ต่างๆ แล้วก็ปรุงปั่นไป
ตามบทบาทการสะสม
เสพคุ้นบ่อยๆ เนืองๆ จนเคยชิน
ว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งนี้ ทุกอย่างเป็นของเรา
คราบฝังแน่นชนิดที่โอโมก็ขอบาย
เกิดพร้อมกับคำว่า ยึดติด ติดยึด
ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ
และเมื่อความรู้สึกเป็นใหญ่ว่า ของๆ เรา
คน-สถานที่-ศาสนา ฯลฯ ของ เรา
แล้ว เขา คือ ใคร
เมื่อยังเห็นเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด ก็ย่อมเป็นเรื่องราวต่างๆ ตามมา
เมื่อยังไม่สามารถระลึกรู้ตามจริงได้
จึงเกิดการกระทำ ตามกำลัง
พลันได้รับเวทนาเสียบแทงใจให้ผล สุ (ก) ร้อน
ถูกโลกสันนิวาสครอบงำ (ตามเคย)
ก็นะ...ถึงเขาหลอกก็เต็มใจให้หลอก
ก็มันหวงนี่นา อาการแบบนี้เกิดบ่อยไหมค่ะ?
กราบอนุโมทนา
พระสุตตันตปิฎก [ว่าด้วยผัสสะ]
เชิญคลิกอ่านได้ที่
ผู้เห็นวิเวกในผัสสะทั้งหลาย
..............................................................
ท่านอาจารย์ เตือนว่า..."สติ" คือ การ ระลึก...ที่เป็นไปในกุศล
"ปัฏฐาน" คือ ที่ตั้งของสติ หรือ อารมณ์ของสติ.
และ
"ธรรม" ทุกอย่าง.... "ที่มีลักษณะ""เป็นที่ตั้งของสติ" ได้.
.
.
.
.....................ขออนุโมทนาค่ะ...................
00370 ตัณหาเป็นเหตุแห่งทุกข์
ตํ วินา นาญฺญโต ทุกฺขํ น โหติ น จ ตํ ตโต
ทุกฺขเหตุนิยาเมน อิติ สจฺจํ วิสตฺติกา
เว้นจากตัณหานั้นแล้วทุกข์ย่อมไม่มีแต่เหตุอื่น และทุกข์นั้นย่อมไม่มีจากตัณหานั้นก็หาไม่
เพราะฉะนั้น
ตัณหาตัวซัดซ่ายไปในอารมณ์ต่างๆ นั้น
บัณฑิตจึงรู้ว่า เป็นสัจจะ
โดยกำหนดอรรถว่าเป็นเหตุแห่งทุกข์.
ธรรมเตือนใจวันที่ : 3 มิ.ย. 2549
หวง..หวงอะไร คน สัตว์ สิ่งของ ..?
แล้วใครที่ไม่หวง..ยิ่งเกี่ยวข้อง ผูกพัน ยึดมั่น..ก็ยิ่งหวง.ตราบเท่าที่.. ... เป็นโลกสันนิวาส ..ของปุถุชนข้อความจากพระพุทธพจน์....
[๒๑] ๑. เมื่อโลกสันนิวาส อันไฟลุกโพลงอยู่เป็นนิตย์
พวกเธอยังจะร่าเริงบันเทิงอะไรกันหนอ เธอทั้งหลาย
อันความมืดปกคลุมแล้ว ทำไมจึงไม่แสวงหาประทีปเล่า.เชิญคลิกอ่าน....
สิ่งที่คร่ำคร่าชรา [ชราวรรค๑ที่ ๑๑]อนุโมทนาคะ
ขออนุโมทนาค่ะ
สาธุ
คนที่ไม่พูด ชนทั้งหลายย่อมรู้ไม่ได้ว่า เป็นพาลหรือบัณฑิต
ส่วนคนที่พูด ชนทั้งหลายย่อมรู้ว่าเป็นผู้แสดงอมตบท
บุคคลพึงยังธรรมให้สว่างแจ่มแจ้ง พึงยกย่องธงของฤาษีทั้งหลาย
เพราะว่าธรรมเป็นธงของพวกฤาษี
โลกสันนิวาส โลกสันนิวาส เท่าที่พบ ก็จะหมายถึงขันธ์ ๕ , หมายถึงสัตว์โลก , หมายถึง ที่เป็นที่เกิดของหมู่สัตว์ จึงเป็นเรื่องที่น่าพิจารณาจริงๆ พระอริยบุคคลขั้นต่างๆ ท่านก็สามารถที่จะดับกิเลสได้ตามลำดับมรรค กิเลสใดๆ ที่ท่านละได้แล้ว ก็ไม่เกิดขึ้นอีก เช่น พระโสดาบัน ไม่มีความเห็นผิด ไม่มีความลังเลสงสัยในสภาพธรรมไม่มีความตระหนี่ ไม่มีความริษยา พระอนาคามี ไม่มีโทสะ ไม่มีความติดข้องในกาม
พระอรหันต์ ไม่มีอวิชชา ไม่มีโลภะที่เป็นความยินดีพอใจในภพ ไม่มีมานะ ดังนั้น ถ้ากล่าวอย่างกว้างๆ พระอริยบุคคลทุกขั้น ยังมีขันธ์ ๕ (หนึ่งในความหมายของโลกสันนิวาส) ยังมีจิต เจตสิก รูป เกิดขึ้นเป็นไป แต่ขันธ์ ที่เป็นไปในฝ่ายของอกุศลธรรมที่ท่านละได้แล้ว ก็ไม่เกิดขึ้นอีกแต่เมื่อกล่าวอย่างสูงสุด พระอรหันต์ เมื่อดับขันธปรินิพพานแล้ว
ไม่มีการเกิดอีกเลยในสังสารวัฏฏ์ จึงกล่าวได้ว่า เป็นผู้ไม่มีโลกสันนิวาส
เพราะไม่มีขันธ์เกิดอีก ไม่ต้องมีการเกิดในภพภูมิต่างๆ อีก
(เป็นข้อความอธิบายของคุณ khampan.a เห็นว่าเป็นประโยชน์จึงนำมาลงให้อ่านกันคะ)
กว่าจะถึงความเป็นผู้เห็นวิเวกในผัสสะทั้งหลาย ก็ต้องค่อยๆ อบรมความเห็น
ถูกความเข้าใจถูกในสิ่งที่กำลังปรากฎในขณะนี้ว่าเป็นเพียงสภาพนามธรรม และ
รูปธรรมทั่วทั้ง ๖ ทวาร จนกว่าปัญญาจะค่อยๆ เจริญขึ้นระลึกรู้ในสภาพธรรมตรง
ตามความเป็นจริง ว่างจากสัตว์ บุคคล ตัวตน สิ่งของต่างๆ ..
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ปุถุชนปกติก็มีความหวงหรือความตระหนี่เป็นธรรมดาค่ะ
ตระหนี่ 5 อย่างคือ
1. ตระหนี่ที่อยู่อาศัย
2. ตระหนี่ลาภ
3. ตระหนึ่คำสรรเสริญ
4. ตระหนี่ตระกูล
5. ตระหนี่ธรรมะ
ความหวง ความไม่สละ ความตระหนี่ ฯลฯ
เป็นสิ่งที่ควรรู้ว่ามีจริง และเป็นสิ่งที่ควรรู้ด้วยว่า " ไม่ใช่เรา "
ขออนุโมทนาครับ
ตระหนี่ยังไง ก็ต้องให้
ห่วงอย่างไร ก็ต้องจาก
ยุ่งอย่างไร ก็ต้องมีว่าง
พอว่างมากๆ ก็อยากจะยุ่ง
วันนี้คิดถึง พรุ่งนี้ลืม
นึกว่าฉลาด ที่แท้ยังโง่
ปัญหามันอยู่ที่มีเรา มีของเรา มีหวงก็มีเรา มีของเราถึงหวง เมื่อมีเราโลกสันนิวาสก็เคลื่อนพลแล้ว แล้วชีวิตประจำวันก็เป็นอย่างนี้ เกิดมากกว่าบ่อยเสียอีกเป็นชีวิตประจำวันเลย ทีนี้จะไม่มีเราได้อย่างไร เอาเราออกได้อย่างไร ในเมื่อมีเราจนเป็นปรกติแล้วจึงเป็นสิ่งที่เข้าใจยากโดยเฉพาะคนไหม่ พระพุทธเจ้าสอนว่าธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา เกิดแล้วก็ดับหาสาระไม่ได้ เมื่อสิ่งที่มีจริงเป็นธรรม แล้งธรรมทั้งปวงก็เป็นอนัตตาตามคำสอน จึงไม่ใช่อัตตา เมือเป็นอัตตาก็มีเรา เป็นอนัตตาก็ไม่มีเรา จึงต้องเข้าใจเสียไหม่ให้ผิดไปจากที่เข้าใจที่เป็นปรกติมันก็ยากอย่างนีแหละ ยังมีผู้สอนเป็นจำนวนมากสอนเป็นอัตตา เป็นอันตรายมากๆ ๆ จะเสียเวลา จึงจำเป็นต้องเข้าใจไห้ถูกต้องถ้ารักจะเรียน ครับ
ที่นี่ช่างรื่นรมย์จริงหนอ............^ ^
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนา